Parents One

แนะนำ 5 ฟาร์มพาลูกสัมผัสธรรมชาติ บ่มเพาะประสบการณ์การเรียนรู้

สำหรับครอบครัวไหนที่กำลังมองหาที่ท่องเที่ยว ซึ่งแหล่งการเรียนรู้ธรรมชาติกลายเป็นสถานที่ท่องเที่ยวทางเลือกหนึ่งของคุณพ่อคุณแม่ยุคใหม่ ที่จะเปิดโลกการเรียนรู้และจินตนาการ ผ่านวิถีธรรมชาติ (Nature Learn) ให้กับลูกๆของคุณ รวมถึงเพิ่มทักษะในด้านต่างๆ และฝึกการอยู่ร่วมกันในสังคมได้เป็นอย่างดี และนี่คือ 5 ฟาร์มน่าเที่ยวที่เราแนะนำ ไปชมกันเลย

1. Mini Murrah Farm (มินิ มูร่าห์ ฟาร์ม)

ฟาร์มควายนม (สายพันธ์มูร่าห์) เชิงท่องเที่ยวแห่งเดียวในประเทศไทย เปิดให้เข้าชมฟรี โดยจะมีคิดค่าบริการในการร่วมกิจกรรมเวิร์คชอปต่างๆ และค่าอาหารสัตว์ภายในฟาร์ม สำหรับกิจกรรมในมินิ มูร่าห์ ฟาร์มนั้นมีให้เลือกทำมากมาย ไม่ว่าจะเป็น ป้อนหญ้าและนมให้ควายมูร่าห์, ป้อนอาหารสัตว์ อาทิ ไก่ กระต่าย แพะ หมูแคระ เป็ด ปลา อย่างใกล้ชิด รวมถึงกิจกรรมเวิร์คชอป เช่น การทำไอศกรีมโฮมเมด, พิซซ่า, ทำเนย, แพนเค้ก, ปลูกผักออร์แกนิค  ดำนา, ปลูกข้าว, สไลเดอร์โคลน ฯลฯ

2. Farm De Lek (ฟาร์มตาเล็ก)

ฟาร์มแห่งนี้ เดิมทีเป็นสวนมะม่วงของ “ตาเล็ก” หลังจากถูกทิ้งร้าง หลานสาวของตาเล็ก มีความคิดอยากให้ลูกๆ มีคุณภาพในการใช้ชีวิต ควบคู่ไปกับการเรียน จึงพัฒนาให้กลับเป็นพื้นที่ทางการเกษตร และอยากแบ่งปันให้กับเด็กๆและผู้ปกครองท่านอื่นๆ ได้เข้ามาศึกษาและเรียนรู้ เพื่อช่วยสร้างเสริมพัฒนาการ รวมถึงปลูกจิตสำนึกทางสังคม สำหรับกิจกรรมในฟาร์ม เด็กๆจะได้เรียนรู้วิธีการผสมอาหารหมู ให้อาหารสัตว์ด้วยตัวเองอย่างใกล้ชิด เก็บไข่ไก่ ปลูกต้นไม้ ฯลฯ รวมถึงกิจกรรมกลางแจ้ง ไม่ว่าจะเป็น Zipline, พายเรือคายัค และเล่นน้ำในบึงธรรมชาติ แค่คิดก็สนุกแล้ว

