Parents One

HIGHLIGHT UPDATE: ข่าวรอบวันประจำวันที่ 6 เมษายน 2563

พบผู้ติดเชื้อรายใหม่ 51 ราย เสียชีวิตเพิ่ม อีก 3 ราย รวมแล้ว 26 ราย

วันที่ 6 เม.ย. ตัวเลขผู้ติดเชื้อเพิ่มขึ้นเพียง 51 ราย ใน 66 จังหวัด จากที่ผ่านมาเพิ่มขึ้นวันละ 100 รายขึ้นไป รวมผู้ติดเชื้อสะสม 2,220 คน เสียชีวิตเพิ่มอีก 3 ศพ รวม 26 ศพ แต่ไม่สามารถไว้วางใจได้ โดยผู้ป่วย 13 ราย เป็นบุคลากรทางการแพทย์

ผู้ป่วยรายใหม่ 51 ราย เกินครึ่งอยู่ในกรุงเทพฯ 27 ราย, นนทบุรี และภูเก็ต จังหวัดละ 4 ราย, ชลบุรี 3 ราย, สมุทรปราการ ยะลา สุราษฎร์ธานี และพัทลุง จังหวัดละ 2 ราย, ปัตตานี ปทุมธานี อุบลราชธานี นราธิวาส และสระแก้ว จังหวัดละ 1 ราย ทำให้ล่าสุดตัวเลขผู้ติดเชื้อสะสมในกรุงเทพฯและนนทบุรี รวม 1,162 ราย ภาคเหนือ 85 ราย ภาคอีสาน 100 ราย ภาคกลาง 340 ราย และภาคใต้ 334 ราย

อ้างอิงจาก : https://www.thairath.co.th/news/local/bangkok/1813504

เสือสวนสัตว์นิวยอร์ก ติดเชื้อโควิด-19 ตัวแรกของโลก

เสือในสวนสัตว์นิวยอร์กได้รับการยืนยันว่าติดเชื้อโควิด-19 เป็นตัวแรกของโลก ขณะที่มีเสือกับสิงโตอีกหลายตัวที่มีอาการคล้ายกับอาการป่วยของไวรัสตัวนี้

สำนักข่าว ซีเอ็นเอ็น รายงานเมื่อวันที่ 5 เม.ย. 2563 ว่า เสือพันธ์ุมาลายันเพศเมียชื่อ ‘นาเดีย’ วัย 4 ปี ที่สวนสัตว์ ‘บรองซ์’ ของสมาคมอนุรักษ์สัตว์ป่าในรัฐนิวยอร์กของสหรัฐอเมริกา ถูกตรวจพบว่าติดเชื้อไวรัสโคโรนาสายพันธุ์ใหม่ที่ก่อให้เกิดโรคโควิด-19 ในคน นับเป็นเสือตัวแรกของโลกที่ติดเชื้อไวรัสชนิดนี้

ตามแถลงการณ์ของสวนสัตว์บรองซ์ เจ้าหน้าที่เก็บตัวอย่างจาก นาเดีย ไปตรวจหลังจากมันกับเสือและสิงโตตัวอื่นๆ อีก 5 ตัวมีอาการไอแห้ง ซึ่งเป็นหนึ่งในสัญญาณของโรคทางเดินหายใจ แต่ไม่มีสัตว์ตัวอื่นๆ แสดงอาการป่วย ณ ตอนนี้ และคาดว่าเสือทุกตัวจะกลับมาหายดีดังเดิม

“แม้ว่าพวกมันจะมีความอยากอาหารลดลงบ้าง เหล่าแมวยักษ์ในสวนสัตว์บรองซ์กำลังฟื้นตัวดีภายใต้การดูแลของสัตวแพทย์ และมีอาการตื่นตัว, ร่าเริง และมีปฏิสัมพันธ์กับผู้ดูแลของพวกมันด้วย” แถลงการณ์ของทางสวนสัตว์ระบุ และเสริมด้วยว่า “ยังไม่แน่ชัดว่าไวรัสตัวนี้จะทำให้เกิดอาการอะไรกับเสือเหล่านี้ เพราะสัตว์ต่างสายพันธ์ุจะมีปฏิกิริยากับไวรัสสายพันธ์ุใหม่แตกต่างกันออกไป”

ทั้งนี้ คาดว่านาเดียกับเสือตัวอื่นๆ ติดเชื้อไวรัสโคโรนาจากหนึ่งในลูกจ้างของสวนสัตว์ที่ติดเชื้อไวรัสตัวนี้แบบไม่แสดงอาการป่วย ขณะที่ดูแลพวกมัน โดยเหตุการณ์นี้ทำให้สวนสัตว์บรองซ์ประกาศหยุดให้บริการมาตั้งแต่วันที่ 16 มี.ค.แล้ว.

อ้างอิงจาก : https://www.thairath.co.th/news/foreign/1813221

 

ด่วน! “กพท.” ขยายเวลาห้ามทั่วโลกบินเข้าไทยไปถึง 18 เม.ย.

