Parents One

มาจัดบ้านของเราให้น่าอยู่สไตล์ Konmari กันเถอะ

คุณพ่อคุณแม่เคยสงสัยกันไหมคะว่า? ของในบ้านเราเนี่ย เริ่มเยอะจนมองหายากขึ้นทุกวัน ทั้งเสื้อผ้าของคุณแม่ ของสะสมของคุณพ่อ แล้วไหนจะของเล่นที่กองอยู่ที่พื้นบ้านอีกเต็มไปหมด ยิ่งค้นออกมาเท่าไหร่ ก็ยิ่งพบว่ามีของที่ไม่จำเป็นมากมาย แถมอยู่อย่างกระจัดกระจายและไม่เป็นระเบียบอีกด้วย

เราจึงขอมาแนะนำเคล็ดลับในการจัดบ้านสุดฮิตสไตล์ญี่ปุ่นแบบ KONMARI กันค่ะ ว่าจะช่วยให้บ้านของเรานั้นสะอาด เป็นระเบียบและน่าอยู่ขึ้นขนาดไหน อย่ารอช้า ไปดูกันเลย!!

รู้จักกับการจัดบ้านสไตล์ญี่ปุ่นแบบ KONMARI 

การจัดบ้านแบบ “คนมาริ” คือ เทคนิคการจัดบ้านที่ช่วยจัดการสิ่งของให้เข้าที่ไปพร้อมๆ กับจัดการความคิด เพื่อช่วยให้ชีวิตของทุกคนมีความสุขมากขึ้น หากเราไม่จัดบ้านหรือปล่อยให้รกรุงรัง ชีวิตของคุณก็จะไม่ต่างกันกับสภาพนั้นนั่นเองค่ะ ซึ่งการจัดบ้านแบบ KONMARI ประกอบด้วย 4 ขั้นตอน เราไปดูกันดีกว่าว่ามีอะไรขั้นตอนบ้าง

ขั้นตอนที่ 1 : จัดเก็บทุกอย่างในรอบเดียว

ขั้นตอนแรก คือ การให้คุณพ่อคุณแม่นำสิ่งของต่างๆ ภายในบ้าน ที่ต้องการจัดให้เป็นระเบียบยกมากองไว้รวมกันค่ะ จากนั้นจึงค่อยๆ จัดเก็บทุกอย่างให้เป็นระเบียบในรอบเดียวนั่นเองค่ะ

ซึ่งการที่เราต้องจัดเก็บสิ่งของทุกอย่างในรอบเดียว นั่นก็เพราะ ถ้าเราจัดเก็บสิ่งต่างๆ ทีละเล็กทีละน้อย จะทำให้การเก็บล่าช้า และทำให้รู้สึกทำไม่เสร็จสักที การจัดเก็บในรอบเดียวจะช่วยให้ทุกอย่างเร็วขึ้น เพราะทำให้เราเห็นภาพรวมของสิ่งของที่ต้องจัดว่ามีมากหรือน้อยแค่ไหน ถือเป็นการสร้างเป้าหมาย และทำให้การจัดบ้านครั้งเดียวนั้นคุ้มค่า และเห็นการเปลี่ยนแปลงของบ้านที่ชัดเจน จนไม่กล้าทำรกกันเลยทีเดียว

ขั้นตอนที่ 2 : จัดบ้านตามหมวดหมู่

การจัดของไม่ควรจะทำไปทีละห้อง เพราะจะทำให้เราเสียเวลาไปการขนย้ายทีละอย่าง และอาจทำให้เราเคลียร์ของออกได้ไม่หมด ดังนั้น เราจึงควรนำของออกมาพร้อมๆกัน แล้วจัดตามหมวดหมู่ แบ่งประเภทให้ชัดเจน เช่น หากต้องการจัดเสื้อผ้า ก็ให้นำเสื้อผ้าของตู้คุณพ่อ คุณแม่ และลูกออกมาให้หมดพร้อมๆ กัน แล้วค่อยคัดเลือกทั้งหมดอย่างรวดเร็วค่ะ ถือเป็นการประหยัดเวลาด้วยนั่นเอง