3. RAI PLUK RAK (ไร่ปลูกรัก)

ไร่ปลูกรัก เป็นฟาร์มออแกนิคบนพื้นที่ 60 ไร่ โดยเจ้าของไร่มองการณ์ไกลและอยากแบ่งปันความรู้ในเรื่องของ ฟาร์มเกษตรอินทรีย์ (Organic Farm) แบบไม่ใช้สารเคมีใดๆ โดยมีคอร์สสำหรับผู้ที่สนใจทำฟาร์มเกษตรอินทรีย์ด้วย นอกจากความรู้ที่จะได้รับยังมีกิจกรรมสำหรับครอบครัวได้ทำร่วมกันโดยไม่เสียค่าใช้จ่าย ไม่ว่าจะเป็น การทำขนมกระยาสารทสูตรโบราณ, ทำน้ำลูกหม่อนไซเดอร์, การทำเครื่องดื่มเพื่อสุขภาพ น้ำลูกหม่อนไซเดอร์, การทำนาลูบเทือกแบบโบราณ, เก็บไข่เป็ดทำไข่เค็มสูตรโบราณ, ทำว่าวกระบอก,  เล่นสไลด์เดอร์ริมนา, ปลูกผักออร์แกนิกและดอกไม้ ฯลฯ ยังมีกิจกรรมอื่นๆ ซึ่งมีค่าใช้จ่ายเพิ่มเติม เช่น ฐานการเรียนรู้เรื่องแมลง, การทำผ้ามัดย้อม, เล่นว่าว, งานศิลปะต่างๆ ฯลฯ กิจกรรมแน่นมากๆ ขอบอก

4. บ้านไร่ลุงคริส

ที่บ้านไร่ลุงคริส เด็กๆ จะได้เรียนรู้ถึงวิถีเกษตรกร เข้าใจและสัมผัสคุณค่าของธรรมชาติ รวมถึงขนบธรรมเนียมประเพณีไทย ผ่านคอร์สในแต่ละวันที่แตกต่างกันไป เช่น กิจกรรมจับแมลง, สำรวจป่า, กิจกรรมแคมปิ้งดูดาว ทำเทียนอโรม่า, ทำนาปลูกข้าว, ทำขนมไหว้พระแม่โพสพ ฯลฯ รวมถึงกิจกรรมพิเศษที่ออกแบบให้เหมาะสมกับฤดูต่างๆ โดยผู้ปกครองและเด็กสามารถเลือกได้ตามความชอบ สามารถเช็คตารางกิจกรรมและค่าใช้จ่ายผ่านทาง LiNE(@unclechrisfarm) และ Facebook บ้านไร่ลุงคริส

5. ฟาร์มหมอปอ

ฟาร์มแห่งนี้เกิดจากความรักและชื่นชอบมามาตั้งแต่เด็กของ “หมอปอ” นายแพทย์นพดล สโรบล โดยมีม้าหลายสายพันธุ์ นำเข้าจากหลายประเทศ ซึ่งหาดูได้ยาก อย่างเช่น สายพันธุ์แอนดาลูเซียจากประเทศสเปน เป็นม้าที่ติดอันดับสายพันธุ์ที่สวยที่สุดในโลก .สำหรับกิจกรรมในฟาร์ม มีทั้งแบบ One Day Trip และ Farm Stay แบบค้างคืน เด็กๆจะได้เรียนรู้ การเก็บไข่ไก่จากเล้า, ให้อาหารม้า แพะ หมูแคระ นกกระจอกเทศและกระต่าย, กิจกรรมระบายสี, ขี่ม้าชมบรรยากาศรอบฟาร์ม รวมถึงการเรียนขี่ม้า และได้อาบน้ำม้าจริงๆ

เป็นยังไงกันบ้างคะ หวังว่าวันหยุดที่จะถึงนี้ คุณพ่อคุณแม่คงมีไอเดียพาลูกเดินทางท่องเที่ยว เปิดโลกกว้าง และจิตนาการในการเรียนรู้ ซึ่งนอกจากประสบการณ์และความรู้นอกตำราที่เด็กๆ จะได้รับแล้ว เหนือสิ่งอื่นใด การได้ใช้เวลาอยู่ร่วมกันระหว่างพ่อแม่และลูก ก็เป็นสิ่งที่มีค่าไม่แพ้กับทักษะการเรียนรู้ในด้านต่างๆ ที่ลูกๆจะได้รับเลยละค่ะ