Parents One

เมื่อลูกเป็นไข้ เลือกยาแบบไหน ให้ลูกได้รับแบบเต็มร้อย

เด็กกับการทานยาเป็นปัญหาระดับชาติที่คุณพ่อคุณแม่หลายบ้านมักเจอ บ้านไหนที่ลูกยอมทานยาง่ายๆ ก็โชคดีไป แต่ถ้าบ้านไหนไม่ยอม… พ่อแม่อย่างเราก็ต้องหลอกล่อทุกวิถีทางเพื่อที่จะให้ลูกยอมกินยา ไม่ว่าจะเป็นแอบใส่ไปในอาหาร ผสมกับน้ำหวานๆ แต่ถึงจะทำอย่างนั้นเจ้าตัวเล็กก็ยังรู้ทันและบ้วนทิ้งแทบจะทุกครั้งไป เลยทำให้ลูกได้รับยาไม่ครบถ้วน จึงไม่หายจากอาการไข้สักที

คนเป็นพ่อเป็นแม่อย่างเราที่รักและห่วงใยลูกแบบเต็มร้อย ก็ย่อมอยากที่จะให้ลูกกลับมาแข็งแรง ดังนั้นวันนี้เราจึงมี 5 วิธีในการเลือกยาลดไข้มาฝากคุณพ่อคุณแม่ทุกคน เพื่อที่จะให้เจ้าตัวเล็กได้รับยาแบบเต็มร้อยค่ะ

ยาแบบน้ำเชื่อมใสดีกว่า

ยาน้ำที่ให้เด็กทานมีด้วยกันหลักๆ อยู่ 2 แบบ คือ

  1. 1.ยาน้ำแบบแขวนตะกอน คือตัวยาจะเป็นสีขุ่นและตกตะกอนเมื่อตั้งทิ้งไว้ เวลาใช้จะต้องเขย่าให้ยาเข้ากันก่อน
  2. 2.ยาแบบน้ำเชื่อมใส ที่ตัวยาละลายเป็นเนื้อเดียวกันกับน้ำเชื่อม เวลาใช้ก็สามารถเทป้อนลูกได้เลยไม่ต้องเขย่าให้เข้ากันก่อน

ซึ่งแบบที่คุณพ่อคุณแม่ควรเลือกให้เจ้าตัวเล็กก็ควรเป็นยาน้ำแบบเชื่อมใสจะดีกว่าค่ะ เพราะตัวยาผสมเรียบร้อย ไม่ตกตะกอน เวลาจะป้อนก็ไม่ต้องเขย่าก่อน ก็จะทำให้ลูกได้รับยาครบถ้วนเต็มร้อย ถ้าเกิดเป็นยาน้ำแบบแขวนตะกอน ถ้าเราเขย่าไม่ดี เวลาที่ป้อนยาลูกแต่ละครั้ง เขาก็จะได้รับปริมาณยาที่ไม่เท่ากันค่ะ

 

เลือกยาที่มีสีสันสดใสและรสชาติหวาน

อย่างที่รู้กันว่าเด็กกับยาก็เหมือนลิ้นกับฟันที่เจอกันทีไรก็คือเป็นเรื่องใหญ่ จะป้อนยาให้เจ้าตัวเล็กแต่ละทีก็คือร้องไห้ราวกับถูกป้อนยาพิษ เพราะฉะนั้นสิ่งแรกเลยที่จะหลอกล่อเด็กกินยาได้ก็คือ หน้าตาสีสันของยานี่แหละค่ะ ถ้ายาเป็นน้ำใสๆ ไม่ข้น สีสันสดใสคล้ายๆน้ำผลไม้ เด็กๆก็จะให้ความร่วมมือดีขึ้น อีกอย่างที่สำคัญคือรสชาติของยา

เพราะลิ้นของเด็กรับรู้รสหวานได้ดีกว่า และไวต่อรสขม ถึงแม้จะมีความขมเพียงนิดก็ส่ายหน้าหนีแล้ว ดังนั้นเราควรเลือกยาที่มีรสชาติหวาน เพื่อยอมให้ลูกกินยา รวมไปถึงถ้ามีกลิ่นหอมๆ ก็จะช่วยกลบกลิ่นยาได้ดี ส่วนมากที่เห็นก็จะเป็นกลิ่นส้ม กลิ่นสตรอเบอร์รี่ และกลิ่นองุ่นค่ะ

 

ใช้ตัวยาพาราเซตามอล

พาราเซตามอล เป็นยาที่ใช้กันอย่างแพร่หลายในเรื่องของบรรเทาอาการปวด ลดไข้ ซึ่งมีความปลอดภัยมากๆ ในการใช้ แต่หลายๆ คนก็คงสงสัยว่าพาราเซตามอลนั้นแตกต่างจากแอสไพรินยังไง คือ แอสไพรินเป็นยาที่มีประสิทธิภาพในการรักษาที่ดี เพราะช่วยรักษาอาการอักเสบ รวมไปถึงช่วยลดไข้ แต่มีผลข้างเคียงจากการใช้มากกว่าการใช้ยาพาราเซตามอล ตั้งแต่ข้างเคียงน้อยอย่างระคายเคืองกระเพาะอาหาร ไปจนถึงผลข้างเคืองที่รุนแรงอย่างเลือดออกในกระเพาะ

