fbpx

เด็กๆชอบจับช้างน้อยหรือน้องหนูเป็นเรื่องปกติรึเปล่านะ?

Writer : OttChan
: 16 พฤษภาคม 2562

อีกหนึ่งในปัญหาหลักๆที่คุณพ่อคุณแม่ต้องเป็นกังวลกับเรื่องของลูกคือ เรื่องการจับอวัยวะเพศ คงปฎิเสธไม่ได้เลยว่าทุกครั้งที่เห็นมือซนๆของเจ้าตัวเล็กลงไปจับไปสัมผัสกับจุดลับต่อหน้าเราหรือกลางที่สาธารณะ ฝ่ามืออรหันต์ก็จะลงไปประทับบนผิวนุ่มๆหรือเสียงดุๆก็จะก้องอยู่ในใบหูน้อยทันทีด้วยความรู้สึกต้องห้ามลูกไม่ให้ทำพฤติกรรมอันไม่สมควรหรือเหมาะสม รวมถึงความกังวลที่ลูกอาจจะติดนิสัยเลยยิ่งต้องตำหนิติเตียน

ทำไมถึงชอบจับกันนะ? มันเป็นเรื่องปกติรึเปล่า?

การที่ลูกน้อยหรือเด็กในบ้านชอบจับช้างน้อย, น้องหนูนั้นไม่ใช่เรื่องผิดปกติแต่เป็นหนึ่งในกระบวนการการเรียนรู้ตามวัยที่คุณพ่อและคุณแม่ต้องหมั่นสังเกต ในความจริงแล้วเด็กทุกช่วงวัยจะมีการสำรวจตนเองและเรียนรู้ร่างกายของเขาอยู่เสมอแต่เพราะยังสื่อสารไม่คล่องและยังไม่รู้ถึงวิธีการถามตอบกับผู้ใหญ่อาจจะด้วยความอายหรือกลัวการถูกดุด่า ทำให้เมื่ออยากรู้ก็มักจะหาคำตอบด้วยตัวเองเช่นการลองจับอวัยวะเพศของตนหรือลองจับของเพื่อนต่างเพศหรือเพศเดียวกันซึ่งในสายตาของผู้ใหญ่แล้วย่อมไม่ใช่เรื่องที่ถูกกาลเทศะหรือเหมาะสมอย่างแน่นอน

ดังนั้นเราจะมาเจาะลึกกันอีกนิดถึงช่วงอายุในการเรียนรู้นี้เพื่อเตรียมหาทางรับมือกันค่ะ

เด็กจะแบ่งตามพัฒนาการได้ตั้งแต่ช่วงอายุ 1-8 ปีในการเรียนรู้เรื่องเพศของตน

แบเบาะจนถึงช่วง 3 ขวบ

ในทางการแพทย์ เด็กจะเริ่มเรียนรู้ร่างกายตัวเองด้วยการสัมผัส มักจะชอบลูบจับอวัยวะของตนซึ่งแน่นอนว่ากับอวัยวะเพศที่เรียกกันอย่างน่ารักๆว่าช้างน้อยหรือน้องหนูเองก็เป็นหนึ่งในส่วนที่ลูกน้อยชอบลูบจับด้วยความอยากรู้อยากเห็นซึ่งอาจจะเป็นช่วงที่มีการเปลี่ยนผ้าอ้อมหรือทำความสะอาดหลังการขับถ่ายเพราะผิวเด็กนั้นไวต่อสัมผัสการจับต้องเนื้อตัวหรืออวัยวะร่างกายจึงถือว่าเป็นสิ่งที่เพลิดเพลินสำหรับเขาเลยก็ว่าได้ในการเรียนรู้รวมถึงความรู้สึกดี(ไม่ใช่ในเชิงเพศ) เพราะฉะนั้นเราจึงมักเห็นเด็กในวัยนี้มีการลูบจับหรือคลำอวัยวะเพศของตนเองอยู่บ่อยครั้ง

