fbpx

HIGHLIGHT UPDATE: ข่าวรอบวันประจำวันที่ 8 พฤษภาคม 2563

Writer : Jicko
: 8 พฤษภาคม 2563

คนไทยติดเชื้อ covid-19 เพิ่มขึ้น 8 ราย ยอดสะสม 3,000 ราย

  • ผู้ป่วยรายใหม่เพิ่มขึ้น 8 ราย
  • ยอดรวมสะสม 3,000 ราย
  • หายป่วยแล้ว 2,784 ราย
  • ยอดผู้เสียชีวิตสะสม 55 ราย
    .
    ผู้ป่วยรายใหม่ พบว่ามาจากการหาผู้ป่วยเชิงรุกในชุมชน 3 ราย ที่ จ.ยะลา เป็นผู้ป่วยชายไทยทั้งหมด 45 ปี และ 51 ปี มีประวัติสัมผัสผู้ที่เดินทางกลับมาจากมาเลเซีย และศูนย์กักกัน ตรวจคนเข้าเมือง อีก 5 ราย อ.สะเดา จ.สงขลา อายุ 19-30 ปี รวมเป็น 8 ราย

อ้างอิงจาก  :  https://covid19.th-stat.com/

ปีการศึกษา 63 นี้ ไม่มีปิดเทอม !! เปิดเทอม 1 กค. – 30 เมษ. 64

สำนักงานคณะกรรมการการศึกษาขั้นพื้นฐาน อธิบายการเลื่อนวันเปิดเทอม ซึ่งจากเดิมเปิดภาคเรียนที่ 1 ในวันที่ 15 พฤษภาคม 2563 โดยเลื่อนมาเป็นวันเปิดภาคเรียนในวันที่ 1 กรกฎาคม 2563 แทน

เนื่องจากสถานการณ์ตอนนี้ของโรคระบาดไวรัสโควิด-19 ทำให้มีผลกระทบต่อการเรียนการสอนของครู นักเรียน และอาจารย์

ในการเลื่อนเปิดภาคเรียน จะแบ่งเวลาดังนี้

  • ภาคเรียนที่ 1 : เปิดเรียนวันที่ 1 กรกฎาคม – 30 พฤศจิกายน 2563 (รวม 4 เดือน)
  • ภาคเรียนที่ 2 : เปิดเรียนวันที่ 1 ธันวาคม 2563 – 30 เมษายน 2564 (รวม 4 เดือน)

โดยจะไม่มีการปิดเทอมภาคเรียนที่ 1 แต่จะมีการปิดเทอมภาคเรียนที่ 2 จำนวน 15 วัน ตั้งแต่วันที่ 1 พค. – 15 พค. 2564 เพื่อที่จะสามารถเปิดภาคเรียนปีการศึกษา 2564 ได้ตามปกติเหมือนเดิม

อ้างอิงจาก : https://today.line.me/TH/pc/article/nyQW5D?utm_source=copyshare&fbclid=IwAR3dOhU_Cxd6ipaSd3AVd_vEFq99o-GVvYqHaQYxsuUzP5FJEnI83qql2qY

จี้โรงเรียน เลิกติดป้ายประกาศชื่นชมนักเรียน 

วันที่ 8 พ.ค. นายเอกชัย กี่สุขพันธ์ ประธานคณะกรรมการการศึกษาขั้นพื้นฐาน (กพฐ.) เปิดเผยภายหลังเป็นประธานการประชุม กพฐ. ว่า ที่ประชุมหารือเรื่องหลักสูตรฐานสมรรถนะ ที่สำนักงานคณะกรรมการการศึกษาขั้นพื้นฐาน (สพฐ.) พัฒนาขึ้นใหม่ โดยนายณัฏฐพล ทีปสุวรรณ รมว.ศึกษาธิการ (ศธ.) เห็นชอบหลักสูตรฐานสมรรถนะใหม่นี้แล้ว