ขั้นตอนที่ 3 : ตัดใจจากของที่ไม่จำเป็น

การจัดบ้านแบบ KONMARI นั้น ใจเราต้องเข้มแข็ง และต้องกล้าตัดใจทิ้งในสิ่งที่เราไม่ได้ใช้ เมื่อเราเห็นของชิ้นไหนแล้วรู้สึกรักและไม่ต้องการทิ้ง ให้เก็บไว้เป็นที่อย่างเป็นระเบียบ แต่ถ้าเห็นแล้วรู้สึกเฉยๆ หรือรู้สึกว่าไม่น่ามีโอกาสได้ใช้ก็ต้องตัดใจจากมันค่ะ ที่สำคัญ คุณพ่อคุณแม่ควรแยกให้ชัดเจนสำหรับของที่ต้องเก็บและของที่ต้องทิ้ง แม้จะทำใจได้ยากแต่เพื่อความเป็นระเบียบเรียบร้อยของบ้าน เราก็ต้องผ่านไปให้ได้ค่ะ

ขั้นตอนที่ 4 : จัดเก็บของด้วยสไตล์การพับ KONMARI

สไตล์การพับผ้าแบบ KONMARI เป็นการย่อขนาดของเสื้อผ้าให้มีขนาดที่เล็กลง เพื่อจัดเก็บลงกล่องได้สะดวก ทำให้ประหยัดเนื้อที่เพิ่มมากยิ่งขึ้น งั้นเราไปดูวิธีพับผ้าสไตล์ KONMARI กันเลยค่ะ

1. วางเสื้อในแนวราบแบบกางแขน พยายามทำให้มันเรียบที่สุด เพื่อจะได้พับง่ายๆ ค่ะ

2. พับแขนเสื้อข้างซ้าย ขวาให้เข้ามาประจบกันที่ตรงกลางเสื้อ

3. จากนั้นจึงจับปลายเสื้อให้พับตลบขึ้นมาถึงคอเสื้อ จนกลายเป็นรูปสี่เหลี่ยมผืนผ้า

4. พับเสื้อแบ่งเป็นอีก 3 ส่วน แล้วนำมาประกบกันอีกครั้งหนึ่ง

เพียงเท่านี้ เราก็สามารถลดขนาดเนื้อที่ของเสื้อผ้าให้เก็บเข้ากล่องได้เยอะ และยังเรียงกันเป็นระเบียบแบบสวยงามอีกด้วยค่ะ

เห็นไหมล่ะคะว่าการจัดบ้านสไตล์ญี่ปุ่น แบบ KONMARI นั้นง่ายนิดเดียว หากคุณพ่อคุณแม่ทำตามครบทั้ง 4 ข้อแล้ว ลองสังเกตดูว่าบ้านของเรานั้นเป็นระเบียบเรียบร้อย และเหลือพื้นที่เพิ่มขึ้นอีกมากแค่ไหน มาดูกันนะคะ

แต่หลายคนคงเกิดข้อสงสัยว่า แล้วสิ่งของที่ครอบครัวเราทิ้งล่ะ จะเอาไปไว้ที่ไหนดี? เพราะว่าของบางอย่างยังมีสภาพดีอยู่เลย จะทิ้งไปก็เสียดาย วันนี้เราจึงมาแนะนำช่องทางที่จะช่วยให้ของใช้ต่างๆ กลับมามีประโยชน์อีกครั้ง ด้วยการหาคนมาดูแลสิ่งของเหล่านั้นแทน ด้วยการใช้แอปพลิเคชัน Kaidee นั่นเองค่ะ

แอปพลิเคชัน Kaidee แอปที่จะช่วยให้เราสามารถขายของมือสองได้ในราคาดี ขายง่าย แถมสะดวกสบาย ไม่ต้องออกไปเช่าร้านให้ยุ่งยาก สามารถกำหนดราคาขายเองได้ ช่วยให้ของที่เรายังรักและผูกพันได้มีเจ้าของดูแลต่อไปด้วยวิธีการง่ายๆ เพียงไม่กี่ขั้นตอน ซื้อขายจบครบในแอปพลิเคชันเดียว

ส่งต่อสิ่งของที่มีประโยชน์ ผู้รับได้ของดีมีคุณภาพ ผู้ส่งได้ส่งต่อความสุข แถมได้รับความสุขกลับมา นับว่าเป็นเรื่องที่ดีมากๆ เลยค่ะ ที่การจัดบ้านครั้งหนึ่งของเรานั้น นอกจากจะช่วยทำให้บ้านสะอาดสะอ้าน ดูเป็นระเบียบเรียบร้อยแล้ว ยังช่วยให้เราได้มีรายได้นำกลับมาหมุนเวียนใช้จ่ายในการซื้อของเข้าบ้านครั้งต่อไปอีกด้วย

คุณพ่อคุณแม่สามารถดาวน์โหลดแอปพลิเคชัน Kaidee ได้แล้วทั้งใน App Store , Google Play อย่าลืมโหลดมาใช้กันเยอะๆ นะคะ

ขอบคุณแหล่งอ้างอิง :