อายุ 4-5 ขวบ

เป็นวัยที่ต้องการสำรวจทั้งเพศสภาพตนเองและเพศสภาพของเพื่อนๆ คุณพ่อคุณแม่จึงมักจะสังเกตเห็นได้ว่าวัยซนทั้งชายและหญิงจะชอบมีการแกล้งหรือการละเล่นที่ดูทะลึ่งตึงตังหรือซุกซนจนชวนปวดหัวไม่ว่าจะเป็นการแอบเปิดกระโปรง, ดึงกางเกงรึแม้แต่การเล่นตรวจร่างกายแบบคุณหมอดูคนไข้ที่เด็กมักจะมีการถลกเสื้อขึ้นจริงหรือถอดชุดออกจริงเพื่อโชว์เพศสภาพของตัวเอง พฤติกรรมเหล่านี้คือเรื่องปกติของวัยที่สามารถเกิดขึ้นได้ไม่จำเป็นต้องกังวลจนเกินไป

อายุ 6-8 ขวบ

เข้าสู่ความสนใจในเรื่องเพศอย่างจริงจังไม่ใช่แค่เรื่องเพศสภาพแต่อยากรู้ไปถึงว่าหากตนอยู่ในเพศนี้จะต้องปฏิบัติตัวอย่างไรหรือที่เรียกว่า วัยลอกเลียนแบบ เด็กหญิงเลียนแบบคุณแม่ เด็กชายเลียนแบบคุณพ่อหรืออาจมีการสลับเปลี่ยนเพศดูด้วยความอยากรู้อยากเห็นก็สามารถเกิดขึ้นได้เช่นกันกับวัยค้นหาตนเองซึ่งวัยนี้จะให้ความสนใจกับการจับหรือสัมผัสน้อยลงแต่จะเน้นมุ่งไปทางการแสดงออกถึงความเป็นเพศตนมากกว่า

แล้วจะรู้ได้อย่างไรว่าเริ่มเข้าข่ายหมกมุ่นหรือมีความผิดปกติเกิดขึ้นเกี่ยวกับเรื่องเพศของลูก

ถึงจะเป็นพฤติกรรมที่เกิดขึ้นตามการเจริญเติบโตของวัยแต่ก็ยังคงวางใจไม่ได้เสียทีเดียวสำหรับผู้ปกครองที่ห่วงลูกหลานว่าหากไม่ใช่เหตุที่มาจากการพัฒนาของกระบวนการทางความคิดแต่มีแรงจูงใจอื่นมาทำให้ลูกชอบจับต้องอวัยวะเพศบ่อยกว่าปกติหรือเลียนแบบท่าทางของผู้ใหญ่ในเรื่องเพศจนน่ากังวล

สาเหตุมาจากอะไรได้บ้าง เราจะมาแยกย่อยให้ได้ดังนี้ค่ะ

  • พ่อแม่อาจทำความสะอาดช้างน้อยและน้องหนูบ่อยจนเกินไปจึงทำให้ลูกเรียนรู้ที่จะสร้างความรู้สึกดีหรือพึงพอใจยามที่ได้สัมผัสกับอวัยวะเพศของตน เมื่อมีโอกาสจึงมักชอบสัมผัสด้วยตนเอง
  • มีอาการระคายเคืองจึงเริ่มเกาเริ่มจับ เมื่อการสัมผัสทำให้บรรเทาความระคายลงได้จึงเรียนรู้ที่จะทำซ้ำๆ
  • เห็นพฤติกรรมของผู้ใหญ่ไม่ว่าจะเป็นการช่วยตัวเองหรือการมีเพศสัมพันธ์ทำให้ลองเลียนแบบตามหรือจดจำเรื่องเหล่านั้นว่าเป็นสิ่งที่ทำได้ปกติ
  • เจ้าตัวเล็กใช้เวลาอยู่กับการสำรวจตนเองมากกว่าการที่จะสนใจสิ่งรอบข้างซึ่งอาจเกิดจากการถูกปล่อยให้อยู่เพียงลำพังไม่มีใครคอยบอกหรือสอนทำให้การสัมผัสช้างน้อยและน้องหนูกลายเป็นกิจกรรมติดนิสัยไปซะแล้วเมื่อโตขึ้น
  • ถูกลวนลามทางเพศตั้งแต่ยังน้อยโดยที่เขายังไม่สามารถแยกแยะได้ว่าอะไรคือการโดนคุกคามหรือจับต้องเชิงกามารมณ์จึงทำให้ลูกไม่เข้าใจถึงความประพฤติที่ถูกกระทำและปล่อยเลยตามเลยไป