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า นายจุฬา สุขมานพ ผู้อำนวยการสำนักงานการบินพลเรือนแห่งประเทศไทย ได้ลงนามในประกาศ กพท. เรื่อง “ห้ามอากาศยานทำการบินเข้าสู่ประเทศไทยเป็นการชั่วคราว(ฉบับที่ 2)”  มีข้อความกล่าวว่า

ตามที่ได้มีประกาศ กพท. เรื่องห้ามอากาศยานทำการบินเข้าสู่ประเทศไทยเป็นการชั่วคราว ประกาศ ณ วันที่ 3 เมษายน 2563 เพื่อป้องกันมิให้สถานการณ์การระบาดของโรคติดต่อเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 รุนแรงมากยิ่งขึ้น และเพื่อสนันบสนุนการแก้ไขสถานการณ์ฉุกเฉินข้างต้นให้ยุติลงโดยเร็ว

อ้างอิงจาก : https://www.thebangkokinsight.com/327831/

 

‘โฆษก ศบค.’ ย้ำ ยังไม่มีการประกาศ ‘เคอร์ฟิว 24 ชั่วโมง’

ศบค.เตือนประชาชนอย่าแตกตื่น กรณีข่าวลือ รัฐเตรียมประกาศเคอร์ฟิว 24 ชั่วโมง ยืนยัน ไม่เป็นความจริง!

วันนี้ (6 เม.ย.) นพ.ทวีศิลป์ วิษณุโยธิน โฆษกศูนย์บริหารสถานการณ์การแพร่ระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 (ศบค.) ยืนยันยังไม่มีการประกาศสถานการณ์ฉุกเฉิน ห้ามออกนอกเคหสถาน 24 ชั่วโมง อย่างที่มีข่าวลือออกไป หลังจากที่มีเอกสารของทางราชการกระทรวงมหาดไทยเผยแพร่ออกไปเมื่อวาน ย้ำอย่าตีความหมายเกินจริง โดยเอกสารที่ออกไปนั้นเป็นเอกสารที่ส่งไปทุกจังหวัด เพื่อนเป็นการเตรียมความพร้อมเท่านั้น

นายแพทย์ทวีศิลป์ ได้เปิดเผยเพิ่มเติมว่า พลเอกประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม ย้ำว่าการบริหารจัดการการแพร่ระบาดของเชื้อไวรัสยังคงต้องใช้การบริหารราชการแผ่นดินแบบปกติ จึงขอสั่งการต่างๆเมื่อสั่งไปแล้วทุกหน่วยต้องนำไปปฏิบัติและขับเคลื่อนจัดทำแผนงานโครงการงบประมาณออกมา ซึ่งในส่วนของงบประมาณประจำปี 2563 ที่เกิดการวางแผนมาแล้วนั้นบางเรื่องก็ดำเนินการได้แต่บางเรื่องเมื่อดำเนินการไม่ได้ก็ต้องปรับแผนให้สอดคล้องกับสถานการณ์ปัจจุบัน แต่ในส่วนของงบกลางต้องให้ คณะรัฐมนตรีที่เกี่ยวข้องต้องติดตามอย่างใกล้ชิดเพื่อให้ประชาชนเกิดความเชื่อมั่นในระบบการทำงานของราชการ และขออย่าหลงเชื่อสื่อโซเชียลบางสำนักที่ทำให้สถานการณ์นั้นเลวร้ายลง พร้อมกับเน้นย้ำว่าขอให้ประชาชนเชื่อมั่นว่ารัฐบาลจะสามารถแก้ไขปัญหาได้โดยเร็ว

อ้างอิงจาก : https://www.bangkokbiznews.com/news/detail/874679

ธปท.แนะ! วิธีทำความสะอาด ‘แบงก์’ ลดเสี่ยง โควิด-19 

ธปท.แนะนำ วิธีทำความสะอาดแบงก์ เพื่อลดการปนเปื้อน หรือส่งผ่านโควิด-19ผ่านแบงก์ ชี้ห้ามต้ม ห้ามนำเข้าไมโครเวฟ ห้ามใช้น้ำยาฟอกขาวซัก!

การใช้ “ธนบัตร” หรือแบงก์ เหรียญ ที่หลีกเลี่ยงในการสัมผัสได้ยาก เพราะเราต้องใช้ในการจับจ่ายใช้สอยทุกๆวัน ดังนั้นเชื้อไวรัสโควิด-19 อาจปนเปื้อนมาทางแบงก์ หรือเหรียญได้ด้วย  ดังนั้นเพื่อลดความเสี่ยงเหล่านี้ นอกจาก ธนาคารแห่งประเทศไทย(ธปท.) จะแนะนำให้ทุกคน หันไปใช้ Digital Payment หรือชำระเงินผ่านช่องทางออนไลน์ เพื่อป้องกันการแพร่ระบาดแล้ว ยังแนะนำ วิธีทำความความสะอาดแบงก์ด้วยวิธีง่ายๆ เพื่อช่วยลดความเสี่ยง และลดโอกาสการแพร่เชื้อโควิด-19 ได้อีกด้วย

โดยวิธีการทำความสะอาดง่ายๆ ถ้าอยากทำความสะอาดแบงก์ นั้นก็คือ การล้างด้วยสบู่ น้ำยาล้างจาน น้ำยาซักผ้าเด็ก ก็ได้โดยแช่แค่แป๊บเดียว จากนั้นล้างและซับให้แห้ง และตากไว้ หรือ นำไปตากแดดเพื่อฆ่าเชื้อก็ได้

แต่การทำความสะอาด แบงก์ ที่ผิดและไม่ควรทำอย่างยิ่ง คือ ไม่ควรใช้ผงซักฟอก หรือใช้น้ำยาฟอกขาวในการซัก หรือแช่แบงก์ เพื่อฆ่าเชื้อ รวมไปถึง ไม่ควรนำแบงก์ ไปใส่โครเวฟ หรือ ต้ม!!! เพื่อฆ่าเชื้อ เพราะจะเป็นสาเหตุทำให้แบงก์ ชำรุดแล้วนำไปใช้ต่อไม่ได้ นะจ๊ะทุกคน

อ้างอิงจาก : https://www.bangkokbiznews.com/news/detail/874652?utm_source=homepage_hilight&utm_medium=internal_referral