Parents One

NEWS : พบผู้ป่วยรายแรกของโลก “ลมเข้าสมอง” หลังเอามือปิดปาก-จมูกขณะจาม

นพ.มนูญ ลีเชวงวงศ์ เปิดเผยเคสผู้ป่วย “ลมเข้าสมอง” หลังเอามือปิดจมูกปิดปาก รายแรกของโลกที่เกิดขึ้น 2 ครั้ง ในเวลาห่างกัน 3 ปี เตือนอย่าให้ตัวเองเอามือปิดปากปิดจมูกพร้อมกันขณะจามหรือไอเด็ดขาด

โดยผู้ป่วยเป็นหญิงไทยอายุ 85 ปี เป็นโรคเบาหวานและไขมันสูง  เมื่อวันที่ 14 ธ.ค.2559 มาโรงพยาบาลด้วยอาการพูดไม่ชัด นึกคำพูดไม่ออก หูข้างซ้ายอื้อ มีเสียงดัง หลังจากจามแล้วเอามือปิดจมูกปิดปากพร้อมๆ กัน ได้ทำ MRI คลื่นแม่เหล็กสมอง พบมีลม (air pocket)ในเนื้อสมองข้างซ้าย

ต่อมาอาการก็ดีขึ้นตามลำดับ จนวันที่ 14  พ.ค. ที่ผ่านมา ได้มาตรวจที่โรงพยาบาลอีกครั้งหลังจามแล้วเอามือปิดปากปิดจมูกเพราะไม่อยากให้เสียงดัง หลังทำมีอาการพูดไม่ชัด หน้าข้างขวาเบี้ยว หูซ้ายอื้อ มีเสียงดัง ทำคอมพิวเตอร์สมองพบลม(air pocket) ในเนื้อสมองข้างซ้ายตำแหน่งเดิมเหมือนเมื่อ 3 ปี 5 เดือนก่อน แต่ปริมาตรของลมในเนื้อสมองครั้งนี้น้อยกว่า ผู้ป่วยนอนในโรงพยาบาล 4 วัน อาการดีขึ้นช้าๆ กลับบ้านได้

สาเหตุของลมเข้าสมองทั้ง 2 ครั้งของผู้ป่วยรายนี้ คือจามแล้วเอามือปิดจมูกปิดปากพร้อมๆ กัน ปกติความแรงของการจามทำให้ลมพุ่งออกจากจมูกและปากด้วยความเร็วสูงถึง 110 กม./ชม. เนื่องจากผู้ป่วยรายนี้ปิดจมูกปิดปากขณะจาม แรงดันในช่องปากคงสูงมาก ลมผ่านจากท่อในปากเข้าหูชั้นกลางด้านซ้าย แล้วดันทะลุผ่านกะโหลกใต้สมองเข้าเนื้อสมองด้านซ้าย

เพราะฉะนั้นคุณพ่อคุณแม่เองก็ต้องคอยระมัดระวังไม่ให้เด็กๆ ใช้มือปิดปากและปิดจมูกพร้อมกันเวลาไอหรือจามโดยเด็ดขาดเลยนะคะ ไม่เช่นนั้นอาจจะเป็นการทำร้ายตัวเองได้ ทางที่ดีหาผ้าเช็ดหน้า หรือใส่หน้ากากอนามัยไว้ตอนจามจะดีกว่า ไม่เกิดอันตรายและป้องกันเชื้อโรคแพร่กระจายได้ด้วยค่ะ

อ้างอิงจาก :  https://news.thaipbs.or.th/content/292753

, https://www.thairath.co.th/news/local/1849851