Parents One

แม่รู้ไหม? 7 สวัสดิการเด็กเล็กในประเทศอื่นๆ! เด็กๆ ควรได้รับอะไรบ้าง?

สวัสดิการสำหรับเด็กเล็ก หลายคนอาจยังไม่เคยรู้ว่าในแต่ละประเทศ ก็มีสวัสดิการให้เด็กเล็กสุดว้าววว! ที่แตกต่างกันไป รวมถึงในประเทศไทยด้วยเช่นกัน

วันนี้ ParentsOne จะพามาทำความรู้จักกับสวัสดิการสำหรับเด็กเล็กของประเทศต่างๆ กันค่า จะมีประเทศไหนที่ให้สวัสดิการเด็กๆ ที่ดีแก่คุณพ่อคุณแม่บ้าง เรารวบรวมข้อมูลมาให้แล้ว ไปเจาะลึกกันเลย

สวัสดิการเด็กเล็กในประเทศสวีเดน

ในส่วนของประเทศสวีเดน สวัสดิการที่เด็กๆ ได้รับจะค่อนข้างครอบคลุมในหลายๆ ด้านของชีวิต ไปจนกระทั่งเด็กโตถึงอายุ 21 ปี เลยนะ โดยเด็กและเยาวชนที่อายุไม่เกิน 21 ปี จะได้รับการนัดหมายให้ตรวจสุขภาพ ฉีดวัคซีน ทันตกรรม และตรวจวัดสายตา โดยไม่เสียค่าใช้จ่ายเลยค่ะ 

นอกจากนี้ รัฐบาลสวีเดนยังให้คุณพ่อคุณแม่สามารถลาหยุด เพื่อเลี้ยงลูกได้ถึง 480 วัน ต่อลูก 1 คน โดยสามารถใช้สิทธินี้จนกระทั่งลูกอายุ 8 ขวบ

และยังมีสิทธิได้เงินอุดหนุน เมื่อลูกป่วยด้วยนะ โดยจะจ่ายเงินให้พ่อแม่เด็กลาอยู่บ้าน เพื่อดูแลลูกจนหายดี อีกทั้งพ่อแม่ยังได้รับในส่วนของเงินช่วยเหลือสำหรับการเลี้ยงดูจนลูกอายุครบ 16 ปี กันเลยทีเดียว และหากครอบครัวไหนมีบุตรคนที่ 2 ขึ้นไปก็จะได้รับเงินช่วยเหลือเพิ่มขึ้นอีกค่า บอกเลยว่ามีลูกประเทศนี้ คือคุ้มไม่ไหว

 

สวัสดิการเด็กเล็กในประเทศเดนมาร์ก

ในเดนมาร์ก สวัสดิการสำหรับเด็กเล็กนั้นจะครอบคลุมในหลายๆ ด้าน โดยในส่วนของเงินเบี้ยเลี้ยงนั้น แค่เพียงเด็กและพ่อแม่อาศัยอยู่ในเดนมาร์กก็จะได้รับเบี้ยเลี้ยงโดยอัตโนมัติแล้ว ซึ่งจำนวนเงินนี้ จะขึ้นอยู่กับรายได้ของแต่ละครอบครัวและอายุของเด็ก 

นอกจากนี้ หากพ่อแม่บ้านไหนที่ไม่มีเวลาว่างสำหรับการเลี้ยงดูลูกขนาดนั้น ทางรัฐบาลท้องถิ่นยังจัดสรรสวัสดิการในการรับดูแลเด็กที่มีอายุ 26 สัปดาห์ขึ้นไป สำหรับพ่อแม่ที่เป็นพลเมืองเดนมาร์ก หรือสหภาพยุโรปอย่างถูกกฎหมายได้ในวันทำงาน 

และหากรัฐบาลท้องถิ่นไม่สามารถจัดการได้ คุณพ่อคุณแม่ก็สามารถเรียกรับค่าใช้จ่ายในการดูแลเด็กเพิ่มเติมได้ 

