จากคลิปที่เด็กน้อยคนหนึ่งที่ร้องไห้ กรีดร้องอย่างรุนแรงและเอามือข่วนหน้า เพราะไม่พอใจในของขวัญที่แม่ซื้อให้ได้ถูกส่งต่อไปทั่วโลกออนไลน์นั้น อาจเป็นเรื่องที่ก่อให้เกิดผลเสียต่อเด็กในอนาคตได้ เนื่องจากข้อมูลเหล่านั้นจะอยู่บนโลกออนไลน์เป็นระยะเวลานาน อาจทำให้มีผู้ไม่หวังดีนำข้อมูลไปใช้ในทางที่ผิด รวมไปถึงเป็นการละเมิดสิทธิของเด็กด้วย
พญ.กุลนิดา เต็มชวาลา จิตแพทย์เด็กและวัยรุ่น ได้เผยวิธีการจัดการกับพฤติกรรมของเด็กที่ก้าวร้าว อาละวาด โวยวายเสียงดังและทำร้ายตัวเอง จากการถูกขัดใจว่า ในเด็กวัย 2-3 ขวบเป็นวัยที่กำลังเป็นตัวของตัวเอง หากถูกขัดใจก็จะแสดงอาการเช่นนี้ออกมาได้
พ่อแม่ควรมีวิธีการจัดการที่เหมาะสม เช่น หลีกเลี่ยงการดุ การตี การอธิบายในขณะที่เด็กมีอารมณ์โกรธหรือไม่พอใจ ให้ใช้การเพิกเฉยเพื่อให้เด็กสามารถสงบอารมณ์ตัวเองได้ เมื่อลูกสงบลงแล้วก็ให้กล่าวชม เช่น หนูเก่งมากลูกที่เงียบแล้ว แม่ดีใจมากนะ จากนั้นจึงค่อยพูดคุยถึงเหตุการณ์ที่เกดขึ้น เพราะเมื่อลูกสงบลง เขาก็พร้อมที่จะรับฟังมากขึ้น
แต่ถ้าลูกมีพฤติกรรมทำร้ายร่างกายตัวเอง ทำร้ายผู้อื่น หรือข้าวของ ต้องรีบหยุดพฤติกรรมเหล่านั้นทันที คือ จับมือล็อคไว้ ไม่ให้เด็กสามารถทำร้ายได้ รอจนลูกสงบแล้วค่อยพูดคุยกัน หลีกเลี่ยงการตามใจหรือรับปากไปส่งๆ เพื่อตัดรำคาญ และที่สำคัญคือพ่อแม่ต้องไม่ใช้อารมณ์ในการแก้ไขพฤติกรรมของลูก
นอกจากนี้การแก้ไข้พฤติกรรมของลูก ควรฝึกตั้งแต่เล็กๆ เพราะจะสามารถควบคุมอารมณ์ตัวเองได้ดีเมื่อมีเหตุการณ์ที่เขาไม่พอใจ แต่ถ้าปล่อยทิ้งไว้ ไม่ดูแลหรือฝึกฝนการควบคุมอารมณ์ตั้งแต่เด็ก ลูกก็จะมีพฤติกรรมต่อเนื่องไปจนโต ซึ่งจะแก้ไขได้ยากขึ้น
อ้างอิงจาก