Parents One

NEWS : องค์การอนามัยโลกเตือน โรคหัดแพร่กระจายมากขึ้น เนื่องจากเด็กไม่ได้รับวัคซีนโดยเฉพาะเด็กทารกและเด็กเล็ก

แม่อาจจะทราบกันดีค่ะว่า โดยปกติแล้ววัคซีนป้องกันโรคหัดเป็นวัคซีนตามเกณฑ์ของกระทรวงสาธารณสุขที่เด็กๆ อายุระหว่าง 9 – 12 เดือน ทุกคนต้องฉีด และต้องฉีดเข็มกระตุ้นเมื่ออายุ 4 – 6 ปี

ซึ่งในปี 2565 เมื่อเทียบกับปี 2564 สำนักข่าวซีเอ็นเอ็น รายงานว่า องค์การอนามัยโลกและกองทุนฉุกเฉินสำหรับเด็กนานาชาติแห่งสหประชาชาติ เตือนถึงความเสี่ยงที่เพิ่มขึ้นของการแพร่กระจายของโรคหัด โดยมีจำนวนผู้ป่วยทั่วโลกเพิ่มขึ้นเกือบ 80%

โดยองค์กรกล่าวว่า “รายงานผู้ป่วยโรคหัดเกือบ 17,338 คนทั่วโลก ในเดือนมกราคมและกุมภาพันธ์ ปี 2565 เทียบกับ 9,665 ราย ในช่วง 2 เดือนแรกของปี 2564” การระบาดเกิดขึ้นจำนวนมากในแอฟริกา และภูมิภาคเมดิเตอร์เรเนียนตะวันออก

นอกจากนี้ยังระบุด้วยว่า เด็ก 23 ล้านคน ไม่ได้รับการฉีดวัคซีนในปี 2020 ซึ่งการรณรงค์ฉีดวัคซีนในเด็กถูกหยุดไว้ เพราะการระบาดใหญ่ของโควิด-19 และความขัดแย้งในยูเครน เอธิโอเปีย โซมาเลีย และอัฟกานิสถาน ณ วันที่ 1 เมษายน “การรณรงค์โรคที่ป้องกันได้ด้วยวัคซีน 57 โครงการ ใน 43 ประเทศ ถูกกำหนดตั้งแต่การเริ่มแพร่ระบาดได้ถูกเลื่อนออกไป ส่งผลกระทบต่อผู้คน 203 ล้านคน ซึ่งส่วนใหญ่เป็นเด็ก และมี 19 โครงการ เป็นการรณรงค์โรคหัด ซึ่งทำให้เด็ก 73 ล้านคนเสี่ยงต่อการเป็นโรคหัดเนื่องจากไม่ได้รับวัคซีน”

จากข้อมูลของ WHO และ ยูนิเซฟ “วัคซีนป้องกันโรคหัดที่ปลอดภัยและมีประสิทธิภาพ 2 โดส สามารถป้องกันโรคหัดได้สูงกว่า 95 เปอร์เซ็นต์ ”

เพราะฉะนั้นแล้วเด็กๆ ที่ไม่ได้รับวัคซีนเป็นประจำอาจทำให้เสี่ยงต่อโรคที่เราป้องกันได้ เช่น โรคหัดและโรคไอกรน ซึ่งเป็นโรคติดต่อร้ายแรงและน่ากังวล โดยเฉพาะอย่างยิ่งสำหรับทารกและเด็กเล็ก

อ้างอิงจาก : https://news.ch7.com/detail/566024