Parents One

4 เรื่องเล่าสะท้อนถึงการปลูกฝังความซื่อสัตย์ให้แก่เด็กญี่ปุ่น

เราจะเห็นภาพรวมอยู่แล้วว่าคนญี่ปุ่นค่อนข้างมีวินัยและปลูกฝังให้เด็กๆ มีความซื่อสัตย์สุจริต ซึ่งการปลูกฝังมาจากการอบรมบ่มนิสัยจากระบบการศึกษาของญี่ปุ่นที่เคร่งครัดนั่นเอง นอกจากนี้ทางครอบครัว คุณพ่อคุณแม่ชาวญี่ปุ่นก็ปูพื้นฐานแนวความคิดนี้และสร้างนิสัยที่ดีให้แก่ลูกๆ ให้มีความซื่อสัตย์ มีวินัย อดทนอดกลั้น วันนี้เรามี 4 เรื่องราวดีๆ ที่บ่งบอกถึงความน่ารัก ความซื่อสัตย์ของเด็กๆ ชาวญี่ปุ่น ซึ่งเกิดมาจากการปลูกฝังนิสัยที่ดีจากคนในครอบครัวและคุณพ่อคุณแม่ชาวญี่ปุ่นมาฝากกันค่ะ

เรื่องที่ 1 สวนสาธารณะกับลูกโป่งสีขาว

คุณแม่ญี่ปุ่นจะไม่ยอมให้ลูกรับของที่ไม่ใช่ของลูก เพราะเป็นการสร้างเสริมนิสัยไม่ดีให้แก่เด็ก

ในระหว่างที่เด็กๆ เล่นกันที่สวนสาธารณะแห่งหนึ่ง ก็มีครูฝรั่งจากโรงเรียนสอนภาษามาแจกลูกโป่งให้เด็กๆ เพื่อประชาสัมพันธ์โรงเรียน เด็กคนหนึ่งเข้าไปยืนเข้าคิวเพื่อรอรับลูกโป่งและนำลูกโป่งมาฝากไว้กับผู้เขียน ระหว่างนั้นผู้เขียนนั่งเพลินจนไม่รู้ว่าลูกโป่งลอยไปตั้งแต่ตอนไหน นึกได้อีกก็ไม่เห็นลูกโป่งแล้ว ขณะที่ผู้เขียนกำลังมองหาลูกโป่งอยู่ก็มองเห็นคุณแม่คนหนึ่งที่มือหนึ่งจูงลูกและมือหนึ่งถือลูกโป่งสีขาวเหมือนตามหาเจ้าของ ผู้เขียนเข้าไปรับลูกโป่งคืนพร้อมคำขอโทษจากคุณแม่ ซึ่งจริงๆ แล้วผู้เขียนเองก็อยากให้ลูกโป่งแก่เด็กน้อย แต่เมื่อคิดอีกมุมหนึ่ง คุณแม่ญี่ปุ่นไม่ยอมให้ลูกรับแน่ๆ เพราะเป็นการเสริมสร้างนิสัยที่ไม่ดีให้แก่ลูกเขา จึงได้แต่กล่าวขอบคุณและยืนถือลูกโป่งสีขาวมองแม่ลูกคู่นั้นเดินจากไป

