Parents One

NEWS: ยาแก้แพ้ส่งผลให้ผู้ชายเกิดปัญหาด้านการเจริญพันธุ์ได้

ผู้ชายคนไหนที่ใช้ยาแก้แพ้หรือยาในกลุ่มแอนติฮิสตามีน (Antihistamines) เพื่อลดน้ำมูก ผื่นคันและภูมิแพ้อาจจะต้องระวังสักหน่อยนะคะ เพราะหากใช้ต่อเนื่องในระยะยาวอางส่งผลต่อการทำงานของอัณฑะบกพร่อง และเป็นปัญหาต่อการเจริญพันธุ์ของผู้ชายได้

เนื่องจากมีผลการทดลองกับสัตว์ในงานวิจัยหลายชิ้น ที่ชี้ว่าแนวโน้มที่ยาแก้แพ้กลุ่มแอนติฮิสตามีนจะทำให้การผลิตฮอร์โมนเพศชายจากอัณฑะผิดปกติ หากใช้ยานี้ติดต่อกันเป็นเวลานาน คือ ส่งผลให้สเปิร์มหรือตัวอสุจิมีจำนวนลดลง ทั้งมีอัตราการตายสูงและรูปร่างผิดแปลกไปจากมาตรฐานด้วย ซึ่งเป็นสาเหตุหนึ่งของการมีบุตรยาก

ดร. คาโรลินา มอนดิโญ ผู้นำคณะนักวิจัยกล่าวว่า ฮีสตามีนที่ร่างกายเราสร้างขึ้นเพื่อต่อต้านสิ่งแปลกปลอมยังส่งผลต่อพฤติกรรมทางเพศและการเจริญพันธุ์อีกด้วย หากใช้ยาแก้แพ้ซึ่งมีผลยับยั้งการทำงานของฮิสตามีนมากเกินไป ก็อาจส่งผลกระทบเรื่องการมีบุตรได้

แต่อย่างไรก็ดียังไม่มีการทดลองในมนุษญ์เพื่อยืนยันเรื่องผลข้างเคียงของยาแก้แพ้ต่อการเจริญพันธุ์และสุขภาพทางเพศของผู้ชายโดยตรง จึงอาจต้องมีการทดลองซ้ำในวงกว้างขึ้นอีก ซึ่งอาจนำไปสู่การคิดค้นยาแก้แพ้ชนิดใหม่ ที่จะไม่ทำให้เกิดผลข้างเคียงดังกล่าวขึ้น

ส่วนทางด้าน ดร.ฉันนะ ชัยเสนา ผู้เชี่ยวชาญจากอิมพีเรียล คอลเลจ ลอนดอน (ไอซีแอล) แสดงความคิดเห็นว่า ในช่วงไม่กี่สิบปีที่ผ่านมาคุณภาพของตัวอสุจิในหมู่ประชากรเพศชายทั่วโลกลดลงเรื่อย ๆ จากหลายสาเหตุ ดังนั้นผลการวิเคราะห์ดังกล่าวยังไม่สามารถบ่งชี้ได้แน่นอนว่ายาแอนติฮิสตามีนเป็นตัวการที่ทำให้จำนวนของสเปิร์มลดลงอย่างไรก็ตาม ขอแนะนำให้ลดการใช้ยาแก้แพ้ลงเหลือเท่าที่จำเป็นเท่านั้น เพื่อเป็นการป้องกันไว้ก่อน

อ้างอิงจาก

bbc.com/thai/features-43356641