Parents One

NEWS : เผยข้อมูล ไฟเซอร์ฝาแดงสำหรับเด็กเล็ก เตรียมพร้อมก่อนวัคซีนถึงไทย 7 ต.ค. นี้

วัคซีนโควิด-19 สำหรับเด็กอายุ 6 เดือน ไม่เกิน 5 ปี มีกำหนดถึงประเทศไทยในวันที่ 7 ตุลาคมนี้ และจะเริ่มให้บริการฉีดครั้งแรกวันที่ 12 ตุลาคม ณ โรงพยาบาลพระนั่งเกล้า แน่นอนว่าคุณพ่อคุณแม่หลายท่านยังคงมีความกังวลเกี่ยวกับวัคซีนชนิดนี้อยู่ ซึ่งแพทย์ผู้เชี่ยวชาญจึงมีการออกมาให้ข้อมูลเพื่อประกอบการตัดสินใจของทุกๆ ท่าน

ข้อมูลทั่วไปเกี่ยวกับวัคซีน 

พญ.ปิยนิตย์ ธรรมาภรณ์พิลาศ แพทย์ผู้เชี่ยวชาญด้านวัคซีนและการสร้างเสริมภูมิคุ้มกันโรค และนายแพทย์ทรงคุณวุฒิ กรมควบคุมโรคกล่าวว่า วัคซีนไฟเซอร์ฝาแดงเข้ม ขวดแดงเข้มใช้สำหรับเด็กอายุ 6 เดือนขึ้นไป และไม่ถึง 5 ปี จะเริ่มฉีดในประเทศไทยช่วงเดือนตุลาคมเป็นต้นไป 1 ขวด ฉีดได้ 10 โดสหรือ 10 คน โดสละ 0.2 มิลลิลิตร ถือเป็นปริมาณที่น้อย ฉีดจำนวน 3 เข็มด้วยกัน เข็ม 1 และ 2 ห่างกัน 3-8 สัปดาห์ (แนะนำที่ 4 สัปดาห์) และเข็ม 3 แนะนำเว้นระยะจากเข็ม 2 เป็นเวลา 8 สัปดาห์ขึ้นไป

ทางแพทย์ผู้เชี่ยวชาญแนะนำว่าควรฉีด 3 เข็ม เพราะจากการศึกษาระดับภูมิคุ้มกันเชื้อโอมิครอนพบว่า หลังฉีดครบ 3 เข็ม อย่างน้อย 7 วัน พบประสิทธิผลลดการติดเชื้อได้ประมาณ 75-80% ในขณะที่ฉีดแค่ 2 เข็ม ภูมิคุ้มกันจะไม่สูงมากนัก

ผลข้างเคียงของวัคซีน 

พญ.ปิยนิตย์ กล่าวถึงผลข้างเคียงของวัคซีนไว้ว่า มีผลข้างเคียงที่ไม่รุนแรง ส่วนใหญ่แล้วผลข้างเคียงที่พบสำหรับเข็ม 1-2 จะเป็นผลข้างเคียงทั่วไปของวัคซีน เช่น มีไข้ อ่อนเพลีย เบื่ออาหาร ส่วนเข็มที่ 3 ไม่พบผลข้างเคียงรุนแรงแต่มีบางรายมีผื่นขึ้น หรือตัวบวมจากอาการแพ้ แต่ไม่มีรายงานอาการช็อกหรือเสียชีวิต

กลุ่มเด็กที่ควรฉีดวัคซีน 

แพทย์แนะนำเด็กทุกคนควรฉีดวัคซีน โดยเฉพาะอย่างยิ่งกับเด็กที่มีโรคประจำตัว ซึ่งถือเป็นกลุ่มเสี่ยงอาการรุนแรง ได้แก่

ข้อควรระวัง 

หากเป็นเด็กที่มีปัญหากล้ามเนื้อหัวใจและเยื่อหุ้มหัวใจอักเสบสัมพันธ์กับการฉีดวัคซีน mRNA แนะนำให้เลื่อนการฉีดวัคซีนไปก่อน

ข้อสงสัยอื่นๆ ที่น่าสนใจ 

เด็กที่มีอายุอยู่ในช่วงคาบเกี่ยว 4-5 ปี เช่น ฉีดวัคซีนฝาสีแดงเข้มในช่วงอายุ 4 ปี 9 เดือน และมีกำหนดฉีดเข็มที่ 2 ในช่วง 5 ปีพอดี ให้ฉีดวัคซีนฝาสีส้มได้เลย และวัคซีนโควิดสามารถฉีดร่วมกับวัคซีนพื้นฐานอื่นๆ ได้

หากติดโควิดให้เว้นไปก่อน 3 เดือนค่อยฉีดเข็มถัดไปจนครบโดส

ทั้งนี้ การรับวัคซีนขึ้นอยู่กับดุลยพินิจและความสมัครใจของผู้ปกครอง ควรหาข้อมูลรวมทั้งปรึกษาแพทย์เพื่อประกอบการตัดสินใจอีกครั้งค่ะ หากไม่ได้ทำการฉีดวัคซีน เด็กๆ ก็ยังสามารถไปโรงเรียนได้ตามปกติ ไม่ได้ติดเงื่อนไขใดใด แต่ควรดูแลรักษาสุขภาพร่างกาย รักษาความสะอาดอยู่เสมอ เพื่อห่างไกลโรคร้ายนะคะ

อ้างอิงจาก