Parents One

NEWS: กรมอนามัยเผย เด็กวัยเรียนต้องกินอาหารเช้า หากไม่กินร่างกายเสี่ยงอ่อนเพลีย

อาหารเช้าคือมื้อสำคัญสำหรับทุกคน โดยเฉพาะในเด็กวัยเรียน เพราะเด็กวัยเรียนเป็นวัยที่ต้องการพลังงาน หากลูกไม่กินอาหารเช้าก็อาจเสี่ยงต่อร่างกายและส่งผลกระทบต่อการเรียนได้

นพ.สุวรรณชัย วัฒนายิ่งเจริญชัย อธิบดีกรมอนามัย เปิดเผยว่า สถานการณ์การแพร่ระบาดของ โรคโควิด-19 ขณะนี้ ทำให้เด็กๆ ไม่ได้ไปโรงเรียน เด็กจึงต้องเรียนผ่านระบบออนไลน์แทน ส่งผลให้หลาย ๆ ครอบครัวที่พ่อแม่ยังคงต้องทำงานนอกบ้าน อาจจะไม่มีเวลาเตรียมอาหารเช้าสำหรับลูก ซึ่งเด็กที่ไม่ได้กินอาหารเช้าเป็นประจำจะส่งผลต่อการเรียนและสุขภาพ เพราะการเผาผลาญสารอาหารของร่างกายมนุษย์

ผลการสำรวจพฤติกรรมที่พึงประสงค์ของเด็กวัยเรียนของ กรมอนามัย ปี 2560 พบว่า ในกลุ่มเด็กอายุ 10 ปี 66.96% มีการกินอาหารเช้าทุกวัน ส่วนเด็กอายุ 12 ปี มี 54.7% พ่อแม่จึงต้องให้เด็กกินอาหารเช้าเป็นประจำทุกวัน

โดยเมนูอาหารเช้าที่ดีต้องถูกหลักโภชนาการและมีคุณค่าทางสารอาหาร ซึ่งควรประกอบด้วยอาหาร 3 กลุ่มเป็นอย่างน้อย ได้แก่ กลุ่มข้าว-แป้ง กลุ่มผัก และกลุ่มเนื้อสัตว์ เป็นเมนูที่เตรียมง่าย ๆ หรือเป็นอาหารจานเดียว

การที่เด็กกินอาหารเช้าและได้รับสารอาหารที่ครบถ้วนและหลากหลายให้เพียงพอ ต่อร่างกายจะช่วยให้สมองปลอดโปร่ง ทำให้สมองสามารถเรียนรู้ จดจำและมีสมาธิได้ดี

อ้างอิงจาก

https://www.bangkokbiznews.com/news/detail/916814