fbpx

“แม่จ๋าหนูทำไม่ได้…” ทำอย่างไร? เมื่อลูกกลายเป็นหนูน้อยนักปฏิเสธ

Writer : chonrapraew
: 4 กรกฏาคม 2565

“หนูทำไม่ได้…” “หนูไม่อยากทำ!”

คุณพ่อคุณแม่หลายคน คงเคยได้ยินประโยคข้างต้นกันมาบ้างใช่ไหมคะ? แท้จริงแล้วการที่เด็กๆ พูดคำพวกนี้ออกมาอาจมาจากความไม่มั่นใจในตัวเอง หรือการกลัวอะไรบางอย่าง

วันนี้ Parents One จะมาแชร์เทคนิคที่สามารถช่วยให้เด็กๆ มีทัศนะคติที่ดีต่อการทำสิ่งที่คุณพ่อคุณแม่ต้องการให้ทำกันค่ะ

 

เมื่อ… ลูกปฏิเสธที่จะลองทำสิ่งใหม่ๆ

บางครั้งในเวลาที่คุณพ่อคุณแม่พยายามเสนอสิ่งใหม่ให้เด็กๆ ได้ลองทำ เช่น การลองให้เล่นของเล่นพัฒนาศักยภาพชิ้นใหม่ หรือลองของเล่นที่เด็กๆ ไม่เคยเล่นมาก่อน เจ้าตัวเล็กอาจจะเคยปฏิเสธ หรือบอกว่าทำไม่ได้กันใช่ไหมคะ แต่รู้ไหมว่าความจริงแล้วคำปฏิเสธนั้นอาจมาจากความไม่มั่นใจในตัวเอง หรือความกลัวว่าจะทำไม่ได้ หรือทำได้ไม่ดี

แล้วมีวิธีแก้ปัญหาอย่างไร?

วิธีง่ายๆ ที่จะทำให้ลูกๆของเรามั่นใจในตัวเอง คือ การให้พวกเขาลองดูวิดิโอหรือรูปภาพของตนเองตอนเด็กๆ ที่ผ่านมา ว่าเขาสามารถทำอะไรได้หลายสิ่งหลายอย่างเลย “แล้วทำไม การลองทำสิ่งใหม่ๆ หนูจะทำไม่ได้เหมือนที่ผ่านมาล่ะ” คุณพ่อคุณแม่อาจจะช่วยพูดเสริมความมั่นใจเพิ่มเติม ว่าเราเชื่อว่าเขาทำได้ ขนาดก่อนหน้านี้ยังเคยทำและทำมาแล้วเลย การให้เด็กๆ ย้อนนึกถึงอดีตที่ตัวเองเคยประสบความสำเร็จมาก่อน จะช่วยสร้างความมั่นใจให้เจ้าตัวน้อยได้อีกครั้ง ทำให้สามารถก้าวข้ามผ่านความไม่มั่นใจและความกลัวได้ค่ะ

 

ลูกมีพฤติกรรมที่ไม่น่ารัก พูดแล้วไม่ยอมฟัง

หากเด็กๆ บ้านไหนที่มีพฤติกรรมไม่น่ารัก แล้วเมื่อคุณพ่อคุณแม่พูดแล้วไม่ยอมฟัง และมักปฏิเสธที่จะไม่ทำอยู่ตลอดเวลา เช่น การชอบเล่นแรงๆ  ทำให้ของเล่นพัง หรือการชอบทำลายข้าวของ แล้วเมื่อคุณพ่อคุณแม่พยายามห้ามแล้วแต่ไม่สำเร็จ

คุณพ่อคุณแม่จะมีวิธีแก้ไขอย่างไร? 

จริงๆ แล้วการทำให้ลูกหยุดใช้ความรุนแรง หรือการหยุดพฤติกรรมที่ไม่ดีของลูกมีหลายวิธีด้วยกัน แต่วันนี้เราขอนำเสนอวิธีที่จะทำให้เด็กๆ เกิดการตระหนักรู้ได้ด้วยตัวเอง คือ การให้ดูรูปหรือวิดิโอที่เคยถ่ายไว้ ในช่วงเวลาที่เขาไม่มีพฤติกรรมที่ไม่ดี พร้อมบอกว่า “หนูยังสามารถทำได้เลยก่อนหน้านี้” 

