Parents One

รับมืออย่างไร เมื่อลูกต้องย้ายโรงเรียน (อีกแล้ว!)

การย้ายโรงเรียนของลูกมีทั้งข้อดีและข้อเสีย แต่เมื่อมีเหตุจำเป็นที่ต้องย้ายโรงเรียนของลูกจริงๆ ก็ต้องทำความเข้าใจกับลูกแบบไม่บังคับ เพื่อให้ลูกรู้สึกอยากไปโรงเรียน ไม่หวาดกลัวต่อสภาพแวดล้อมใหม่ๆ ทีนี้คุณพ่อคุณแม่จะมีวิธีรับมือกับลูกอย่างไร ไปดูกันค่ะ

วิธีทำความเข้าใจกับลูกเมื่อต้องย้ายโรงเรียน

ความไม่คุ้นเคยอาจจะทำให้ลูกรู้สึกเกร็ง ทั้งห้องเรียนใหม่ โต๊ะเรียนใหม่ ครูใหม่ เพื่อนใหม่ หน้าตาไม่คุ้นเลยสักคน มองไปมองมาไม่เห็นมีอะไรที่ลูกเคยรู้จัก จึงไม่แปลกค่ะ ถ้าในช่วงแรกๆ ของการย้ายโรงเรียน หนูๆ จะบ่นคิดถึงเพื่อนเก่าหรือคุณครูคนเก่า อยากให้คุณพ่อคุณแม่ใช้เวลาร่วมกับลูกมากขึ้นอีกนิด ดังนี้

1. พาลูกไปดูโรงเรียนใหม่

พาลูกไปดูโรงเรียนใหม่ เพื่อสร้างความคุ้นเคยกับโรงเรียน ไม่ว่าจะเป็นการพาลูกไปโรงเรียน ไปเล่นสนามเด็กเล่น ดูว่าภายในโรงเรียนนั้นมีกิจกรรมหรือสถานที่อะไรที่ลูกเล่นได้บ้าง นอกจากนี้ยังสามารถกล่าวถึงวิชาเรียนที่ลูกชอบได้ด้วยเช่นกัน ยกตัวอย่างเช่น หากลูกชอบวาดภาพระบายสี ก็อาจจะพูดจาโน้มน้าวให้ลูกฟังว่า ที่โรงเรียนใหม่นี้ มีอะไรเป็นจุดเด่นเกี่ยวกับศิลปะหรือกิจกรรมเกี่ยวกับการวาดภาพ เป็นต้น

2. ใช้เวลากับลูกที่โรงเรียน

มาอยู่กับลูกที่โรงเรียนใหม่ด้วยเพื่อไม่ให้หนูรู้สึกว่าถูกทอดทิ้ง แต่ไม่ใช่อยู่ตลอดเวลานะคะ เพียงแต่ต้องบอกลูกว่า แม่จะอยู่กับหนูช่วงเวลานี้ เช่น ตอนเช้ามาเล่นกับลูกก่อนเข้าเรียนแล้ว นัดกับลูกว่าแม่จะมาหาหนูตอนเย็นนะคะ แปบเดียวไม่นานหรอก เป็นต้น

3. แนะนำครูและเพื่อนใหม่

แนะนำคุณครูคนใหม่ที่จะมาคอยดูแล รวมทั้งเพื่อนๆ ใหม่ในห้อง บอกลูกว่ามีเพื่อนที่น่ารักและอัธยาศัยดี ที่จะมาชวนหนูเล่นด้วยกัน เรียนด้วยกันต้องสนุกแน่นอน  เมื่อหนูปรับสภาพจิตใจได้แล้ว ค่อยขยายกลุ่มเพื่อนของเขาให้ใหญ่ขึ้น จนลูกรู้สึกว่าตัวเองเป็นส่วนหนึ่งของโรงเรียนจริงๆ