เรื่องที่ 2 ของเล่นที่ถูกทิ้งไว้

แม้เด็กจะหยิบของติดมือกลับมาโดยไม่ตั้งใจ แต่คุณยายก็สอนให้นำไปคืน

คุณยายคนหนึ่งพาหลานสาววัยประมาณสามขวบไปเล่นที่สวนสาธารณะ ก่อนกลับเด็กน้อยหยิบของเล่นที่วางทิ้งไว้ติดมือจะนำกลับบ้านด้วย แต่คุณยายบอกเด็กน้อยว่าของเล่นไม่ใช่ของเราจึงไม่ควรหยิบติดมือกลับบ้าน เพราะหากเจ้าของกลับมาหาและไม่เจอแล้วเขาจะเสียใจ จากเหตุการณ์ดังกล่าวทำให้เข้าใจว่าทำไมของที่ถูกวางลืมไว้ตามที่ต่างๆ มักได้กลับคืนมา เพราะพ่อแม่ญี่ปุ่นค่อนข้างเข้มงวดไม่ยอมให้ลูกเอาของคนอื่นกลับมาบ้าน ทั้งนี้คนญี่ปุ่นมีวิธีการง่ายๆ ที่ไม่ให้ลูกหยิบของคนอื่นผิดกลับบ้านมาคือ การเขียนชื่อติดไว้บนของเล่นหรือของใช้ทุกชิ้นของเด็ก ซึ่งนอกจากจะป้องกันเด็กไม่ให้หยิบของเพื่อนผิดกลับบ้านแล้ว ยังทำให้ได้ของที่หล่นหายกลับคืนมาด้วย

เรื่องที่ 3 ก้อนหินกับความใส่ใจ

แม้เป็นของชิ้นเล็กๆ ที่ไม่ได้มีราคาแต่ก็ไม่ให้นำกลับหรือเอามาเป็นของตน

บ่อยครั้งที่ตอนเดินกลับจากโรงเรียนอนุบาล ลูกชายคนเล็กเดินกลับบ้านมาพร้อมเพื่อนจอมซนอีกสองสามคน ทุกครั้งที่ผ่านบ้านที่มีหินสวยจำนวนมากปูไว้ที่สนามหน้าบ้าน เด็กๆ มักไปหยิบจับหินเล่นและทำท่าจะเอาใส่กระเป๋ากลับบ้าน แต่คุณแม่ญี่ปุ่นจะห้ามอย่างเด็ดขาดไม่ให้เด็กเอาหินของบ้านคนอื่นกลับบ้าน แม้ว่าหินเป็นเพียงหินก้อนเล็กๆ ที่ไม่ได้มีราคามากมาย แต่การใส่ใจไม่ให้ลูกหยิบก้อนหินกลับบ้านเป็นการปลูกฝังความซื่อสัตย์ ให้กับลูก

เรื่องที่ 4 เก็บเงินได้ต้องนำไปส่งตำรวจ

เวลาพบเงิน แม้ไม่ได้มากมายแต่ก็สอนให้เด็กนำส่งตำรวจทุกครั้ง

ทุกครั้งที่เด็กเก็บเงินได้แม้ว่าเพียง 100 เยน คุณแม่จะพาลูกเอาเงินไปมอบไว้ที่ป้อมตำรวจใกล้ๆ และตำรวจจะทำการบันทึกไว้ พร้อมกับที่อยู่ที่สามารถติดต่อได้ของผู้นำส่งมอบ เพื่อนำเงินหรือของมีค่ามอบให้แก่ผู้เก็บส่งในกรณีที่หาเจ้าของไม่เจอ แม้ว่าจะเป็นของมีค่าเพียงเล็กน้อยแต่เจ้าหน้าที่ตำรวจก็รับของที่เก็บไว้เพื่อรอเจ้าของอย่างไม่เกี่ยงงอน ซึ่งแสดงให้เห็นว่าความใส่ใจเล็กๆ จากเจ้าหน้าที่จะเสริมสร้างความซื่อสัตย์ที่ยั่งยืนให้แก่เด็กซึ่งจะเติบโตเป็นอนาคตของชาติ

เรื่องราวน่ารักๆ ทั้ง 4 เรื่องของเด็กๆ และครอบครัวชาวญี่ปุ่น หวังว่าจะเป็นประโยชน์และเป็นแรงบันดาลใจให้กับคุณพ่อคุณแม่ ผู้ปกครองชาวไทยอย่างเราที่จะปลูกฝังให้เด็กๆ ให้มีความซื่อสัตย์ สุจริต เติบโตเป็นผู้ใหญ่ดี และเป็นอนาคตของชาติในอนาคต

ที่มา – anngle.org