ซึ่งในประเด็นด้านบนที่ได้กล่าวมานั้นสามารถเกิดขึ้นได้อยู่ทุกกรณีจึงต้องเป็นหน้าที่คุณพ่อคุณแม่ที่จะช่วยสอดส่องดูแลรวมถึงแนะนำและให้ความใส่ใจในเรื่องเพศกับลูกน้อยให้มากเพราะไม่ใช่เรื่องที่น่าอายและคนที่ลูกไว้ใจจะพูดคุยด้วยที่สุดก็คือคนเป็นพ่อเป็นแม่ในการให้คำแนะนำต่างๆ

วิธีแก้ไขเมื่อรู้สึกว่าลูกให้ความสนใจกับช้างน้อยและน้องหนูมากเกินไป

แม้เข้าใจแต่พฤติกรรมก็ยังดูไม่เหมาะสมและไม่น่ารักอยู่ดี เราจึงจำต้องมีวิธีรับมือมาบอกเช่นกันค่ะว่าควรทำอย่างไรเมื่อเด็กๆเริ่มจับอวัยวะเพศเล่นหรือลองจับของคุณพ่อ, คุณแม่และเพื่อนในที่สาธารณะ

  • หากเป็นเรื่องสุขภาพต้องพบแพทย์เพื่อให้ตรวจสอบถึงอาการแพ้บนผิวหนังว่าการระคายเคืองเกิดจากสาเหตุใดจะได้แก้ไขได้ทันเพราะบางกรณีอาจร้ายแรงที่มีพยาธิอยู่ในท้องของลูกน้อยจนเกิดความระคายเคือง
  • หันเหความสนใจด้วยการชวนพูดคุยหรือชวนทำกิจกรรมอย่างอื่นเพื่อไม่ให้ลูกสนใจอยู่แต่กับช้างน้อย, น้องหนูตลอดเวลา
  • ไม่ดุด่าหรือตบตีตอนเห็นลูกสัมผัสแต่อาศัยการบอกกล่าวกันดีๆด้วยเหตุผลเกี่ยวกับความเหมาะสม อาทิบอกให้ลูกน้อยรู้ว่านี่เป็นเรื่องส่วนตัวที่ไม่ควรทำต่อหน้าใคร
  • ไม่สร้างค่านิยมให้รู้สึกว่าเรื่องเพศเป็นเรื่องไกลตัวด้วยการบอกว่ายังเล็ก, เป็นเรื่องน่าละอายเพราะจะทำให้เด็กมีความเข้าใจผิดว่าเรื่องเพศเป็นเรื่องน่าขยะแขยงไม่สามารถปรึกษาหรือบอกได้กับผู้ใหญ่ ซึ่งหากเป็นเช่นนั้นก็จะส่งผลต่อให้อนาคตเมื่อเขาก้าวสู่วัยรุ่นได้ที่ทำให้เด็กเกิดความไม่มั่นใจหรืออาจหมกมุ่นยิ่งกว่าเดิมเพราะไม่กล้าที่จะปรึกษา
  • หลีกเลี่ยงการแหย่หรือจับช้างน้อยและน้องหนูของลูกในเชิงเอ็นดูหรือมันเขี้ยวเพราะจะเป็นการสร้างความรู้สึกพึงพอใจให้และเมื่อเขาอยู่ลำพังก็มักจะชอบสร้างความพึงใจด้วยตัวเองและไม่ใช่เพียงแค่กับพ่อแม่แต่รวมไปถึงไม่ควรให้ญาติมาแกล้งจับแกล้งเปิดดูอีกเช่นกัน
  • เมื่อลูกมีคำถามต้องพูดคุยอย่างเปิดอก ตอบอย่างตรงไปตรงมา ไม่ดุว่าหรือตำหนิเวลาถูกถามเรื่องเพศเพราะหากลูกถูกคุกคามหรือทำมิดีมิร้าย เขาจะได้มีความกล้าพอที่จะบอกกับพ่อแม่ให้ช่วยเหลือ

ถ้าเราเข้าใจและพยายามสอนลูกให้เข้าใจถึงธรรมชาติของร่างกายและความรู้สึกก็ไม่มีอะไรยากเกินไปที่จะทำให้เจ้าตัวน้อยของบ้านเรียนรู้สมวัยและหยุดพฤติกรรมการจับเมื่อถึงวัยอันสมควรค่ะ ตอบคำถามด้วยความจริงให้มาก ลดการตำหนินหรือดุด่าลงก็จะช่วยให้คุณพ่อคุณแม่ใกล้ชิดลูกและลูกเองก็จะให้ความไว้ใจพ่อแม่มากขึ้นเช่นกัน