เพราะเมื่อเด็กๆเห็นภาพตัวเองตอนเด็กแล้ว ย่อมเป็นสิ่งที่สามารถเชื่อมโยงกับจิตใจของเขามากกว่าแค่การพูดหรือให้ดูในสิ่งที่เด็กๆ ไม่ได้รู้จักหรือสนใจ การให้เด็กๆ ได้เห็นตัวเองนั้น จะทำให้เขาเข้าใจและเห็นภาพมากกว่าและสามารถคิดได้ว่า ก่อนหน้านี้เรายังทำได้อย่างที่คุณพ่อคุณแม่บอกจริงๆ แล้วทำไมตอนนี้เราจะทำไม่ได้หละ ดังนั้นการที่เราให้ดูภาพหรือวิดิโอ ดีๆ ของเขา จึงสามารถช่วยทำให้เจ้าตัวเล็กหยุดพฤติกรรมก้าวร้าวลงได้อย่างไม่ยากเย็นเลยค่ะ

 

การชักจูงลูกๆ ให้ทำในสิ่งที่เราต้องการ บางทีเด็กๆ อาจไม่สามารถเข้าใจเหตุผลได้มากพอ ว่าทำไมต้องทำตาม แต่การที่คุณพ่อคุณแม่เลือกใช้วิธี ที่เป็นเหมือนการให้เด็กๆ ได้นึกทบทวนตัวเอง จะช่วยกระตุ้นให้เด็กมีพัฒนาการทางด้านความคิดควบคู่ไปกับการพยายามทำตามที่เราต้องการได้อย่างไม่ยากเย็นเลยค่ะ 

คุณพ่อคุณแม่คนไหนได้เอาวิธีนี้ไปลองใช้แล้ว อย่าลืมมาแชร์ผลลัพธ์กันนะค้าา

 

 

ขอบคุณข้อมูลดีๆ จากเพจ

https://www.facebook.com/JapanSalaryman/posts/2238596009641117

Writer Profile : chonrapraew

  • Blog :
  • Social Media :

