Parents One

5 วิธีบำบัดเมื่อลูกชอบเก็บตัว ไม่ยอมออกจากห้อง

พฤติกรรมของเด็กที่ไม่ยอมออกจากห้อง หรือไม่ยอมออกจากบ้านไปเจอผู้คน เป็นพฤติกรรมหนึ่งที่ระบาดหนักในญี่ปุ่น เนื่องจากสังคมที่มีความกดดันสูง ทั้งทางด้านเศรษฐกิจ สังคม เด็กบางคนอาจจะอ่านหนังสือการ์ตูน เล่นเกม เล่นอินเทอร์เน็ต ดูทีวี หรืออยู่ในห้องคนเดียวได้เป็นเดือนๆ เป็นปีๆ ซึ่งพฤติกรรมนี้ก็เกิดขึ้นได้กับเด็กในประเทศอื่นๆ รวมถึงประเทศไทยเช่นกัน พฤติกรรมของเด็กที่แยกตัวออกมาจากสังคม พยายามพบเจอผู้คนให้น้อยที่สุด และชอบเก็บตัวในห้องส่วนตัว หรือในบ้านเป็นระยะเวลานานๆ โดยไม่อยากไปโรงเรียน ซึ่งเป็นปัญหาที่ควรได้รับการแก้ไขอย่างเร่งด่วนค่ะ

สาเหตุที่ทำให้เด็กเก็บตัวไม่ออกไปไหน

วิธีบำบัดเริ่มต้นที่พ่อแม่

1. ให้เวลากับลูก

หากคุณพ่อคุณแม่ยังรู้สึกว่าตัวเองไม่มีเวลา ลองหันมาสำรวจตัวเองแล้วว่าเราทำงานหนักไปเพื่ออะไร ถ้าคำตอบคือเพื่อหาเงินมาดูแลลูกรัก ดังนั้นการให้เวลากับลูกสำคัญมากที่สุดค่ะ

2. สอนลูกเชิงบวก

การสอนลูกเชิงบวกเป็นเรื่องจำเป็นสำหรับพ่อแม่ที่ต้องมีต่อลูก เพราะการคิดบวกจะส่งต่อวิธีคิดไปสู่ลูกด้วย เช่น ถ้าลูกมีพฤติกรรมที่ไม่เหมาะสม แทนที่พ่อแม่จะใช้วิธีดุด่าว่ากล่าว อาจเปลี่ยนไปใช้วิธีพูดเพื่อให้กำลังใจที่เชื่อว่าลูกสามารถแก้ไขได้และปรับปรุงได้

3. รับฟังลูกให้มากขึ้น

หากที่ผ่านมาคุณไม่ค่อยได้รับฟังลูก ก็ให้เปิดใจและรับฟังลูกให้มากขึ้นนะคะ เพราะการรับฟังเป็นจุดเริ่มต้นของการทำความเข้าใจ และสร้างสัมพันธ์ที่ดีต่อกัน พ่อแม่จะได้เข้าใจวิธีคิดของลูกว่าลูกคิดอย่างไรต่อเรื่องนั้นๆ และจะทำให้เราสามารถสอดแทรกบางเรื่องที่ต้องการให้ลูกเรียนรู้ได้ด้วย

4. มีกิจกรรมครอบครัว

คุณพ่อคุณแม่ควรจัดกิจกรรมที่สร้างสรรค์ภายในครอบครัว เพื่อสร้างความสัมพันธ์อันดีระหว่างคุณพ่อคุณแม่และลูก และกิจกรรมที่ทำต้องเหมาะสมกับและความต้องการของลูกด้วย โดยเฉพาะอย่างยิ่งกิจกรรมที่เสริมทักษะชีวิตที่ช่วยเสริมความมั่นใจ เสริมศักยภาพบางด้านของลูก เพราะการมีกิจกรรมครอบครัวที่ดีอย่างสม่ำเสมอ เป็นการเปิดโอกาสพูดคุยกับลูกได้อย่างไม่เขินอาย

5. เชื่อมั่นในตัวลูก

การที่คุณพ่อคุณแม่ให้ความเชื่อมั่นในตัวลูกเป็นสิ่งที่สำคัญ เพราะถ้าพ่อแม่ขี้ระแวงไม่ค่อยไว้ใจลูก ไม่คิดว่าลูกจะทำได้ กังวลไปทุกเรื่อง ลูกต้องเครียดแน่ๆ ทางที่ดีพ่อกับแม่ต้องแสดงให้ลูกเห็นว่าไว้ใจลูกเสมอ เปิดโอกาสให้เขาได้ทำอะไรด้วยตัวเอง ให้เขาได้กล้าแสดงออก จะทำให้ลูกเกิดความภาคภูมิใจในตัวเองและมีความมั่นใจกับการเผชิญหน้าต่อสังคม ไม่เก็บตัวอยู่แต่ในห้อง

คุณพ่อคุณแม่ต้องคอยสังเกตพฤติกรรมของลูกอย่างสม่ำเสมอ เพื่อป้องกันการเก็บตัวของลูกเป็นเวลานานๆ เพราะอาจเกิดผลเสียตามมาในระยะยาว และหากพบว่ามีอาการที่หนักขึ้น จนไม่สามารถแก้เองได้ต้องรีบปรึกษาจิตแพทย์เพื่อแก้ไขพฤติกรรมโดยด่วน

ที่มา – rakluke