Parents One

NEWS: กรมสุขภาพจิตเตือน เด็กดื้อมาก จะกลายเป็นโรคดื้อต่อต้าน

ดื้อด้านไม่ฟังพ่อแม่ ไม่ทำตามกฎระเบียบ อารมณ์รุนแรง หงุดหงิดง่ายในระดับที่เกินกว่าเด็กทั่วไป สร้างความเดือดร้อนให้คนอื่นเป็นประจำ ลูกของคุณมีอาการเหล่านี้อยู่หรือเปล่าคะ? ถ้าใช่ หากปล่อยอาการเหล่านี้ทิ้งไว้จนเกิน 3 ขวบ ลูกจะกลายเป็นโรคพฤติกรรมดื้อต่อต้านได้ค่ะ

เด็กป่วยเป็นโรคต่อต้านพบได้ประมาณ 80,000 คนทั่วประเทศ ซึ่งโรคนี้เกิดขึ้นจากหลายสาเหตุร่วมกันทั้งตัวเด็กเอง ที่มีพื้นฐานเป็นเด็กอารมณ์ร้อน และสภาพแวดล้อม เช่น ความสัมพันธ์ในครอบครัวไม่ดี ใช้ความรุนแรง การตั้งกฎระเบียบที่ไม่สม่ำเสมอของพ่อแม่

ที่น่าเป็นห่วงพบว่ายังมีพ่อแม่มีความเชื่อผิดๆ คิดว่าเด็กดื้อตามปกติ จึงไม่ได้พาไปรักษา โดยให้การดูแลตามความเชื่อ คือ

  1. ปล่อยไปตามธรรมชาติ เด็กน่าจะดีขึ้นเอง
  2. ไม่ขัดใจลูก เพราะกลัวลูกจะเครียด กลัวลูกออกจากบ้าน
  3. ลงโทษรุนแรงเพื่อดัดนิสัย
  4. ส่งไปอยู่กับญาติ หรือส่งไปอยู่โรงเรียนประจำ เพื่อดัดนิสัย

ซึ่งความเชื่อทั้งหมดนี้ ไม่ได้ช่วยให้พฤติกรรมของเด็กดีขึ้น แต่ล้วนทำให้พฤติกรรมดื้อต่อต้านแย่ลงไปอีก

สำหรับวิธีการรักษาก็ต้องใช้ร่วมกันหลายวิธี ได้แก่ การทำจิตบำบัด ฝึกให้เด็กควบคุมตัวเอง ฝึกให้มีการแสดงออกที่เหมาะสมกับผู้ใหญ่ควบคู่กับการให้ความรู้ความเข้าใจแก่ครอบครัวหรือที่เรียกว่าครอบครัวบำบัด เพื่อลดความขัดแย้ง เพิ่มการสื่อสารที่เหมาะสมในครอบครัว ฝึกพ่อแม่ให้ปรับพฤติกรรมเด็กอย่างเหมาะสมถูกต้อง รวมทั้งร่วมมือกับครูที่โรงเรียนในการดูแลและช่วยปรับลดพฤติกรรมที่ไม่ดีระหว่างที่เด็กอยู่ในโรงเรียนด้วย

ที่สำคัญคือไม่ควรลงโทษด้วยการทุบตีอย่างรุนแรงหรือด่าว่าด้วยถ้อยคำที่หยาบคาย รุนแรง เนื่องจากเป็นการเพิ่มความก้าวร้าวให้เด็ก ทำให้เด็กมีพฤติกรรมต่อต้านเพิ่มมากขึ้น และหากเด็กเหล่านี้ไม่ได้รับการรักษา เมื่อโตขึ้นเด็กจะมีพฤติกรรมใช้ความรุนแรงมากขึ้น ก้าวร้าว เกเร เสี่ยงต่อการเสพและติดสารเสพติดได้ง่าย

ผลของการรักษาขึ้นอยู่กับการปรับตัวของเด็กและการดูแลของผู้ปกครอง โดยพบว่าเด็กประมาณ 1 ใน 4 ที่ได้รับการรักษาแล้วจะหายขาด ส่วน 3 ใน 4 ต้องใช้ความเข้าใจแล้วความสัมพันธ์อันดีของคนในครอบครัว จึงจะช่วยให้พฤติกรรมดีขึ้นและสามารถเรียนหนังสือได้เหมือนเด็กทั่วไป

อ้างอิงจาก