  • Official Sponsors :
  • Samitivej Hospital

Update
Banner Banner
เมื่อคุณแม่หลายท่านเป็นกังวลกับเรื่องพัฒนาการสมองและภูมิคุ้มกันที่แตกต่างกันของลูกน้อยที่ผ่าคลอดกับเด็กคลอดธรรมชาติ กลัวว่าลูกน้อยจะมีโอกาสป่วยง่ายหรือมีพัฒนาการสมองช้ากว่าเพื่อนๆ ทำให้คุณแม่ต้องใส่ใจกับการดูแลลูกน้อยมากยิ่งขึ้น เสมือนการเร่งเสริมสร้างเกราะคุ้มกันให้ลูกน้อยเติบโตพร้อมปรับตัวกับโลกยุคใหม่ที่เต็มไปด้วยการเปลี่ยนแปลง วันนี้เราจะพาไปดูเคล็ดไม่ลับ ฉบับการดูแลพัฒนาการสมองของลูกน้อยและภูมิคุ้มกันของเด็กผ่าคลอดที่คุณแม่ไม่ควรมองข้าม ช่วยเติมเต็มในสิ่งที่ลูกผ่าคลอดต้องการได้ ไปดูกันเลย! เกราะคุ้มกันแรกที่หายไปของเด็กผ่าคลอด เด็กผ่าคลอดมักจะป่วยง่ายหรือมีปัญหาสุขภาพมากกว่าเด็กที่คลอดโดยธรรมชาติ เพราะสูญเสียโอกาสในการได้รับเชื้อจุลินทรีย์สุขภาพ ผ่านทางบริเวณช่องคลอดของคุณแม่ ทำให้เกราะคุ้มกันแรกเกิดของลูกน้อยผ่าคลอดหายไปส่งผลให้เด็กมีพัฒนาการทางระบบภูมิคุ้มกันตั้งต้นช้ากว่าเด็กที่คลอดตามธรรมชาติ บิฟิโดแบคทีเรียม แล็กทิส (B. lactis) เป็นจุลินทรีย์ชนิดดีที่ช่วยเสริมสร้างภูมิคุ้มกันตั้งต้น โดยเฉพาะระบบภูมิคุ้มกันในระบบทางเดินอาหาร คุณแม่จึงต้องเร่งเสริมสร้างเกราะคุ้มกันให้ลูกน้อยมีพื้นฐานที่ดีตั้งแต่เริ่มต้น เพื่อช่วยให้ลูกน้อยของเรามีมีระบบภูมิคุ้มกันที่ดีขึ้น เสริมสร้างพัฒนาการด้านสมองของเด็กผ่าคลอดด้วย “แอลฟาแล็ค สฟิงโกไมอีลิน” “แอลฟาแล็ค สฟิงโกไมอีลิน” คือสารอาหารที่พบมากในนมแม่ เป็นส่วนสำคัญที่ทำให้การทำงานสมองของลูกน้อยมีประสิทธิภาพ สร้างสมองไวกว่าเดิม เชื่อมต่อเซลล์สมอง 1 แสนล้านเซล์ อัพเกรดเด็กเจนใหม่ โดยสร้างสารสื่อประสาทในสมอง และเพิ่มความเร็วการส่งสัญญาณประสาทแบบก้าวกระโดด “สฟิงโกไมอีลิน” คือ ไขมันกลุ่มฟอสโฟไลปิด พบได้มากในน้ำนมแม่ที่อุดมไปด้วยสารอาหารกว่า 200 ชนิด ซึ่ง “สฟิงโกไมอีลิน”เป็นองค์ประกอบในการสร้างปลอกไมอีลิน ซึ่งมีผลต่อการทำงานของสมองให้ส่งสัญญาณประสาทได้ไวและประมวลผลอย่างมีประสิทธิภาพ ทำให้เกิดการจดจำเร็ว เรียนรู้ไว สมองของเด็กผ่าคลอดและเด็กที่คลอดตามธรรมชาติ มีการสร้างไมอีลินในสมองแตกต่างกัน โดยเฉพาะที่ส่วนของสมอง ที่ทำหน้าที่เชื่อมโยงระหว่างสมองซีกซ้ายและซีกขวา คุณแม่จึงควรคำนึงถึงจุดเริ่มต้นที่แตกต่าง ของเด็กผ่าคลอดเจนใหม่ ด้วยการเตรียมสมองไวและภูมิคุ้มกันที่ดีด้วย “แอลฟาแล็ค สฟิงโกไมอีลิน” และ บิฟิโดแบคทีเรียม แล็กทิส (B. lactis) จากนมแม่ให้ลูกน้อยยิ่งเริ่มเร็วก็ยิ่งดี เพราะพัฒนาการสมองที่ดีในวัยเด็ก ถือเป็นรากฐานสำคัญ ไม่ว่าจะเป็นการมองเห็น การได้ยิน หรือการเรียนรู้ภาษาสิ่งเหล่านี้ล้วนเกิดจากพัฒนาการของสมองเพราะสมองคือจุดเริ่มต้น ของทุกพัฒนาการของลูกน้อย เตรียมพร้อมเด็กผ่าคลอดให้มีสมองไวและภูมิคุ้มกันที่ดีขึ้นได้ คุณแม่สามารถเติมเต็มในสิ่งที่ลูกน้อยผ่าคลอดต้องการได้ด้วยสารอาหารที่สำคัญอย่างเช่น “แอลฟาแล็ค สฟิงโกไมอีลิน” ที่ช่วยเพิ่มความเร็วในการส่งสัญญาณประสาทได้เร็วและมีประสิทธิภาพมากขึ้น และโพรไบโอติก บิฟิโดแบคทีเรียม แล็กทิส (B. lactis) ตัวช่วยที่ทำให้ลูกน้อยมีภูมิคุ้มกันสุขภาพที่ดี ดังนั้นคุณแม่ก็วางใจได้ หากเราเสริมสร้าง…
3 กันยายน 2568

anal porno zdarma culi nudi al mare free sex videos antalya escort

เราใช้คุกกี้เพื่อพัฒนาประสิทธิภาพ และประสบการณ์ที่ดีในการใช้เว็บไซต์ของคุณ คุณสามารถศึกษารายละเอียดได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และสามารถจัดการความเป็นส่วนตัวเองได้ของคุณได้เองโดยคลิกที่ ตั้งค่า

Privacy Preferences

คุณสามารถเลือกการตั้งค่าคุกกี้โดยเปิด/ปิด คุกกี้ในแต่ละประเภทได้ตามความต้องการ ยกเว้น คุกกี้ที่จำเป็น

Allow All
Manage Consent Preferences
  • Always Active

Save