fbpx

HIGHLIGHT UPDATE: ข่าวรอบวันประจำวันที่ 24 มีนาคม 2563

Writer : Lalimay
: 24 มีนาคม 2563

พบผู้ติดเชื้อเพิ่ม 106 ราย ยอดรวมสะสม 827 ราย เสียชีวิตแล้ว 4 ราย

จากแถลงสถานการณ์ไวรัสโคโรนาสายพันธุ์ใหม่ 2019 หรือ โควิด-19 โดยสถานการณ์ในประเทศไทยวันนี้มีผู้ป่วยยืนยันเพิ่มขึ้น 106 ราย กลับบ้านแล้ว 57 ราย ยังรักษาตัวในโรงพยาบาล 553 ราย อาการหนัก 4 ราย เสียชีวิตเพิ่ม 2 ราย รวมแล้ว 4 ราย ยอดผู้ป่วยยืนยันสะสม 827 ราย พบบุคลากรทางการแพทย์ป่วยเป็นครั้งแรก เพราะผู้ป่วยไม่แจ้งประวัติเสี่ยง

อ้างอิงจาก

https://www.youtube.com/watch?v=zdTfN_68JtA

นายกฯ ประกาศใช้พ.ร.ก.ฉุกเฉินคุม COVID-19 มีผล 26 มีนาคมนี้ 

พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม ประกาศมติคณะรัฐมนตรีออกพระราชกำหนด (พ.ร.ก.) การบริหารราชการในสถานการณ์ฉุกเฉิน พ.ศ.2548 เพื่อควบคุมการระบาดของโรคติดเชื้อไวรัส COVID-19 โดยพระราชกำหนด (พ.ร.ก.) การบริหารราชการในสถานการณ์ฉุกเฉินจะมีผลบังคับใช้วันที่ 26 มีนาคม 2563 นี้

อ้างอิงจาก

https://www.bangkokbiznews.com/news/detail/872359

ยอดผู้ป่วย COVID-19 ในสหรัฐฯ พุ่ง 10,000 รายในวันเดียว

เสียชีวิตแล้วกว่า 550 ราย

สหรัฐอเมริกามียอดผู้ติดเชื้อรายใหม่เพิ่มขึ้นสูงถึง 10,000 ราย ภายในวันเดียว และขณะนี้มีผู้ติดเชื้อทั้งหมดในสหรัฐฯ 43,721 รายและเสียชีวิต 552 คน รักษาหายแล้ว 295 ราย อัตราการเสียชีวิตอยู่ที่ 1.26%

อ้างอิงจาก

https://www.mangozero.com/us-live-coronavirus-updates

จีนเตรียมยกเลิกมาตรการปิดเมืองอู่ฮั่น 8 เมษายนนี้ 

จีนประกาศเตรียมยกเลิกมาตรการปิดเมืองอู่ฮั่น ศูนย์กลางการระบาดของ COVID-19 ในวันที่ 8 เมษายนนี้ หลังเผชิญกับการระบาดหนักเป็นเวลากว่า 2 เดือน และต้องปิดเมืองไปตั้งแต่เมื่อวันที่ 23 มกราคม เพื่อป้องกันการแพร่กระจายของเชื้อไวรัส

อ้างอิงจาก

https://www.facebook.com/thestandardth/posts/2389515391341339

ไทยจัดอยู่ในกลุ่มประเทศที่ควรเลี่ยงเดินทางไปเยือนแล้ว จากสถานการณ์ COVID-19

กรมควบคุมและป้องกันโรคของสหรัฐอเมริกา ได้ประกาศเตือนระดับ 3 ซึ่งเป็นระดับสูงสุด โดยเพิ่มไทย ชิลี ปากีสถาน และตุรกี ให้อยู่ในกลุ่มประเทศที่ควรเลี่ยงการเดินทางไปเยือนหากไม่จำเป็น หลังประเทศเหล่านี้มียอดผู้ป่วย COVID-19 เพิ่มสูงขึ้น และการระบาดมีแนวโน้มขยายตัวเป็นวงกว้าง

อ้างอิงจาก

https://www.facebook.com/thestandardth/photos/a.1725541161072102/2389559261336952/?type=3&__tn__=-R