โดยนายเอกชัยกล่วว่า ” การเรียนตามหลักสูตรฐานสมรรถนะจะต้องปรับปรุงการเรียนการสอนด้วย ผมพบปัญหาพฤติกรรมของผู้อำนวยการสำนักงานเขตพื้นที่การศึกษา (สพท.) ที่ยังติดกับรูปแบบเดิม คือไปเคี่ยวให้ผู้อำนวยการ และครูทุกโรงเรียน ต้องทำให้นักเรียนมีผลสัมฤทธิ์ทางการศึกษาเพิ่มขึ้นทุกปี ถ้าไปเคี่ยวโดยไม่สนใจพัฒนาการของนักเรียน อาจจะเกิดผลเสียง ควรจะเปลี่ยนเป็นว่าโรงเรียนต้องรายงานพัฒนาการของนักเรียน โดยที่นักเรียนจะต้องมีพัฒนาการเพิ่มขึ้นทุกปี หากกำหนดเช่นนี้ เชื่อว่าการศึกษาจะพัฒนาได้อย่างเต็มที่

นอกจากนี้ ผมคิดว่าโรงเรียนแข่งขันสูง ไม่ว่าจะเป็นในต่างจังหวัดหรือกรุงเทพมหานคร ควรเลิกใช้เด็กมาสร้างชื่อเสียงให้โรงเรียน โดยติดป้ายประกาศหน้าโรงเรียนชื่นชมนักเรียนว่าสามารถสอบเข้ามหาวิทยาลัยไหนได้บ้าง คณะใดบ้าง ผมอึดอัดกับวิธีนี้มาก เป็นเรื่องที่ไม่ถูกต้อง ซึ่งทาง สพฐ.รับเรื่องไปพิจารณาแล้ว ”

อ้างอิงจาก : https://www.khaosod.co.th/special-stories/news_4090799

ปตท.-บางจาก ปรับราคาน้ำมันขึ้นกลุ่มแก๊สโซฮอล์ 60 สตางค์

ในวันที่ 9 พค. 63 เวลา 05.00 น. บางจากฯ จะขึ้นราคาน้ำมันกลุ่มเบนซินทุกชนิด บวกเพิ่ม 50 สตางค์ ยกเว้น E85 บวกเพิ่ม 30 สตางค์ สำหรับกลุ่มดีเซลทุกชนิดราคาน้ำมันขึ้นเท่าเดิม

ทางด้าน PTT Blue Societyโพสต์ข้อความ ระบุว่า… ขึ้นราคาน้ำมันกลุ่มแก๊สโซฮอล์ +50 ส.ต. ยกเว้น E85 +30 ส.ต. ส่วนน้ำมันกลุ่มดีเซลทุกชนิด ไม่ว่าจะเป็น พีทีที อัลตร้าฟอร์ซ ดีเซล, พีทีที อัลตร้าฟอร์ซ ดีเซลพรีเมียม, พีทีที อัลตร้าฟอร์ซ ดีเซล B10 และ พีทีที อัลตร้าฟอร์ซ ดีเซล B20 ราคาน้ำมันขึ้นเท่าเดิม มีผลวันพรุ่งนี้ (9 พ.ค. 63) ตั้งแต่เวลาตี 5 เป็นต้นไป

อ้างอิงจาก : https://www.bangkokbiznews.com/news/detail/879679?utm_source=homepage_hilight&utm_medium=internal_referral

กรมอุตุฯ ประกาศเตือนพายุฤดูร้อนลูกใหม่ อีสานโดนก่อน – กทม.ไม่รอด

วันที่ 8 พ.ค. กรมอุตุนิยมวิทยา ประกาศ “พายุฤดูร้อนบริเวณประเทศไทยตอนบน (มีผลกระทบตั้งแต่วันที่ 10-13 พ.ค.2563)” ฉบับที่ 1 ลงวันที่ 8 พ.ค.2563

ระบุว่า ในช่วงวันที่ 10-13 พ.ค.2563 บริเวณความกดอากาศสูงจากประเทศจีนจะแผ่ลงมาปกคลุมประเทศไทยตอนบนและทะเลจีนใต้ ในขณะที่ประเทศไทยมีอากาศร้อน ทำให้บริเวณดังกล่าวจะมีพายุฤดูร้อนเกิดขึ้น

