Parents One

6 วิธีสอนการบ้านลูกให้สำเร็จและมีความสุข

อีกหนึ่งสิ่งที่เชื่อมโยงชีวิตระหว่างที่โรงเรียนและบ้าน ก็คือการบ้าน นอกจากจะช่วยฝึกลูกให้มีความรับผิดชอบแล้ว ยังเป็นการเชื่อมความสัมพันธ์ระหว่างคุณพ่อคุณแม่กับลูกรักด้วย ถ้าสอนด้วยความรัก ใจเย็นเวลาลูกทำการบ้านก็จะมีความสุข แล้วความรู้สึกดีๆ เหล่านี้จะถูกปลูกฝังจนกลายเป็นตัวตนของเขาขึ้นมา เด็กจะทำโดยไม่รู้สึกเบื่อหน่ายหรือรู้สึกว่าถูกบังคับให้ต้องมาทำการบ้าน วันนี้จะมาบอกวิธีที่ทำให้สอนการบ้านลูกได้สำเร็จ ราบรื่น ไม่มีดราม่ามาฝากกันค่ะ

1. ออกแบบการสอนให้สนุก

ออกแบบการสอนให้สนุกเข้ากับลูก พ่อแม่ย่อมรู้ดีกว่าใครว่าลูกสนใจอะไรเป็นพิเศษ ดังนั้นในวิชาที่เข้าใจยาก หรือวิชาที่ลูกไม่ชอบควรเอาสิ่งที่ลูกสนใจมาประยุกต์ อย่างถ้าลูกไม่ชอบคณิตศาสตร์ แต่คุณพ่อคุณแม่ทราบว่าลูกชอบตัวการ์ตูนโดราเอมอน ก็นำสิ่งที่ลูกสนใจมาเรียนคู่กันโดยยกตัวอย่างเอาโดเรมอนมาเป็นตัวแก้โจทย์ปัญหา เป็นต้น

2. ชมเชยทุกครั้งที่ลูกทำสำเร็จ

ชมเชยทุกครั้งที่ลูกทำสำเร็จ คำชมเล็กๆ น้อยๆ เป็นสิ่งเด็กๆ ทุกคนอยากได้ยินจากคุณพ่อคุณแม่อยู่แล้ว ดังนั้น ถ้าลูกทำการบ้านได้ถูกต้องก็ควรได้รับคำชมที่ดี เช่น “เก่งมากจ้ะ มาให้แม่หอมหนึ่งที” เพื่อให้ลูกมีกำลังใจในการทำการบ้าน แต่ถ้าลูกทำผิดก็ควรเข้าใจเด็ก ค่อยๆ สอน ไม่ดุหรือตีลูก เพราะถ้าดุหรือใช้ความรุนแรงกับลูก จะทำให้เด็กรู้สึกเกลียดการทำการบ้านมากขึ้นแล้ว ที่สำคัญ คือ เค้าจะไม่อยากให้เราหรือใครสอนการบ้านอีก

3. สอนด้วยใบหน้ายิ้มแย้ม

เวลาสอนคุณพ่อคุณแม่ต้องไม่ทำหน้าดุ ควรยิ้มแย้มบ้าง เพื่อไม่ให้ลูกเครีด และการเอาใจใส่กับการทำการบ้านของลูก มีความสำคัญต่อการปลูกฝังทัศนคติในการทำการบ้านของลูก เขาจะเห็นว่าการทำการบ้านเป็นสิ่งสำคัญ และมีความรู้สึกดี ซึ่งจะเป็นพื้นฐานสำคัญต่อการเรียนในอนาคต

4. มีช่วงพักระหว่างเรียน 

ไม่ควรใช้เวลาในการสอนนานเกินไปเช่น ใน 1 วัน ต่อ 1 เรื่องหรือ 1 วิชา และควรมีการพักให้เด็กได้ผ่อนคลายบ้าง อย่างพาลูกทานขนมมื้อว่างที่ลูกชอบ พักเล่นกับลูกเพื่อผ่อนคลาย นั่นจะช่วยให้เด็กเรียนอย่างมีความสุข และไม่กดดันเวลาทำการบ้านนั่นเองค่ะ

5. เข้าใจธรรมชาติของลูก

พ่อแม่หลายคนยังไม่เข้าใจธรรมชาติของเด็กโดยเฉพาะช่วงอนุบาลที่คิดว่าลูกเรียนอนุบาลควรได้การบ้านที่เป็นการคัดหัดเขียน ลูกควรจะเขียนหนังสือได้ อ่านหนังสือออก แท้จริงแล้วธรรมชาติของเด็กวัยนี้ยังไม่จำเป็นเรียนรู้มากถึงขนาดนั้น ควรค่อยเป็นค่อยไป ไม่ควรวิตกกังวลว่าลูกจะเรียนได้ช้าไม่ทันคนอื่น ไม่ควรเร่งการเรียนรู้ให้กับเด็ก เพราะจะฝืนธรรมชาติ ทำให้เด็กไม่ได้พัฒนาคุณลักษณะภายในบางประการ อย่างบุคลิกภาพ การควบคุมอารมณ์ การพัฒนาทางสังคม เป็นต้น

การทำการบ้าน เป็นการฝึกความรับผิดชอบต่อหน้าที่ การสอนการบ้านลูก สิ่งสำคัญที่สุด คือ ต้องใจเย็น อย่าขู่ อย่าดุ ไม่ใช้ความรุนแรง คุณพ่อคุณแม่ค่อยๆ สร้างแรงจูงใจให้เด็กอยากทำ ที่สำคัญอย่าเปรียบเทียบลูกกับเพื่อนคนอื่น จนเด็กเกลียดการทำการบ้าน เพราะบางครั้ง เด็กอาจยอมทำการบ้านนั้นให้เสร็จพร้อมน้ำตา ซึ่งจะทำให้ลูกยิ่งไม่อยากทำการบ้านมากขึ้น และเกิดผลเสียในระยะยาวได้ค่ะ