Parents One

เปาะแปะ เปาะแปะ! 5 กิจกรรม ชวนลูกน้อยสนุกในวันฝนตก

“เปาะแปะ เปาะแปะ” เสียงฝนตกดังมาแต่ไกล ทำให้แผนที่จะออกไปเล่นสนุกนอกบ้านต้องพับเก็บไปตามระเบียบ

ในฤดูกาลที่ฝนฟ้าเอาแน่เอานอนไม่ได้  Parents One อยากชวนคุณพ่อคุณแม่เปลี่ยนช่วงเวลาอันแสนน่าเบื่อให้เป็นโอกาสในการเรียนรู้ จูงมือลูกน้อยมาทำกิจกรรมสนุกๆ ที่เกี่ยวข้องกับสายฝนไปด้วยกัน จะมีกิจกรรมแสนสนุกอะไรบ้าง ไปดูกันค่า

สังเกตท้องฟ้าจากข้างหน้าต่าง 

เมื่อเมฆฝนเริ่มตั้งเค้า คุณพ่อคุณแม่ก็สามารถชักชวนลูกๆ มานั่งข้างหน้าต่าง เฝ้ามองหยาดน้ำฝน สังเกตการเปลี่ยนแปลงสีของท้องฟ้า และลักษณะของก้อนเมฆว่าแตกต่างจากปกติอย่างไร  

จากนั้น ลองชวนลูกน้อยมาทำความรู้จักกับเม็ดฝนด้วยคำถามง่ายๆ เช่น “วันนี้ก้อนเมฆเป็นสีอะไรนะ” “ก้อนเมฆมีรูปร่างอะไรนะ ไม่แน่ว่าบางทีระหว่างที่กำลังพูดคุยกันอย่างสนุกสนาน สายรุ้งงามอาจโผล่มาทักทายโดยไม่ทันตั้งตัว

 

หลับตาฟังเสียงฝน  


 

เสียงของฝนเป็นอย่างไรกันนะ? ไพเราะเหมือนเสียงดนตรีหรือเปล่า เงี่ยหูฟังเสียงฝนตกฟ้าร้องไปพร้อมๆ กับลูกน้อย แล้วลองมาพูดคุยแลกเปลี่ยนความคิดกันว่า คุณพ่อคุณแม่ได้ยินเสียงแบบไหน แล้วคุณลูกล่ะคิดเห็นอย่างไร หรือขณะที่ฝนตกได้ยินเสียงอะไรเพิ่มเติมบ้าง

โดยอาจเพิ่มความสนุกสนานด้วยการทดลองนำภาชนะต่างๆ วางไว้กลางสายฝน เพื่อให้เกิดเสียงที่แตกต่างดั่งเสียงดนตรีที่ท้องฟ้าบรรเลงให้ฟัง 

 

“ฝนเอย ทำไมจึงตก เพราะว่า…”

“ฝนเอยทำไมจึงตก เพราะว่ากบมันร้อง”  

เพลงร้องเล่นที่คุ้นหูเข้าบรรยากาศสามารถนำมาร้องโต้ตอบกันได้ไม่รู้จบ หากคุณพ่อคุณแม่จำเนื้อเพลงต้นฉบับไม่ได้ก็ไม่เป็นปัญหา เพราะสามารถประยุกต์เป็นเกมต่อเนื้อร้อง ผลัดกันคิดสาเหตุอื่นๆ ที่ทำให้ฝนตก 

เช่น “ฝนเอยทำไมจึงตก เพราะว่าวันนี้คุณแม่ซักผ้าเห็นไหมล่ะ ว่าสามารถตอบคำถามได้อย่างอิสระไปหมด ไม่มีถูกผิด นอกจากจะสร้างความสนุกสนานและเพลิดเพลิน ฝึกทักษะภาษา และการคิดจินตนาการ ยังเปิดโอกาสให้คุณพ่อคุณแม่อธิบายวัฏจักรการเกิดฝนให้เด็กๆ ฟังด้วย

 

งานศิลปะจากสายฝน 

 

เปลี่ยนปากกาเมจิกหมึกละลายน้ำได้ที่ชวนหงุดหงิดใจยามใช้งานให้กลายเป็นกิจกรรมศิลปะที่สนุกสนานของคุณลูก  

สร้างงานศิลปะน่าตื่นตาตื่นใจได้ง่ายๆ เพียงใช้ปากกาเมจิกหลากหลายสีละเลงลงบนกระดาษ วางทิ้งไว้เพื่อปล่อยสายฝนนำพาสีสันต่างๆ ให้ค่อยๆ ละลายเข้าหากันจนเกิดเป็นภาพที่สวยงาม หรือหากไม่อยากออกไปนอกบ้านให้โดนละอองน้ำฝนก็สามารถใช้กระบอกฉีดน้ำพ่นละอองน้ำลงบนกระดาษแทน รวมถึงชนิดของสีที่ใช้ อาจลองเปลี่ยนเป็นสีชนิดอื่นๆ เช่น สีไม้ สีเทียน สีน้ำ และคอยสังเกตผลลัพธ์ที่แตกต่างกันออกไป 

สำรวจสวนหลังบ้าน

 

หลังฝนตกสวนหลังบ้านอาจมีบรรยากาศที่แปลกตาออกไป จากสนามหญ้าที่คุ้นเคยอาจกลายเป็นโลกใบใหม่ที่เด็ก ไม่เคยรู้จักมาก่อน ลองเดินข้ามแอ่งน้ำเล็ก สังเกตใบไม้ที่มีหยดน้ำเกาะ ทักทายเพื่อนรักสัตว์โลก เช่น กบ หอยทาก สัมผัสถึงความเย็นฉุ่มช่ำ ทั้งนี้คุณพ่อคุณแม่ต้องระมัดระวังเรื่องความปลอดภัย ไม่ว่าจะเป็นสะดุดหรือลื่นล้ม หรือสิ่งมีชีวิตที่เป็นอันตราย เช่น งู และควรให้ลูกแต่งกายอย่างมิดชิดป้องกันการเจ็บป่วยที่อาจจะเกิดขึ้นตามมา  

 

การทำกิจกรรมต่างๆ นอกจากจะเป็นการคลายเบื่อได้แล้ว ยังเป็นการตอบสนองความต้องการที่จะเรียนรู้เรื่องธรรมชาติของเด็กปฐมวัยต่อยอดไปสู่ความรู้เรื่องฤดูกาลที่เป็นประโยชน์กับการดูแลสุขภาพร่างกาย และการใช้ชีวิตต่อไป

และไม่ว่าจะวันฟ้าครื้มฝนพร่ำอย่างไร ขอให้บรรดาเจ้าตัวน้อยมีรอยยิ้มสดใสเบิกบานเหมือนพระอาทิตย์อยู่เสมอนะคะ