และยังมีเงินอุดหนุนสำหรับด้านการเงินของครอบครัวที่มีลูกอีกด้วย หากเกิดการลาเพื่อไปเลี้ยงดูบุตร (ตามเวลาที่กำหนด) จะได้รับค่าเลี้ยงดูไม่เกิน 4,355 DKK หรือประมาณ 22,000 บาทต่อสัปดาห์กันเลยทีเดียวค่ะ

 

สวัสดิการเด็กเล็กในประเทศสวิตเซอร์แลนด์

สวัสดิการของสวิตเซอร์แลนด์ จะถูกจัดสรรโดยรัฐบาลท้องถิ่น โดยสำหรับคุณพ่อคุณแม่ที่มีการลางานเพื่อไปเลี้ยงลูกนั้น จะมีเบี้ยเลี้ยงระหว่างการขาดงาน มากถึง 80% ของรายได้ปกติกันเลยทีเดียว แต่ก็จะไม่เกิน 196 CHF หรือประมาณ 6,900 บาทต่อวัน โดยจะให้เป็นเวลา 14 สัปดาห์นับตั้งแต่ให้กำเนิดบุตร

ยังไม่หมดแค่นั้น! เพราะยังมีสวัสดิการเบี้ยเลี้ยงแก่ครอบครัว โดยจะแบ่งเป็น 2 ส่วน ได้แก่ เบี้ยเลี้ยงสำหรับครอบครัวในภาคการเกษตร และเบี้ยเลี้ยงสำหรับครอบครัวภาคอื่นๆ 

ซึ่งประเภทแรกจะเป็นเบี้ยเลี้ยงสำหรับการเลี้ยงดูเด็ก (child allowance) โดยจะให้แก่พ่อแม่ และให้จนกว่าเด็กจะสามารถหางานทำและมีรายได้เป็นของตนเอง แต่จะไม่เกินอายุ 20 ปี 

และอีกประเภท คือ Vacational training all owance หรือก็คือ เบี้ยเลี้ยงสำหรับเด็กที่กำลังฝึกงาน จนกว่าจะอายุ 25 ปี ซึ่งสำหรับครอบครัวการเกษตรก็จะได้รับอัตราเบี้ยเลี้ยงที่มีความแตกต่างกับครอบครัวในภาคส่วนอื่นๆ

สวัสดิการของสวิตเซอร์แลนด์นั้น จะมีความครอบคลุมไปจนกระทั่งเด็กโต โดยหากเทียบกับประเทศอื่นๆ จะเห็นได้ชัดว่าแม้เด็กๆ จะโตจนฝึกงานแล้ว แต่ระหว่างนั้นก็จะมีเบี้ยเลี้ยงให้อีกด้วย

 

สวัสดิการเด็กเล็กในประเทศเกาหลีใต้

สวัสดิการของเกาหลีใต้นั้น ทางรัฐบาลจะมีการสนับสนุนตั้งแต่ 0 ขวบกันเลยทีเดียว โดยเด็กเล็กวัย 0-5 ขวบ จะได้รับการสนับสนุนค่าใช้จ่าย โดยไม่มีการคำนึงถึงรายได้ครอบครัว! รวมไปถึงเด็กที่มีภาวะทุพพลภาพ ในวัยก่อนเข้าเรียนที่มีอายุไม่เกิน 12 ปี อีกด้วย

นอกจากนี้ ยังมีในส่วนของเงินอุดหนุนการศึกษา โดยจะมีให้ตั้งแต่อายุ 3-5 ขวบ และหากครอบครัวไหน ที่สะดวกจะเลี้ยงเด็กๆ เองที่บ้าน ไม่ได้ส่งไปสถานรับเลี้ยง ก็จะมีในส่วนของเงินเบี้ยเลี้ยงให้ด้วย

 

สวัสดิการเด็กเล็กในประเทศสิงคโปร์

ในสิงคโปร์จะมีสวัสดิการรองรับตั้งแต่ที่คุณแม่เริ่มตั้งครรภ์ และเลี้ยงดูบุตร ในสัปดาห์ที่ 9-12 และสำหรับบุตรคนที่ 2-4 ก็จะได้รับเงินช่วยเหลือเช่นกัน แต่จะเป็นในจำนวนที่น้อยกว่าบุตรคนแรก ลดหลั่นกันลงไป 

