หากจะพูดถึงแมลงที่เป็นศัตรูตัวร้ายของลูกแล้ว แน่นอนว่า “ยุง” จะต้องมาเป็นอันดับหนึ่ง! ซึ่งหลังจากที่ลูกถูกยุงกัดก็จะขึ้นตุ่มแดงๆ ที่ทำให้เจ้าตัวซนคันแบบสุดๆ จนทำให้ต้องเผลอเกาและทิ้งรอยดำไว้ทุกครั้ง คุณพ่อคุณแม่อย่างเราจึงต้องหาวิธีป้องกันไม่ให้ลูกถูกยุงกัดกันจ้าละหวั่น
แต่ถึงเราจะป้องกันยังไงก็มีโอกาสที่เจ้าตัวเล็กจะถูกยุงกัดอยู่ดีใช่ไหมล่ะคะ วันนี้เราจึงมีวิธีในการดูแลผิวลูกหลังจากถูกยุงกัดมาฝากค่ะ จะมีวิธีอะไรบ้าง ตามมาดูกันเลย!
1. ล้างน้ำทันทีหลังโดนยุงกัด
และในตอนที่ยุงปล่อยน้ำลายออกมา ผิวหนังของเราก็จะผลิตสารฮิสตามินเพื่อเป็นการสร้างภูมิคุ้มกันให้กับร่างกาย นั่นจึงทำให้ผิวหนังของลูกเกิดตุ่มเล็กๆ ขึ้นมา พร้อมกับอาการคัน การที่รีบล้างน้ำทันทีหลังถูกยุงกัดก็เหมือนเป็นการล้างโปรตีนจากน้ำลายยุงที่ติดอยู่บนผิวหนังไปบางส่วนไปนั่นเองค่า
2. ทายาหม่องชนิดขี้ผึ้งที่ไม่แสบร้อนระหว่างวัน
วิธีต่อมาก็คือการทาบาล์มหรือยาหม่องชนิดขี้ผึ้งที่ไม่มีฤทธิ์แสบร้อน เพราะยาหม่องก็เป็นเหมือนยาสามัญประจำบ้านที่คุณพ่อคุณแม่ควรติดบ้านไว้ เนื่องจากมีราคาไม่แพง พกพาสะดวก นอกจากจะช่วยลดการระคายเคืองจากแมลงสัตว์กัดต่อยแล้วยังช่วยแก้ปวดเมื่อย เคล็ดขัดยอก สำหรับเจ้าตัวเล็กวัยกำลังซน และทุกคนในบ้านได้อีกด้วยนะคะ
โดยหากเลือกยาหม่องชนิดขี้ผึ้งที่ไม่แสบร้อนก็จะช่วยให้ผิวของลูกไม่ระคายเคือง และอาจเลือกยาหม่องที่มีส่วนผสมของน้ำมันยูคาลิปตัสและการบูร เพราะ…
- น้ำมันยูคาลิปตัสมีคุณสมบัติที่จะช่วยแก้ปวด บวม อักเสบ จากแมลงกัดต่อย อีกทั้งยังมีกลิ่นหอมที่ช่วยบำบัดได้ด้วย
- การบูรก็มีฤทธิ์เป็นยาชาอ่อนๆ ที่ช่วยแก้อาการบวมอักเสบ ที่เกิดจากยุงและแมลงกัดต่อยได้เช่นกันค่ะ
แต่ถ้าหากเลือกยาหม่องที่มีส่วนผสมของการบูร แนะนำให้ใช้ในเด็กอายุ 2 ปีขึ้นไป เพื่อหลีกเลี่ยงการแพ้นะคะ และไม่ต้องกังวลว่าการทายาหม่องจะทำให้เกิดรอยดำ เพราะในปัจจุบันยังไม่มีผลวิจัยที่บอกว่าทายาหม่องแล้วจะเกิดรอยดำค่ะ
3. ประคบเย็นแก้คัน
4. ตัดเล็บลูกให้สั้นและห้ามเกา
สำหรับวิธีบรรเทาความคัน แนะนำให้ทำตามวิธีที่กล่าวไปข้างต้น คือ ล้างน้ำทันทีหลังถูกยุงกัด ทาบาล์มหรือยาหม่องขี้ผึ้งที่ไม่มีฤทธิ์แสบร้อน หรือประคบเย็น ก็จะช่วยบรรเทาอาการคันของลูกได้ แต่ถ้าไม่ไหวจริงๆ อาจใช้การลูบเบาๆ บริเวณที่คันก็จะช่วยได้เช่นกันค่ะ
——————————
ติดตามสาระน่ารู้ และกิจกรรมสนุกๆ ได้ที่ Facebook Zam Buddy : https://www.facebook.com/
ข้อมูลเพิ่มเติมได้ที่ : www.zambuk.co.th