Parents One

NEWS : ไทยติดอันดับ 2 เด็กในโรงเรียนถูก “บูลลี่” ซึ่งไม่เคยได้รับการแก้ไขจากผู้ใหญ่

จากข่าวกรณีที่มีคลิปเด็กนักเรียนหญิงสาดน้ำใส่เพื่อน เพราะต้องการบูลลี่ และได้ขอให้คุณครูทำการลบคลิปนั้น เพื่อต้องการปิดข่าวได้กลายเป็นกระแสดังชั่วข้ามคืน เพราะปัญหาการบูลลี่ในประเทศไทยไม่เคยได้รับการแก้ไขอย่างจริงจังจากผู้ใหญ่เสียที และในบางกรณีกลับเป็นเชื้อไฟปกปิดความผิดของเด็กนักเรียนไว้เองเสียด้วย เพียงเพราะไม่อยากให้กระทบต่อชื่อเสียงของสถาบันการศึกษา แต่คุณครูเหล่านั้นกลับไม่ได้นึกถึงจิตใจของเด็ก และหัวอกคนเป็นพ่อเป็นแม่ของเด็กที่ส่งเข้าเรียนเลยแม้แต่น้อย

นี่คือด้านมืดอีกด้านหนึ่งของโรงเรียน ซึ่งควรเป็นสถานที่ให้เด็กๆ ได้รับพลังด้านบวก ฝึกความรู้ และได้สร้างมิตรภาพที่ดีด้วยกัน แต่กลับมีเด็กบางกลุ่มตั้งตนเป็นหัวโจกคอยกลั่นแกล้งเพื่อนๆ เพื่อให้ตัวเองรู้สึกดี และมีอำนาจ

งานวิจัยของกรมสุขภาพจิตพบว่าการใช้ความรุนแรง  การข่มเหงรังแกกันหรือการบูลลี่ในประเทศไทยติดอันดับ 2 ของโลกรองจากประเทศญี่ปุ่น ซึ่งหมายความว่าการบูลลี่ในไทยมีระดับความถี่ที่รุนแรงมากขึ้นเรื่อยๆ และอายุของเด็กที่โดนรังแกก็จะมีอายุน้อยลงด้วยเช่นกัน

จากงานวิจัยยังพบอีกว่าเด็กที่รังแกคนอื่น มีพื้นฐานในการขาดอำนาจบางอย่างในวัยเด็ก ถูกการเลี้ยงดูเชิงลบ รวมถึงพันธุกรรมทางสมอง จนนำไปสู่การรังแกกลั่นแกล้งคนอื่นในวัยที่โตขึ้น ซึ่งพฤติกรรมนี้จะเพิ่มขึ้นจนกลายเป็นความเคยชิน ทำได้แนบเนียนและรุนแรงขึ้น ส่วนเด็กที่ถูกบูลลี่ จะมีอาการซึมเศร้า ไม่อยากไปโรงเรียน ในบางรายอาจถึงขึ้นคิดสั้นก็มีมาแล้ว ซึ่งการรังแกก็ไม่ได้เกิดขึ้นในโรงเรียนเสมอไป เพราะสามารถเกิดได้ทุกที่ โดยเฉพาะในโลกโซเชียล ซึ่งมักถูกเรียกว่า Cyberbullying นั่นเอง

เพราะฉะนั้น สถาบันครอบครัวจึงเป็นสิ่งสำคัญที่ยึดเหนี่ยวจิตใจของเด็กๆ เป็นอย่างมาก เพราะสามารถช่วยแก้ไขปัญหาระหว่างเด็กที่ถูกบูลลี่และเด็กที่บูลลี่คนอื่นได้ คุณพ่อคุณแม่จึงควรหมั่นสังเกตพฤติกรรมของลูกๆ เมื่อกลับมาจากโรงเรียน คอยถามไถ่ลูกว่าเป็นอย่างไรบ้าง เพื่อลดปัญหาการกลั่นแกล้งในโรงเรียน และสามารถแก้ไขสถานการณ์ได้ทันเวลานั่นเองค่ะ

ขอบคุณแหล่งอ้างอิงจาก : https://mgronline.com
https://www.bangkokbiznews.com