Parents One

4 เทคนิคไขความลับพัฒนาสมองลูกน้อยด้วย DHA จากน้ำนมแม่

คุณพ่อคุณแม่ทราบหรือไม่ว่า การพัฒนาสมองของลูกน้อยนั้น พัฒนาได้อย่างดีเยี่ยมในช่วง 1,000 วันแรก หรือตั้งแต่เจ้าตัวน้อยอยู่ในครรภ์ จนลูกมีอายุ 2 ปี ดังนั้น การที่ลูกจะมีพัฒนาการที่สมวัยจึงต้องอาศัยปัจจัยหลายอย่าง หนึ่งในนั้นคือเรื่องของการส่งเสริมโภชนาการที่มีประโยชน์ในช่วง 1,000 วันแรก ซึ่งคุณพ่อคุณแม่จะต้องใส่ใจเรื่องของสารอาหารให้เหมาะสมกับช่วงวัยเป็นพิเศษ เพื่อให้ลูกมีการเติบโตของพัฒนาการสมองได้อย่างเต็มที่นั่นเองค่ะ

เราขอแนะนำให้รู้จักกับ  DHA สารอาหารที่สำคัญต่อการพัฒนาสมองของลูก แถมยังเป็นตัวกระตุ้นให้ลูกมีความจำที่ดี ดังนั้นอย่ารอช้า!! งั้นไปทำความรู้จักกับ DHA ใน 4
เทคนิคไขความลับพัฒนาสมองลูกน้อยจากน้ำนมแม่

1. ในน้ำนมแม่มีสารอาหารอะไรบ้าง?

น้ำนมแม่ คือ อาหารที่มีประโยชน์ที่สุดสำหรับลูก ซึ่งในนำ้นมแม่นั้นนอกจากจะมีโอเมก้า 3, 6, 9 ซึ่งมีประโยชน์การพัฒนาระบบประสาท สมอง ผิวหนัง และสายตาของลูกแล้ว ยังมี DHA ซึ่งเป็นกรดไขมันกลุ่มโอเมก้า 3 ซึ่งเป็นสารอาหารที่จำเป็นมากสำหรับลูกโดยเฉพาะกับเด็กวัยแรกเกิด – 6 เดือน เพราะช่วยให้การพัฒนาระบบประสาท และสมองของลูกน้อยเป็นไปได้อย่างเต็มที่อีกด้วย

นอกจากนี้ ยังมีการศึกษาพบว่า ปริมาณ DHA ในน้ำนมแม่ ขึ้นอยู่กับปริมาณ DHA ที่แม่รับประทานเข้าไป หากคุณพ่อคุณแม่ท่านใดอยากให้ลูกมีร่างกายที่แข็งแรง และมีสมองที่จดจำได้แม่นยำ อย่าลืมเลือกทานอาหารที่มี DHA สูงด้วยนะคะ หากคุณพ่อคุณแม่ท่านใดมีปัญหาในการให้นมลูกควรปรึกษาแพทย์ หรือเลือกโภชนาการที่เหมาะสมให้ลูกค่ะ

 

2. ทำความรู้จักกับ DHA เพื่อนรักในน้ำนมแม่ 

DHA หรือ กรด Docosahexaenoic Acid คือ กรดไขมันสายยาว ซึ่งเป็นส่วนประกอบสำคัญของการพัฒนาสมอง โดยเฉพาะด้านความจำและการเรียนรู้ รวมทั้งการพัฒนาของจอประสาทตาของลูกรัก DHA นอกจากจะพบมากในน้ำนมแม่แล้ว ยังพบในปลาทะเลอีกด้วยค่ะ

ซึ่งจากการศึกษาพบว่าค่าเฉลี่ย DHA ในน้ำนมแม่อยู่ที่ 0.3 เปอร์เซ็นต์ของกรดไขมันทั้งหมด เช่น ถ้าในน้ำนมแม่หากไม่รวมน้ำ 100 กรัม จะมีไขมัน 25 กรัม ก็จะมีปริมาณ DHA 83 มิลลิกรัมนั่นเองค่ะ

ซึ่งร่างกายของเราไม่สามารถสร้าง DHA ขึ้นเองได้ คุณแม่จึงควรเสริม DHA ให้ลูกด้วยการทานอาหารที่อุดมไปด้วย DHA ตั้งแต่ตั้งครรภ์นั่นเอง ด้วยเหตุนี้ DHA จึงเป็นเพื่อนรักในน้ำนมแม่ที่เตรียมพร้อมให้ลูกมีร่างกายแข็งแรง และมีภูมิต้านทานที่ดีอยู่เสมอค่ะ
(แหล่งอ้างอิง : หมอเสาวภา เลี้ยงลูกเชิงบวก  , กองการแพทย์ทางเลือก กระทรวงสาธารณสุขคณะแพทยศาสตร์ศิริราชพยาบาล มหาวิทยาลัยมหิดล )

 

3. 6 เดือนแรกสำคัญที่สุด เพิ่มทักษะและพัฒนาการให้ลูกน้อย

ในเด็กทารกวัยแรกเกิด – 6 เดือนเป็นวัยที่จำเป็นต้องได้รับ DHA อย่างเพียงพอ เพื่อให้สมอง และระบบประสาทของลูกน้อยพัฒนาได้อย่างเต็มที่ เพราะจะส่งผลต่อประสิทธิภาพการเรียนรู้ รวมทั้งทักษะด้านความจำ และการใช้เหตุผลในการแก้ปัญหา แถมยังช่วยเรื่องสายตาโดยเฉพาะในเด็ก เพราะหากเด็กขาด DHA อาจเพิ่มความเสี่ยงให้เกิดปัญหาในเรื่องการมองเห็นเช่นกันค่ะ

 

4. “พรีไบโอติก” ในน้ำนมแม่ เสริมเด็กเก่งให้สุดแกร่ง

พรีไบโอติกในน้ำนมแม่ คือ แหล่งอาหารสำคัญของจุลินทรีย์ในลำไส้ที่มีประโยชน์ต่อร่างกาย เปรียบเสมือนมีภูมิต้านทานในลำไส้ที่แข็งแรง เพื่อปกป้องเชื้อโรคเข้าสู่ร่างกายของเรานั่นเองค่ะ

พรีไบโอติกช่วยส่งเสริมให้จุลินทรีย์สุขภาพในลำไส้เติบโตได้ดี ช่วยลดจำนวนเชื้อก่อโรค พร้อมกับคอยสู้กับจุลินทรีย์ตัวร้ายในลำไส้ของเด็ก จึงช่วยเสริมสร้างภูมิต้านทานโรคให้ลูกแข็งแรง ไม่เจ็บป่วยได้ง่าย พร้อมสำหรับทุกการเรียนรู้นั่นเองค่ะ

เห็นไหมล่ะคะว่า สารอาหาร DHA และพรีไบโอติก ที่อยู่ในน้ำนมแม่นั้นมีประโยชน์มากๆ เลย โดยเฉพาะในช่วง 1,000 วันแรกของเจ้าตัวน้อย คุณพ่อคุณแม่จึงต้องเร่งเสริมให้ร่างกายลูกแข็งแรงด้วยการทานอาหารที่มีประโยชน์ด้วยนะคะ

#เก่งและแกร่ง  #ไปได้ไกลกว่า #Advertorial
อ่านข้อมูลเพิ่มเติมได้ที่ : Hifamilyclub