โดยกระทรวงสาธารณะสุขได้ออกประกาศ ห้ามไม่ให้ใช้ยาแอสไพรินแก้ปวด ลดไข้ ในเด็กและวัยรุ่นอายุต่ำกว่า 18 ปี ดังนั้นหากใช้เพื่อลดไข้ให้ลูกแนะนำว่าใช้เป็นตัวยาพาราเซตามอลก็จะปลอดภัยกว่าค่ะ นอกจากนี้ก็ควรเลือกแบบที่ปราศจากแอลกอฮอล์ก็จะดีค่ะ

 

ขวดแบบใส เห็นยาชัดเจน

บรรจุภัณฑ์ที่ใช้ใส่ยามีด้วยกันหลักๆ อยู่ 2 แบบ คือขวดยาแบบสีชา และขวดยาแบบใส ซึ่งขวดแต่ละอย่างก็มีวัตถุประสงค์ที่ใช้ในการเก็บยาต่างกัน อย่างขวดยาสียา ก็ใช้สำหรับบรรจุยาที่ห้ามโดนแสง เพราะถ้าโดนแสงประสิทธิภาพของยาก็จะลดลงได้ แต่ก็มีข้อต้องระวังตรงที่ทำให้เราไม่สามารถมองเห็นยาที่อยู่ด้านในขวดได้อย่างชัดเจน เวลาที่จะป้อนให้ลูกก็เลยต้องสังเกตให้ดีว่ายาผิดปกติไหม หรือหยิบยามาป้อนลูกผิดรึเปล่า

แต่ถ้าเป็นบรรจุภัณฑ์แบบใสก็จะทำให้เราเห็นยาที่บรรจุภายในขวดได้ชัดเจนว่ายามีลักษณะที่ผิดปกติหรือไม่ มีสีหรือความเหนียวข้นของยาแตกต่างไปจากเดิม อีกทั้งยังทำให้เราหยิบยามาป้อนให้ลูกได้อย่างมั่นใจว่าถูกขวดแน่นอน

 

ปลอดภัยด้วย ฝาแบบ Child Lock

เรื่องนี้ดูเหมือนไม่สำคัญ แต่จริงๆ แล้วเป็นเรื่องที่ต้องให้ความสำคัญไม่น้อยเลยค่ะ เพราะฝาปิดขวดยา เป็นตัวป้องกันที่ไม่ให้ลูกเปิดยาเอง เพราะเสี่ยงทั้งทำหกและเปิดทานเอง ยิ่งถ้าเป็นยาที่มีรสหวานและกลิ่นหอม ยิ่งล่อตาล่อใจให้ลูกอยากจะทานยาอยู่ตลอดเวลา เพราะคิดว่าคือของหวาน ถ้าลูกมาแอบทานก็อาจทำให้เขาได้รับยาเกินขนาดและเป็นอันตราย

ดังนั้นคุณพ่อคุณแม่ควรเลือกยาลดไข้ที่มีฝาปิดแบบ Child Lock ประเภทที่เด็กเปิดเองไม่ได้ เพราะต้องใช้แรงทั้งกดและหมุน ก็จะช่วยป้องกันปัญหานี้ได้ แต่ที่สำคัญก็คือต้องเก็บยาไว้ให้พ้นมือเด็กจะเป็นการดีที่สุดค่ะ

ในวันที่ลูกไม่สบาย ยาก็จะเป็นตัวช่วยหนึ่งที่ทำให้ลูกอาการดีขึ้น ดังนั้นจึงต้องเลือกยาที่ดีและมีคุณสมบัติทั้ง 5 ข้อนี้ เช่นเดียวกับ เทมปร้า ยาลดไข้สำหรับเด็ก ชนิดน้ำเชื่อม ตัวยาพาราเซตามอล เป็นยาที่ทานง่ายทำให้ลูกจะไม่งอแงเวลาที่ต้องทานยาอีกต่อไป ด้วยความที่มีรสชาติหวาน ไม่ขม อีกทั้งยังเป็นน้ำเชื่อมใสทำให้ไม่เหนียวข้น ตัวยาไม่ตกตะกอน จึงไม่ต้องเขย่าก่อนทาน ทำให้ลูกได้รับตัวยาอย่างเต็มที่ 100% ในทุกๆ ครั้งที่ทาน เพื่อบรรเทาอาการไข้

นอกจากนี้เทมปร้ายังมีถ้วยตวงที่ปิดมาให้ด้านบนขวด สามารถตวงให้ลูกทานได้เลย สำหรับปริมาณการใช้ยาก็จะแตกต่างกันตามช่วงอายุ โดยสามารถให้เด็กๆ ที่มีอาการไข้ ทานยาลดไข้เทมปร้าได้ตั้งแต่ 6 เดือน จนถึง 6 ขวบ ดังนี้

ซึ่งเราควรให้ลูกทานยาลดไข้เมื่อมีอาการไข้ ทานทุก 4-6 ชั่วโมง หากลูกตัวร้อนก็ให้หมั่นเช็ดตัว และพักผ่อนให้เพียงพอ เพียงเท่านี้เจ้าตัวเล็กก็จะกลับมาแข็งแรงและวิ่งซนได้ตามเดิมแล้วล่ะค่ะ

สนับสนุนโดย เทมปร้า ยาลดไข้สำหรับเด็ก ชนิดน้ำเชื่อม

ข้อมูลอ้างอิง