และหากครอบครัวใดต้องการฝากลูกไว้กับสถานรับเลี้ยง ทางรัฐบาลสิงคโปร์เขาก็มีเงินสำหรับอุดหนุนค่าธรรมเนียม ในส่วนนี้ให้อีกด้วย โดยให้แก่เด็กอายุตั้งแต่ 2-7 เดือนกันเลยทีเดียว 

รวมไปถึงเงินอุดหนุนค่าเล่าเรียนในโรงเรียนรัฐ เพื่อแบ่งเบาค่าใช้จ่ายของคุณพ่อคุณแม่ในอีกทางด้วยเช่นกัน 

 

สวัสดิการเด็กเล็กในประเทศเยอรมนี

เงินอุดหนุนในด้านสวัสดิการแก่เด็กนั้น ในตอนแรกเยอรมันยังไม่ได้มีมาตรการที่เข้มแข็งมากขนาดนั้น จนเมื่อในปี 2012 ได้เกิดเงินอุดหนุนเด็กแบบถ้วนหน้าขึ้น ทำให้ครอบครัวใดที่มีบุตรจะได้รับเงินอุดหนุนกันหมด โดยไม่จำกัดรายได้ของครอบครัว คือไม่ว่าครอบครัวไหนก็ได้รับเงินอุดหนุน หรือจะสามารถเลือกไม่รับเงินได้ และสามารถเปลี่ยนเป็นค่าลดหย่อนภาษีสำหรับเด็กแทนได้เช่นกัน

โดยเงินอุดหนุนก้อนนี้จะจ่ายจนเด็กอายุครบ 18 ปี หรืออาจจะถึง 25 ปี ถ้าหากเด็กยังคงศึกษาอยู่ นอกจากนี้ สิทธิที่ว่านี้ยังครอบคลุมถึงที่ไม่ได้มีสัญชาติเยอรมันที่อาศัยอยู่ในเยอรมัน ผู้ลี้ภัย รวมถึงเด็กเยอรมันที่อยู่ต่างประเทศอีกด้วย

 

สวัสดิการเด็กเล็กในประเทศไทย

ในส่วนของประเทศไทย สวัสดิการเงินอุดหนุนเด็กเล็กนั้นจะจ่ายให้เด็กอายุตั้งแต่ 0-6 ปีขึ้นไป เป็นจำนวนเงิน 600 บาทต่อคนต่อเดือน ให้แก่บุตร 1 คน แต่ไม่เกิน 3 คนต่อครอบครัว และต้องเป็นครอบครัวที่มีรายได้เฉลี่ย ไม่เกิน 100,000 บาท ต่อปี  

ตอนแรกในปี 2558 ได้เกิดเงินอุดหนุนสวัสดิการสำหรับเด็กแรกเกิด แต่จะให้เฉพาะในเด็กครัวเรือนยากจน หรือครัวเรือนที่เสี่ยงต่อความยากจนเท่านั้น โดยจะเป็นการจ่ายแบบรายเดือน ภายใต้เงื่อนไข คือ รายได้ของผู้เลี้ยงดูต้องไม่เกิน 32,000 บาท ต่อคนต่อปี แต่ปัจจุบันได้มีการเปลี่ยนเงื่อนไข จากเดิมที่จำกัดอายุเด็กจากไม่เกิน 3 ปี เป็น 6 ปี และขยายฐานรายได้เป็นไม่เกิน 100,000 บาท ต่อคนต่อปี

ทำให้ปัจจุบัน ในประเทศไทยยังไม่มีการจ่ายสวัสดิการสำหรับเด็กเล็กแบบถ้วนหน้านั่นเอง นอกจากนี้ ในเด็กที่อายุระหว่าง 7-18 ปี จะมีสวัสดิการเรียนฟรีถ้วนหน้า ในระยะเวลา 15 ปีในโรงเรียนรัฐอีกด้วย

 

ขอบคุณแหล่งข้อมูล