การแต่งงานถือว่าเป็นหนึ่งในความฝันอันดับต้นๆ ที่ผู้หญิงส่วนใหญ่อยากจะทำให้ได้ในชีวิตนี้ ซึ่งในบางครั้งผู้ชายก็อาจจะสงสัยว่า ทำไมผู้หญิงถึงอยากจะแต่งงานจังเลย วันนี้ลองมาดูกันดีกว่าว่า สาเหตุที่แท้จริงที่สาวๆ ทั้งหลายอยากแต่งงานมีอะไรบ้าง
เพื่อเซฟค่าใช้จ่าย
ในช่วงที่คบกันเป็นแฟน บางคนอาจจะมีค่าใช้จ่ายที่ต่างฝ่ายต่างต้องรับผิดชอบกันส่วนตัว ไม่ว่าจะเป็นเรื่องที่พัก ค่าใช้จ่ายประจำวัน บลาๆๆ แต่เมื่อถึงจุดๆ หนึ่ง ที่ทั้งสองฝ่ายตกลงปลงใจว่าอยากจะแต่งงาน การใช้ชีวิตร่วมกันในห้องหรือบ้านหลังเดียวกันก็เป็นทางออกอีกทางที่จะช่วยลดค่าใช้จ่ายต่างๆ ได้ด้วยเช่นกัน
แรงกดดันจากครอบครัว
หนึ่งในสาเหตุใหญ่ๆ ที่ผู้หญิงบางคนเจอ เพราะว่าผู้ใหญ่ในครอบครัวอยากเห็นลูกหลานของตัวเองมีฝั่งเป็นฝา การแต่งงานก็เหมือนกับการแสดงให้ทางครอบครัวไม่ว่าจะฝ่ายชายหรือฝ่ายหญิงเห็นเป็นรูปธรรมว่า “ได้แต่งงานอย่างเป็นทางการแล้ว” แต่ถ้าให้มองลึกๆ แล้วสิ่งที่ผู้ใหญ่(จากฝ่ายหญิง)อยากเห็นนอกจากการแต่งงานคือ อยากพิสูจน์ว่าทั้งคู่สามารถฝากฝังชีวิตซึ่งกันและกันในอนาคตได้หรือไม่ และเหตุผลเสริมอื่นๆ ก็คงจะอยากเห็นหน้าหลานของตัวเองด้วยแหละนะ 🙂
อยากทำงานให้น้อยลง
ผู้หญิงบางคนอาจจะคิดว่า เมื่อแต่งงานงานแล้ว ภาระหน้าที่ของตัวเองหลังจากแต่งงานอาจจะต้องมีการปรับเปลี่ยนการใช้ชีวิตของตัวเองมากขึ้น บางคนแต่งงานเพื่อที่ปรับตัวเองให้เป็นแม่บ้าน หรืออาจจะเปลี่ยนงานจากที่ทำงานออฟฟิศ กลายเป็นทำงานบ้านแทน
คิดว่าถึงเวลาที่ต้องแต่งงาน
เพราะเห็นคนอื่นแต่งงานเยอะเเล้ว ไม่ว่าจะเป็นภาพชุดเจ้าสาวใร Facebook หรือเวลาไปงานแต่งงานก็จินตนาการว่าตัวเองเป็นเจ้าสาว แล้วคิดว่าควรจะถึงทีชั้นซะทีสิ
อยากมีลูก
บางคนอาจจะวางแผนชีวิตของตัวเองว่า ตั้งใจจะมีลูกตอนอายุเท่านี้ๆ และต้องแต่งตามอายุเท่านี้ๆๆ ซึ่งอาจจะเป็นเรื่องของความเชื่อต่างๆ นาน ซึ่งหลายๆ คนจะวางแผนว่าพอแต่งงานปุ๊ป ก็อยากมีลูกปั๊ป และมั่นใจแล้วว่าคนนี้นี่เเหละคือพ่อของลูก
เพราะว่ารักจึงแต่งงาน
สุดท้ายแล้วไม่ว่าจะด้วยเหตุผลอะไรก็ตามแต่ สิ่งที่สำคัญที่สุดที่ผู้หญิงส่วนใหญ่เลือกที่จะแต่งงานคือ เพราะว่ารักผู้ชายที่กำลังคบกันอยู่ อยากเปลี่ยนสถานะจากแฟนเป็นคู่ชีวิต อยากให้เวลาที่สำคัญๆ ของตัวเอง อย่างเช่นวันแต่งงานที่อยากมีให้ผู้ชายคนนี้ หรือเพื่อที่จะได้อยู่ด้วยกัน ร่วมทุกข์ร่วมสุข และรู้สึกว่าผู้ชายคนนี้เป็นคนที่สามารถฝากความมั่นคงทั้งชีวิตของตัวเองได้ในอนาคตนั่นเอง