พฤติกรรมต่างๆ ไม่ว่าจะการกินของคุณแม่หรือสภาพแวดล้อมต่างๆ มีผลต่อเพศของลูก ซึ่งมีหลักฐานที่ระบุว่า ร่างกายของผู้เป็นแม่จะช่วยพัฒนาการในตัวอ่อนตัวผู้หรือตัวเมียได้จากพฤติกรรมการกินอาหาร สำหรับคุณแม่ที่ต้องการลูกผู้ชายไปดูกันเลยว่าควรปฎิบัติตัวอย่างไรบ้าง
1. ทานอาหารเลือกเพศลูกได้
อาหารที่ทำให้ร่างกายและช่องคลอดมีสภาวะเป็นด่าง เพื่อส่งเสริมการขับเคลื่อนฝีเท้าของสเปิร์มเพศชายได้เป็นอย่างดีก็คือ เกลือโซเดียม และโพแทสเซียม จะช่วยปรับความเป็นกรดด่างในร่างกายของคุณให้เหมาะสมกับการปฏิสนธิลูกชาย โซเดียมมีมาในเกลือ บ๊วยเค็ม น้ำปลาปนเกลือ ของจิ้มพริกกับเกลือ ปลาทะเล ปลาเค็ม ปลาแห้ง ปลากรอบ เนื้อต่างๆ เช่น เนื้อเค็ม
- ผัก ผลไม้ ได้แก่ เห็ด อะโวคาโด มะเขือเทศสด ผักผลไม้สด
- โปรตีนและไขมัน ได้แก่ ปลาทะเล ปลาเค็ม ปลาแห้ง ไข่ไก่ 2 ฟองต่อสัปดาห์ เนยเค็ม
- คาร์โบไฮเดรต ได้แก่ ขนมปังขาว เค้ก แยม
- อาหารที่ควรหลีกเลี่ยง ได้แก่ ช็อคโกแลต โกโก้ กุ้ง ปู หอย ผักโขม มะกอก
2. ทานอาหารเช้า
อาหารที่คุณแม่กิน มีอิทธิพลต่อเพศและสุขภาพของทารกที่จะเกิดขึ้น โดยรูปแบบการกินอาหารในช่วงหนึ่งปีก่อนตั้งครรภ์พบว่าผู้หญิงที่กินซีเรียลเป็นอาหารเช้าทุกวันมีโอกาสได้ลูกชายมากกว่าคุณแม่ที่กินน้อยกว่าอาทิตย์ละ 1 ชามถึง 87% ซึ่งการที่คุณแม่กินซีเรียลน้อย (ซึ่งในต่างประเทศจะกินซีเรียลเป็นอาหารเช้า) ส่งผลให้น้ำตาลในเลือดลดลง ทำให้ตัวอ่อนเพศชายนั้นอยู่รอดได้ยากในสภาพแวดล้อมที่มีน้ำตาลน้อยนั่นเอง
3. จำนวนแคลอรี่ในแต่ละวัน
อาหารที่มีแคลอรีสูงมักจะทำให้ได้ลูกชาย คุณแม่ที่ได้ลูกชายนั้นโดยเฉลี่ยแล้วได้รับพลังงานในแต่ละวันมากกว่าคุณแม่ที่ได้ลูกสาวถึง 400 แคลอรี่
4. สภาพอากาศก็มีผล
เนื่องจากสเปิร์มวาย วิ่งเร็ว ปราดเปรียว และตายง่าย ตรงกันข้ามกับสเปิร์มเอ็กซ์ อุ้ยอ้าย วิ่งช้า และตายยาก หากมีเพศสัมพันธ์ในที่ที่ มีอากาศอุ่นสบายมักจะได้ลูกผู้ชาย เพราะสเปิร์มวายทนหนาวไม่ได้
5. มีเพศสัมพันธ์ในวันไข่ตก
ในกรณีที่ประจำเดือนรอบละ 28 วันหากมีเพศสัมพันธ์ในวันที่ไข่ตก ซึ่งมักเป็นวันที่ 14 ของประจำเดือนมักเป็นลูกชาย
ได้ผลหรือไม่ก็อย่าลืมสิ่งที่สำคัญ คืออย่าเคร่งเครียดเกินไป ควรทำใจเป็นกลางและยอมรับกันและกันให้ได้ตั้งแต่ต้นก่อนว่าไม่ว่าจะเพศใด ลูกก็คือของขวัญอันยิ่งใหญ่ที่เราได้รับมานั่นเองค่ะ
ที่มา :