โดยจะเริ่มแผ่เข้ามาปกคลุมบริเวณภาคตะวันออกเฉียงเหนือและภาคตะวันออกก่อน โดยมีลักษณะของพายุฝนฟ้าคะนอง ลมกระโชกแรง กับมีลูกเห็บตกบางพื้นที่ รวมถึงฟ้าผ่า

โดยภาคตะวันออกเฉียงเหนือ และภาคตะวันออก จะเริ่มมีผลกระทบในคืนวันที่ 10 พ.ค.2563 ส่วนภาคเหนือ ภาคกลาง รวมทั้งกรุงเทพมหานครและปริมณฑล จะเริ่มได้รับผลกระทบในวันถัดไป (วันที่ 11 พ.ค.2563)

จึงขอให้ประชาชนในบริเวณดังกล่าวระวังอันตรายจากพายุฤดูร้อนที่จะเกิดขึ้น โดยหลีกเลี่ยงการอยู่ในที่โล่งแจ้ง ใต้ต้นไม้ใหญ่ ป้ายโฆษณา และสิ่งปลูกสร้างที่ไม่แข็งแรง รวมถึงระวังอันตรายจากฟ้าผ่า สำหรับเกษตรกรควรเตรียมการป้องกันและระวังความเสียหายที่จะเกิดต่อผลผลิตทางการเกษตรไว้ด้วย

อ้างอิงจาก : https://www.khaosod.co.th/breaking-news/news_4092484

 

Writer Profile : Jicko

  • Social Media :

