Parents One

เตรียมของใช้เด็กอ่อนยังไงให้งบไม่บาน

คุณพ่อคุณแม่มือใหม่ที่กำลังเตรียมจะซื้อของใช้ให้กับลูกน้อยที่อยู่ในครรภ์ อาจจะกังวลเรื่องงบประมาณในการซื้อของ ยิ่งเป็นลูกคนแรกด้วยแล้วเห็นอะไรก็จะอยากได้ไปหมด อันนู่นก็น่ารัก อันนี้ก็น่าใช้ ทำให้เสียเงินไปกับการซื้อของเกินกว่าที่จำเป็น วันนี้เรามีเคล็ดลับที่จะทำให้คุณพ่อคุณแม่ซื้อของใช้เด็กอ่อนโดยที่งบไม่บานมาฝากกันค่ะ

เคล็ดลับเตรียมของใช้เด็กอ่อนให้งบไม่บาน

1. พิจารณาตามลำดับความจำเป็น

• อุปกรณ์ให้นม อันนี้ถือว่าสำคัญที่สุด ทั้งขวดนม เครื่องปั๊มนม เครื่องนึ่งขวดนม อุปกรณ์ล้างขวดนม รวมถึงผลิตภัณฑ์ล้างขวดนม คุณพ่อคุณแม่ต้องใส่ใจในการเลือกเป็นอันดับ 1 เนื่องจากเด็กแรกเกิดจะดื่มนมเป็นอาหารหลัก ถ้าเลือกไม่ดี สุขภาพเด็กก็จะไม่ดีตามไปด้วย

• เครื่องนอน เช่น เบาะที่นอน หมอน ผ้าปูรองนอน ผ้าห่ม มุ้งกันยุง หมอนข้าง หรือแม้แต่เตียงนอนถ้าคุณแม่คิดว่าจะให้ลูกนอนเตียงเด็กตั้งแต่แรกเกิด

• อุปกรณ์อาบน้ำ เช่น อ่างอาบน้ำเด็ก ฟองน้ำ ผลิตภัณฑ์อาบน้ำเด็ก ผ้าเช็ดตัว ของเหล่านี้ถือว่ามีจำเป็นสำหรับเด็กเล็ก เพราะผิวเด็กบอบบางมาก จึงไม่สามารรถใช้ผลิตภัณฑ์เหมือนผู้ใหญ่ได้

• เครื่องแต่งกาย  คุณพ่อคุณแม่ควรเลือกซื้อไว้ประมาณ 10-15 ชุด มีชุดใส่นอน ชุดใส่เล่น ชุดไปเที่ยว ไม่ต้องซื้อมากนักเพราะญาติๆ หรือเพื่อนๆ นิยมซื้อเสื้อผ้าเด็กมาเป็นของฝากอยู่แล้วค่ะ

• ค่ายาและเวชภัณฑ์ เช่น ค่าฉีดวัคซีน ปรอทวัดไข้ แผ่นเจลลดไข้ สำลี มหาหิงค์ แอลกอฮอล์ฆ่าเชื้อโรค แอลกอฮอล์ล้างมือ ทิชชู่เปียก ถุงมือพลาสติกแบบใช้ครั้งเดียวทิ้ง เเละเด็กเล็กยังต้องการการดูแลที่เน้นเรื่องความสะอาดเป็นพิเศษ เพราะร่างกายยังมีภูมิคุ้มกันต่ำ

 