ที่มา : taamkrutrueplookpanyadoctor

 

Writer Profile : OttChan

  • Blog :
  • Social Media :

  • Official Sponsors :
  • Samitivej Hospital

Generic placeholder image

บทความที่เกี่ยวข้อง



CAR SEAT กับเด็กแต่ละช่วงอายุ
ข้อมูลทางแพทย์
ลูกชอบพูดแทรก จะแก้อย่างไร
ชีวิตครอบครัว
Update
ไลฟ์สไตล์ ไลฟ์สไตล์
เคยกลับบ้านมาแล้วกรี๊ดลั่นบ้านเพราะเจ้าตัวแสบไปวิ่งเล่นเลอะเทอะกันไหมคะ ? หรือแต่งตัวลูกอย่างดีไปทานข้าวนอกบ้าน แต่คุณลูกก็ทำซอสหกใส่ ไอติมหล่นไปเป็นก้อน เละทั้งตัว วันนี้ ParentsOne มีเสื้อเด็กที่เจ๋งมากๆ จาก GQ : the good day lab™ มาลองรีวิวให้ได้ชมกันค่ะ 🛒 ช้อปเลยที่ -> https://gqsize.link/bZT7Sx แกะกล่อง GQ : the good day lab™ เสื้อเด็ก ฟีเจอร์เพียบ คุณภาพ GQ ขึ้นชื่อว่า GQ ก็มั่นใจได้เรื่องคุณภาพค่ะ ผ้านุ่ม เบาบาง เหมาะกับอากาศเมืองไทย ใส่วิ่งสบายๆ ที่แปลกตาคือเป็นเสื้อที่ไม่มีป้ายแท็กค่ะ ทั้งด้านหลังคอเสื้อ หรือข้างใน ไม่ต้องห่วงว่าจะเคืองหรือคันเลย กระดุมแข็งแรงเอามากๆ ใช้แรงผู้ใหญ่ดึงแรงๆ ก็ไม่มีปัญหาเลย ไฮไลท์สำคัญที่คุณแม่แทบกรี๊ด คือเป็นไม่เปื้อนค่าาาา เทน้ำ เทนมใส่เสื้อ ไม่เปียกเลย สะบัดสองที หายปกติ ซึ่งถ้าใครเคยเห็นโฆษณา GQ ที่เสื้อเชิ้ตขาวไปทำงานคุณพ่อ โดนกาแฟหกใส่ แต่ผ้าไม่เปื้อนเลย เทคโนโลยีผ้าสะท้อนน้ำ ตอนนี้มาอยู่ในเสื้อเด็กแล้ววววว ทีมงานทดสอบเทน้ำสีผสมอาหาร นม หรือแม้แต่ซอสมะเขือเทศลงบนเสื้อ ก็ไม่เปื้อนค่ะ ไม่น่าเชื่อมากๆ ข้อดีที่สุดของผ้าแบบนี้ คือทำให้ชีวิตคุณแม่สบายขึ้นมาก พาลูกไปเที่ยว วิ่งเล่นสนามหญ้า พาไปทานก๋วยเตี๋ยว หรือให้ทานอะไร ก็ไม่ต้องกลัวเสื้อสวยๆ เลอะ แถมประหยัดเวลาซักผ้าด้วย ไม่ต้องมาคอยแช่ผ้าให้คราบมันออกแบบสมัยก่อน สำหรับเสื้อเด็ก the good day lab™…
8 ธันวาคม 2566

anal porno zdarma culi nudi al mare free sex videos antalya escort

เราใช้คุกกี้เพื่อพัฒนาประสิทธิภาพ และประสบการณ์ที่ดีในการใช้เว็บไซต์ของคุณ คุณสามารถศึกษารายละเอียดได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และสามารถจัดการความเป็นส่วนตัวเองได้ของคุณได้เองโดยคลิกที่ ตั้งค่า

Privacy Preferences

คุณสามารถเลือกการตั้งค่าคุกกี้โดยเปิด/ปิด คุกกี้ในแต่ละประเภทได้ตามความต้องการ ยกเว้น คุกกี้ที่จำเป็น

Allow All
Manage Consent Preferences
  • Always Active

Save