  • Official Sponsors :
  • Samitivej Hospital

Generic placeholder image

บทความที่เกี่ยวข้อง



Update
Banner Banner
เมื่อคุณแม่หลายท่านเป็นกังวลกับเรื่องพัฒนาการสมองและภูมิคุ้มกันที่แตกต่างกันของลูกน้อยที่ผ่าคลอดกับเด็กคลอดธรรมชาติ กลัวว่าลูกน้อยจะมีโอกาสป่วยง่ายหรือมีพัฒนาการสมองช้ากว่าเพื่อนๆ ทำให้คุณแม่ต้องใส่ใจกับการดูแลลูกน้อยมากยิ่งขึ้น เสมือนการเร่งเสริมสร้างเกราะคุ้มกันให้ลูกน้อยเติบโตพร้อมปรับตัวกับโลกยุคใหม่ที่เต็มไปด้วยการเปลี่ยนแปลง วันนี้เราจะพาไปดูเคล็ดไม่ลับ ฉบับการดูแลพัฒนาการสมองของลูกน้อยและภูมิคุ้มกันของเด็กผ่าคลอดที่คุณแม่ไม่ควรมองข้าม ช่วยเติมเต็มในสิ่งที่ลูกผ่าคลอดต้องการได้ ไปดูกันเลย! เกราะคุ้มกันแรกที่หายไปของเด็กผ่าคลอด เด็กผ่าคลอดมักจะป่วยง่ายหรือมีปัญหาสุขภาพมากกว่าเด็กที่คลอดโดยธรรมชาติ เพราะสูญเสียโอกาสในการได้รับเชื้อจุลินทรีย์สุขภาพ ผ่านทางบริเวณช่องคลอดของคุณแม่ ทำให้เกราะคุ้มกันแรกเกิดของลูกน้อยผ่าคลอดหายไปส่งผลให้เด็กมีพัฒนาการทางระบบภูมิคุ้มกันตั้งต้นช้ากว่าเด็กที่คลอดตามธรรมชาติ บิฟิโดแบคทีเรียม แล็กทิส (B. lactis) เป็นจุลินทรีย์ชนิดดีที่ช่วยเสริมสร้างภูมิคุ้มกันตั้งต้น โดยเฉพาะระบบภูมิคุ้มกันในระบบทางเดินอาหาร คุณแม่จึงต้องเร่งเสริมสร้างเกราะคุ้มกันให้ลูกน้อยมีพื้นฐานที่ดีตั้งแต่เริ่มต้น เพื่อช่วยให้ลูกน้อยของเรามีมีระบบภูมิคุ้มกันที่ดีขึ้น เสริมสร้างพัฒนาการด้านสมองของเด็กผ่าคลอดด้วย “แอลฟาแล็ค สฟิงโกไมอีลิน” “แอลฟาแล็ค สฟิงโกไมอีลิน” คือสารอาหารที่พบมากในนมแม่ เป็นส่วนสำคัญที่ทำให้การทำงานสมองของลูกน้อยมีประสิทธิภาพ สร้างสมองไวกว่าเดิม เชื่อมต่อเซลล์สมอง 1 แสนล้านเซล์ อัพเกรดเด็กเจนใหม่ โดยสร้างสารสื่อประสาทในสมอง และเพิ่มความเร็วการส่งสัญญาณประสาทแบบก้าวกระโดด “สฟิงโกไมอีลิน” คือ ไขมันกลุ่มฟอสโฟไลปิด พบได้มากในน้ำนมแม่ที่อุดมไปด้วยสารอาหารกว่า 200 ชนิด ซึ่ง “สฟิงโกไมอีลิน”เป็นองค์ประกอบในการสร้างปลอกไมอีลิน ซึ่งมีผลต่อการทำงานของสมองให้ส่งสัญญาณประสาทได้ไวและประมวลผลอย่างมีประสิทธิภาพ ทำให้เกิดการจดจำเร็ว เรียนรู้ไว สมองของเด็กผ่าคลอดและเด็กที่คลอดตามธรรมชาติ มีการสร้างไมอีลินในสมองแตกต่างกัน โดยเฉพาะที่ส่วนของสมอง ที่ทำหน้าที่เชื่อมโยงระหว่างสมองซีกซ้ายและซีกขวา คุณแม่จึงควรคำนึงถึงจุดเริ่มต้นที่แตกต่าง ของเด็กผ่าคลอดเจนใหม่ ด้วยการเตรียมสมองไวและภูมิคุ้มกันที่ดีด้วย “แอลฟาแล็ค สฟิงโกไมอีลิน” และ บิฟิโดแบคทีเรียม แล็กทิส (B. lactis) จากนมแม่ให้ลูกน้อยยิ่งเริ่มเร็วก็ยิ่งดี เพราะพัฒนาการสมองที่ดีในวัยเด็ก ถือเป็นรากฐานสำคัญ ไม่ว่าจะเป็นการมองเห็น การได้ยิน หรือการเรียนรู้ภาษาสิ่งเหล่านี้ล้วนเกิดจากพัฒนาการของสมองเพราะสมองคือจุดเริ่มต้น ของทุกพัฒนาการของลูกน้อย เตรียมพร้อมเด็กผ่าคลอดให้มีสมองไวและภูมิคุ้มกันที่ดีขึ้นได้ คุณแม่สามารถเติมเต็มในสิ่งที่ลูกน้อยผ่าคลอดต้องการได้ด้วยสารอาหารที่สำคัญอย่างเช่น “แอลฟาแล็ค สฟิงโกไมอีลิน” ที่ช่วยเพิ่มความเร็วในการส่งสัญญาณประสาทได้เร็วและมีประสิทธิภาพมากขึ้น และโพรไบโอติก บิฟิโดแบคทีเรียม แล็กทิส (B. lactis) ตัวช่วยที่ทำให้ลูกน้อยมีภูมิคุ้มกันสุขภาพที่ดี ดังนั้นคุณแม่ก็วางใจได้ หากเราเสริมสร้าง…
3 กันยายน 2568

anal porno zdarma culi nudi al mare free sex videos antalya escort

เราใช้คุกกี้เพื่อพัฒนาประสิทธิภาพ และประสบการณ์ที่ดีในการใช้เว็บไซต์ของคุณ คุณสามารถศึกษารายละเอียดได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และสามารถจัดการความเป็นส่วนตัวเองได้ของคุณได้เองโดยคลิกที่ ตั้งค่า

Privacy Preferences

คุณสามารถเลือกการตั้งค่าคุกกี้โดยเปิด/ปิด คุกกี้ในแต่ละประเภทได้ตามความต้องการ ยกเว้น คุกกี้ที่จำเป็น

Allow All
Manage Consent Preferences
  • Always Active

Save