Parents One

NEWS: ลูกกินหวานเกินไปรึเปล่า? ระวังเสี่ยงเป็นโรคไม่ติดต่อเรื้อรังในอนาคต

รสชาติหวานเป็นรสที่เด็กๆ ชื่นชอบ ซึ่งคุณพ่อคุณแม่ต้องคอยควบคุมแล้วล่ะค่ะว่าตอนนี้ลูกกินหวานมากเกินไปรึเปล่า เพราะถ้ายังให้ลูกกินหวานต่อไปเรื่อยๆ ไม่แน่ว่าเรากำลังจะเป็นผู้ร้ายที่ทำให้ลูกเป็นโรคไม่ติดต่อเรื้อรังในอนาคต โดยโรคไม่ติดต่อเรื้อรังได้แก่ โรคเบาหวาน โรคหัวใจและหลอดเลือด และโรคอ้วน

แพทย์หญิงพรรณพิมล วิปุลากร อธิบดีกรมอนามัย กล่าวว่า เด็กในช่วงวัยเรียนมีพฤติกรรมการกินอาหารที่มีน้ำตาลสูง เช่น น้ำอัดลม น้ำหวาน เบเกอรีและขนมหวานต่างๆ โดยมีรายงานผลสำรวจจากกรมอนามัย ปี 2560 พบว่า เด็กอายุ 10 ปี ร้อยละ 33 และเด็กอายุ 12 ปี ร้อยละ 47.1 มีพฤติกรรมการเลือกกินขนมหวาน น้ำหวาน น้ำอัดลม หลังเวลา 6 โมงเย็น 1-3 วันต่อสัปดาห์

ดังนั้นพ่อแม่จึงต้องคอยดูแล และควบคุมพฤติกรรมการกินของลูก เลี่ยงการกินอาหาร หวาน มัน เค็ม เพื่อป้องกันการป่วยด้วยโรคไม่ติดต่อเรื้อรัง ได้แก่ โรคเบาหวาน โรคหัวใจและหลอดเลือด และโรคอ้วนตามมา เมื่อโตเป็นผู้ใหญ่ เพราะอาหารจำพวกน้ำตาลหากได้รับมากเกินไปจะถูกเปลี่ยนเป็นไขมันสะสมในร่างกาย

วิธีดูแลไม่ให้ลูกกินหวานมากเกินไปคือ พยายามควบคุมไม่ให้ลูกกินน้ำตาลไม่เกินวันละ 6 ช้อนชา ให้ลูกกินขนมหวาน น้ำหวานน้ำอัดลมน้อยลง เพื่อเป็นการสร้างความเคยชินในการรับรสจะได้ไม่ติดรสหวาน โดยเลือกกินผลไม้รสไม่หวานจัดเป็นอาหารว่างหรืออาหารกินเล่นแทนขนมหวาน

นอกจากนี้ยังต้องให้ลูกวิ่งเล่น ออกกำลังกายจนเหนื่อยหอบวันละ 60 นาทีทุกวัน เพื่อที่จะได้มีสุขภาพแข็งแรง สมส่วน มีการเจริญเติบโตอย่างเต็มศักยภาพ เป็นผู้ใหญ่ที่สุขภาพดีในอนาคต

อ้างอิงจาก