2. เลือกที่คุณภาพเหมาะกับราคา

คุณพ่อคุณแม่อาจต้องลองสำรวจราคาสินค้า โดยดูที่คุณภาพสินค้าและราคาที่เหมาะสมกัน แล้วจดออกมาเพื่อคำนวณราคาว่าของใช้เด็กทั้งหมดต้องใช้งบประมาณทั้งหมดเท่าไหร่ จากนั้นก็ลองดูรายการ ของใช้เด็กบางอย่างอาจยังไม่ต้องใช้ สามารถรอได้ 1-2 เดือน ก็อาจจะชะลอการซื้อออกไปก่อน บางอย่างที่จำเป็นและต้องเตรียมไว้ล่วงหน้าก็ควรจะซื้อเตรียมไว้เลย ในเรื่องคุณภาพของของใช้เด็กต้องเลือกของใช้เด็กที่มีคุณภาพและดีต่อเด็กจริงๆ แม้ว่าของบางชิ้นจะมีราคาแพง แต่เมื่อเทียบแล้วว่าถ้าใช้ของใช้เด็กที่ราคาถูก แล้วทำให้ลูกป่วย ลูกได้รับอันตราย เสียค่ารักษาพยาบาล แน่นอนว่า จะยิ่งทำให้คุณพ่อคุณแม่ ทั้งเสียทั้งใจและเสียทั้งเงินดังนั้นราคาและคุณภาพจึงต้องไปด้วยกัน โดยใช้หลักข้อ 1 คือ ความจำเป็นต้องมาเป็นก่อน

จุดสังเกตการเลือกผลิตภัณฑ์เด็ก ควรมีฉลาก BPA FREE, cotton 100%, มี อย., Organic natural, ไม่มีสารเคมีเจือปน,ไม่ผสมน้ำหอมหรือสีสารเคมี, ไร้สารตกค้าง, ไม่ละลายเมื่อโดนความร้อน (เช่น ขวดนม) เป็นต้น

3. ไปช้อปปิ้งกับคุณแม่ผู้มีประสบการณ์

คุณพ่อคุณแม่มือใหม่ลองพาเพื่อนที่เคยเลี้ยงลูกอ่อน หรือพาคุณป้าคุณน้าที่มีลูกแล้วไปช่วยเลือกสินค้า เพราะคุณแม่ผู้มีประสบการณ์จะสามารถแนะนำได้ว่าอะไรดีอะไรไม่ดี ยี่ห้อไหนน่าใช้ แบบไหนเหมาะกับลูก ของอะไรไม่จำเป็น ดีกว่าการเดินไปเลือกเองเพราะของใช้เด็กมีหลายแบบหลายยี่ห้อค่ะ

4. ของฟรี

หากเพื่อนๆ หรือคนรู้จักที่มีลูกโตแล้วมาเสนอของใช้เด็กให้ เช่น เตียงเด็ก รถเข็นเด็ก ของเล่น หรือเสื้อผ้าต่างๆ ก็จะช่วยให้ประหยัดได้มากทีเดียว อย่างไรก็ตาม ก็อย่าลืมตรวจสอบเรื่องความสะอาดและคุณภาพ ของของใช้เด็กที่ได้รับการส่งต่อมาด้วยเพราะเป็นสิ่งสำคัญที่ต้องคำนึงถึง นอกจากนี้การเป็นสมาชิกคลับของผลิตภัณฑ์เด็กต่างๆ ก็อาจได้รับสิทธิ์สมนาคุณของใช้เด็กซึ่งช่วยให้คุณพ่อคุณแม่ประหยัดไปได้เหมือนกันค่ะ

 

5. วางแผนค่าใช้จ่าย

วางแผนค่าใช้จ่ายและควรเก็บเงินตั้งแต่รู้ว่าตั้งครรภ์ ค่อยๆ เขียนรายการที่ต้องซื้อ ศึกษาหาข้อมูลจากหนังสือ จากเว็บไซต์ต่างๆ จะช่วยในการตัดสินใจว่าควรซื้ออะไร อะไรไม่จำเป็นค่ะ อีกทั้งยังทำให้เราสามารถประมาณการค่าใช้จ่ายโดยรวมได้โดยไม่เดือดร้อนตอนใกล้คลอดค่ะ

 

6. ไปงานแฟร์

งานแฟร์สินค้าแม่และเด็กมีจัดอยู่เรื่อยๆ ในงานมีสินค้าแม่และเด็กมากมาย รับรองว่าถ้าไปงานแฟร์จะได้ของครบจบที่เดียวเลยค่ะ แถมได้สินค้าในราคาประหยัดกว่าซื้อตามร้านปกติ ข้อดีอีกอย่างคือมีสินค้าหลากหลายแบรนด์ให้เลือกตามกำลังเงินของเราอีกด้วย