บางครั้งคุณพ่อคุณแม่เองก็อยากรู้ว่าชีวิตในแต่ละวันของลูกเรานั้นเป็นอย่างไรบ้าง อาหารอร่อยหรือเปล่า เรียนสนุกไหม เพื่อนและอาจารย์เป็นอย่างไร แต่ติดตรงที่เด็กน้อยของเราอาจไม่ใช่เด็กช่างเจรจาหรือชอบเล่าอย่างที่คิดจึงทำให้ผู้ปกครองต้องงัดกลยุทธ์ออกมาชวนพูดชวนคุยเพื่อให้ลูกได้เล่า, ระบายสิ่งที่พบเห็นมาในแต่ละวันว่าเกิดอะไรขึ้นบ้าง
เพราะงั้นเรามาดูคำถามที่จะช่วยให้การพูดคุยของเรากับลูกเข้าใจตรงกันมากขึ้นกันค่ะ มาดูกันนะคะว่าจะมีข้อไหนที่เรายังไม่เคยใช้ลองถามเด็กๆ บ้างเผื่อจะเป็นอีกหนึ่งทางออกที่คาดไม่ถึงก็ได้ว่าจะได้รู้สิ่งต่างๆ ในห้องเรียนของลูก
วันนี้ที่โรงเรียนมีเรื่องอะไรน่าตื่นเต้นบ้าง เล่ามาให้ฟังหน่อยซิ
คำถามนี้จะช่วยให้ลูกได้นึกถึงช่วงเวลาสนุกว่าเป็นอย่างไร คุณพ่อคุณแม่สามารถตรวจสอบได้ไปในตัวเลยว่าลูกมีความสุขหรือรู้สึกอยากไปโรงเรียนหรือไม่อยากไปเพราะเหตุใด
อาหารวันนี้อร่อยไหม? กินอิ่มหรือเปล่า แนะนำเมนูที่ชอบที่โรงเรียนหน่อย
บางครั้งเรื่องอาหารการกินนอกจากที่เราจะต้องสังเกตแล้วว่าลูกหิวหรือเปล่าหลังกลับจากโรงเรียน รสชาติถูกปากหรือไม่ ก็ต้องสอบถามด้วยว่าที่โรงเรียนมีอาหารเป็นอย่างไร, ได้ทานจนอิ่มรึเปล่าเพื่อเป็นเครื่องยืนยันว่าลูกได้ทานอาหารที่อยู่ท้อง, มีโภชนาการที่ดีเหมาะสมกับวัย
คุณครูสอนอะไรบ้างหนูเข้าใจไหม?
ถ้าลูกชอบเล่าให้ฟังว่าวันนี้เรียนอะไรมาบ้างนั้นถือว่าเป็นเรื่องที่ดีแต่หากไม่ เราต้องลองถามเพื่อให้มั่นใจว่า ในแต่ละบทเรียนที่เรียนนั้น ลูกมีพัฒนาการด้านการเรียนจริงๆ และได้รู้ว่าเนื้อหาที่ลูกได้รับการสอนนั้น สอดคล้องหรือไม่กับช่วงอายุของลูก
ตอนพักเล่นอะไรกับเพื่อน? สนุกไหม
นอกจากเรื่องทั่วไปอย่างการเรียนกับการทานอาหารแล้ว เรื่องเพื่อนเองก็สำคัญไม่แพ้กันเพราะการให้ลูกได้เล่าถึงกิจกรรมที่ทำร่วมกันในสังคม จะทำให้เรารู้จักตัวลูกเรามากขึ้นว่าเขาเป็นเด็กแบบไหน ชอบการเล่นหรืออยู่ร่วมกับใครบ้างนึแม้แต่การเล่าเองก้สามารถทำให้รู้ได้ว่าลูกเรามีเพื่อนหรือไม่ ถูกรังแกหรือเปล่าจากการเล่นที่ลูกได้ประสบการณ์มา
เรามาเล่นเป็นคุณครูกับนักเรียน/เพื่อนของหนูกับหนูกันนะ! พ่อ/แม่จะเล่นเป็นหนูนะ
อีกหนึ่งทางที่หากลูกไม่ยอมพูดหรือบอกอะไร การเล่นบทบาทสมมติก็เป็นอีกหนึ่งทางที่จะช่วยให้ลูกของเราแสดงตัวตนหรือมุมมองที่เขามีต่อคนรอบข้างออกมาโดยไม่เป็นการฝืนบังคับให้พูดจนอึดอัด เช่น การให้ลูกของเราเป็นคุณครูและตัวผู้ปกครองจะลองเป็นนักเรียนก็จะช่วยให้เขาแสดงบทบาทออกมาว่าว่า คุณครูปฏิบัติตนต่อเขาอย่างไร และเพื่อนเล่นกับเขาอย่างไร
การไปโรงเรียนวันนี้ ลูกภูมิใจในเรื่องไหนที่สุดจ๊ะ
ไม่ว่าใครก็มักต้องการได้รับกำลังใจและคำชม ดังนั้นการชวนให้ลูกได้พูดคุยถึงสิ่งที่เขาภูมิใจในวันนั้นๆ ตั้งแต่เรื่องเล็กไปจนเรื่องใหม่เช่น ทานผักได้, นอนกลางวันได้, ทำการบ้านเสร็จ, ทำกิจกรรมแล้วเป็นผู้ชนะ ก็จะช่วยทำให้ลูกรู้สึกมั่นใจและมีคุณค่าในตนเอง เป็นอีกหนึ่งขั้นในการดูแลและเยียวยาจิตใจลูกเป็นอย่างดีเลยทีเดียว
พฤติกรรมของลูกหลังกลับจากโรงเรียนที่ไม่ควรละเลย
- มีบาดแผลตามเนื้อตัว หากมีผลหรือรอยพกช้ำต้องรีบถามทันทีว่าไปโดนอะไรมา ไม่ปล่อยปละละเลยว่าเป็นเพียงการเล่นซน
- ไม่ค่อยพูดค่อยจา ไม่สดใสร่าเริง
- มีอาการต่อต้านที่จะไปโรงเรียน ไม่อยากเจอคุณครูหรือเพื่อน
- หวาดผวาบางเวลา, ระแวดระวังตนตลอด
- หิวเร็ว, ไม่เคยอิ่มมาจากโรงเรียน , ดูซูบผอม
- มีพฤติกรรมก้าวร้าวที่ลอกเลียนแบบมาจากที่อื่น ไม่ใช่ภายในบ้าน
ที่มา : โรงพยาบาลสินแพทย์