Parents One

7 วิธีการพูดคุยกับคุณตาคุณยายที่มาช่วยเลี้ยงหลาน

ด้วยสภาวะเศรษฐกิจและสังคมในปัจจุบัน ทำให้คุณพ่อและคุรแม่ต่างต้องออกไปทำงานด้วยกันทั้งคู่ จึงทำให้มีการฝากคุณตาและคุณยายช่วยเลี้ยงหลานในเวลาทำงาน จะมีเรื่องอะไรบ้างที่ควรพูดคุยกับคุณตาคุณยายเกี่ยวกับการเลี้ยงดูหลานบ้าง มาดูกันเลยค่ะ

ตกลงกติกาให้แน่ชัด

ก่อนที่จะให้คุณตาคุณยายที่มาช่วยเลี้ยงหลานนั้น คุณแม่ควรตกลงกติกากับท่านให้ชัดเจนเสียก่อน จะได้มีความเข้าใจที่ตรงกันค่ะ

ถ้าไม่แน่ใจให้คุยกับพ่อแม่ของหลานก่อน

ถ้าระหว่างที่เลี้ยงหลานนั้น คุณตาคูณยายเกิดไม่มั่นใจหรือไม่แน่ใจอะไร ขอให้คุยกับคุณพ่อคุณแม่เสียก่อน จะได้เป็นคนตัดสินใจหลักในแต่ละสถานการณ์ค่ะ

ไม่ควรจูบปากหลาน โดยเฉพาะตอนไม่สบาย

เพราะเชื่อโรคนั้นสามารถติดต่อได้ผ่านปาก อีกทั้งลูกยังมีภูมิคุ้มกันต่ำ สามารถติดโรคได้โดยง่าย ทางที่ดีไม่ควรจูบปากหลาน โดยเฉพาะตอนไม่สบายที่โรคนั้นติดต่อง่ายค่ะ

ลองให้คุยกับหลานบ้างเพื่อฝึกทักษะการพูด

เป็นธรรมดาที่คุณตาคุณยายนั้นจะรักหลานมาก ขอแค่หลานมองไปที่ใดคุณตาคุณยายก็พร้อมหยิบให้ทันที ทำให้เด็กไม่ได้ฝึกพูดและพูดช้ากว่าที่ควร คุณพ่อคุณแม่จึงควรบอกคุณตาคุณยายให้คุยกับหลานบ้างจะดีกว่าค่ะ

ไม่ควรใช้ปากกัดอาหารแล้วป้อนให้หลาน

บางทีคุณตาคุณยายก็หวังดีกับหลาน กลัวว่าหลานจะกินอาหารก้อนใหญ่เกินไป เลยใช้ปากกัดอาหารแล้วป้อนให้หลาน ซึ่งเป็นสิ่งที่ไม่ควรทำเป็นอย่างยิ่งเพราะจะทำให้ติดเชื้อโรคได้ค่ะ

ไม่ควรใช้ช้อนส้อม หลอด แก้วน้ำร่วมกับเด็ก

คุณตาคุณยายไม่ควรใช้ช้อนส้อม หลอด แก้วน้ำร่วมกับหลาน ผู้ใหญ่และเด็กควรแยกกันใช้ ทั้งนี้ควรใช้อุปกรณ์ หรือช้อนส้อมที่สะอาด ตัดอาหารให้เป็นชิ้นเล็กๆ ค่ะ

สอนให้ท่านใช้อุปกรณ์ต่างๆ ให้คล่อง

ก่อนที่คุณพ่อคุณแม่จะให้คุณตาคุณยายเลี้ยงหลานนั้น ควรสอนให้ท่านใช้อุปกรณ์ต่างๆ ให้คล่อง เช่น เครื่องล้างขวดนม แพมเพิร์ส คาร์ซีท เป็นต้น จะได้ไม่มีปัญหาในการใช้งานค่ะ

ทั้งนี้การเลี้ยงลูกไม่ได้มีกฎตายตัวอะไร คุณตาคุณยายอาจมีแนวทางการเลี้ยงหลานที่แตกต่างจากคุณพ่อคุณแม่ไปบ้าง ขอให้ทำความเข้าใจซึ่งกันและกัน แล้วหมั่นพูดคุยอย่างสม่ำเสมอก็จะทำให้การเลี้ยงลูกเป็นไปได้ด้วยดีค่ะ

ที่มา