4. ให้กำลังใจลูก

บอกให้ลูกได้เข้าใจว่า ยังมีเด็กๆ อีกหลายคนที่กังวลใจเกี่ยวกับการไปโรงเรียนใหม่ ดังนั้น ลูกไม่ต้องกลัวหรือกังวลไปว่า คุณครูจะดุ จะตี หรือไม่เข้าใจ เพราะฉะนั้นให้ลูกสบายใจได้

5. สื่อสารกับทางโรงเรียน

ให้เน้นการสื่อสารกันระหว่างบ้านและโรงเรียน ให้คุณพ่อคุณแม่ได้พูดคุยกับคุณครูถึงการใช้ชีวิตของลูกในรั้วโรงเรียน คุณครูได้ติดตามสอบถามจากคุณพ่อคุณแม่ว่าน้องหนูรู้สึกอย่างไรกับ โรงเรียนใหม่ เพื่อน คุณครู สภาพแวดล้อม เพื่อนำข้อบกพร่องมาแก้ไข

6. ใช้เวลาอยู่กับลูกให้มากขึ้น

คุณพ่อคุณแม่หลายๆ ท่านอาจจะใช้เวลาส่วนใหญ่ไปกับการทำงาน จนรู้สึกเหนื่อยและอยากพักผ่อน จึงไม่ค่อยมีเวลาให้กับลูกมากเท่าไร ซึ่งสิ่งที่คุณหมอแนะนำก็คือ ในช่วงก่อนเปิดเรียน หรือหลังเปิดเรียนในสัปดาห์แรกๆ ให้คุณพ่อคุณแม่พยายามใช้เวลาอยู่กับลูกให้มากที่สุด พยายามถามไถ่ถึงความรู้สึกของลูก ยกตัวอย่างเช่น ชีวิตประจำวันในวันนั้น ลูกได้ทำอะไรบ้าง ได้เจอเพื่อนใหม่กี่คน อาหารที่โรงเรียนอร่อยไหม ได้เล่นเกมส์หรือสนามเด็กเล่นอันใหม่บ้างหรือเปล่า คำถามเหล่านี้จะทำให้ลูกรู้สึกอบอุ่น และดีใจที่อย่างน้อย คุณพ่อคุณแม่ก็รู้สึกสนใจว่า พวกเขาทำอะไรมาบ้าง และแน่นอนที่สุดเลยก็คือ ลูกจะรู้สึกดีใจที่ได้กลับมาใช้เวลาอยู่กับคุณพ่อคุณแม่ เป็นต้น

7. รู้จักกับผู้ปกครองคนอื่น

ทำความรู้จักกับผู้ปกครองคนอื่น โดยเฉพาะอย่างยิ่งเพื่อนใหม่ที่ลูกคบด้วย เพราะอย่างน้อย เผื่อมีอะไรฉุกเฉินหรือติดขัดเรื่องการเรียนหรือกิจกรรมก็อาจจะสามารถช่วยแนะนำซึ่งกันและกันได้

8. พาลูกไปหาเพื่อนเก่าบ้า

เพื่อลูกจะได้รู้สึกและเข้าใจว่า ต่อให้พวกเขาจะไม่ได้เรียนโรงเรียนเดียวกันหรือ ย้ายโรงเรียน กันไปแล้ว ก็ยังสามารถนัดเจอและใช้เวลาว่างด้วยกันได้นั่นเองค่ะ

การย้ายโรงเรียนของลูกจริงๆ มีทั้งข้อดีและข้อเสีย แต่เด็กก็ต้องปรับสภาพแวดล้อมที่เปลี่ยนไปตามไปด้วย ดังนั้นไม่ว่าจะย้ายโรงเรียนให้ลูกด้วยเหตุผลอะไรก็ตามคุณพ่อคุณแม่ควรเตรียมวางแผนให้ดีเพื่อเตรียมความพร้อมย้ายโรงเรียนให้ลูก โดยเฉพาะความพร้อมด้านจิตใจ ลูกจะได้มีความสุขในการไปโรงเรียนในทุกวันค่ะ

ที่มา :