Writer Profile : Lalimay

  • Blog :

  • Official Sponsors :
  • Samitivej Hospital

Generic placeholder image

บทความที่เกี่ยวข้อง



Update
Banner Banner
เมื่อคุณแม่หลายท่านเป็นกังวลกับเรื่องพัฒนาการสมองและภูมิคุ้มกันที่แตกต่างกันของลูกน้อยที่ผ่าคลอดกับเด็กคลอดธรรมชาติ กลัวว่าลูกน้อยจะมีโอกาสป่วยง่ายหรือมีพัฒนาการสมองช้ากว่าเพื่อนๆ ทำให้คุณแม่ต้องใส่ใจกับการดูแลลูกน้อยมากยิ่งขึ้น เสมือนการเร่งเสริมสร้างเกราะคุ้มกันให้ลูกน้อยเติบโตพร้อมปรับตัวกับโลกยุคใหม่ที่เต็มไปด้วยการเปลี่ยนแปลง วันนี้เราจะพาไปดูเคล็ดไม่ลับ ฉบับการดูแลพัฒนาการสมองของลูกน้อยและภูมิคุ้มกันของเด็กผ่าคลอดที่คุณแม่ไม่ควรมองข้าม ช่วยเติมเต็มในสิ่งที่ลูกผ่าคลอดต้องการได้ ไปดูกันเลย! เกราะคุ้มกันแรกที่หายไปของเด็กผ่าคลอด เด็กผ่าคลอดมักจะป่วยง่ายหรือมีปัญหาสุขภาพมากกว่าเด็กที่คลอดโดยธรรมชาติ เพราะสูญเสียโอกาสในการได้รับเชื้อจุลินทรีย์สุขภาพ ผ่านทางบริเวณช่องคลอดของคุณแม่ ทำให้เกราะคุ้มกันแรกเกิดของลูกน้อยผ่าคลอดหายไปส่งผลให้เด็กมีพัฒนาการทางระบบภูมิคุ้มกันตั้งต้นช้ากว่าเด็กที่คลอดตามธรรมชาติ บิฟิโดแบคทีเรียม แล็กทิส (B. lactis) เป็นจุลินทรีย์ชนิดดีที่ช่วยเสริมสร้างภูมิคุ้มกันตั้งต้น โดยเฉพาะระบบภูมิคุ้มกันในระบบทางเดินอาหาร คุณแม่จึงต้องเร่งเสริมสร้างเกราะคุ้มกันให้ลูกน้อยมีพื้นฐานที่ดีตั้งแต่เริ่มต้น เพื่อช่วยให้ลูกน้อยของเรามีมีระบบภูมิคุ้มกันที่ดีขึ้น เสริมสร้างพัฒนาการด้านสมองของเด็กผ่าคลอดด้วย “แอลฟาแล็ค สฟิงโกไมอีลิน” “แอลฟาแล็ค สฟิงโกไมอีลิน” คือสารอาหารที่พบมากในนมแม่ เป็นส่วนสำคัญที่ทำให้การทำงานสมองของลูกน้อยมีประสิทธิภาพ สร้างสมองไวกว่าเดิม เชื่อมต่อเซลล์สมอง 1 แสนล้านเซล์ อัพเกรดเด็กเจนใหม่ โดยสร้างสารสื่อประสาทในสมอง และเพิ่มความเร็วการส่งสัญญาณประสาทแบบก้าวกระโดด “สฟิงโกไมอีลิน” คือ ไขมันกลุ่มฟอสโฟไลปิด พบได้มากในน้ำนมแม่ที่อุดมไปด้วยสารอาหารกว่า 200 ชนิด ซึ่ง “สฟิงโกไมอีลิน”เป็นองค์ประกอบในการสร้างปลอกไมอีลิน ซึ่งมีผลต่อการทำงานของสมองให้ส่งสัญญาณประสาทได้ไวและประมวลผลอย่างมีประสิทธิภาพ ทำให้เกิดการจดจำเร็ว เรียนรู้ไว สมองของเด็กผ่าคลอดและเด็กที่คลอดตามธรรมชาติ มีการสร้างไมอีลินในสมองแตกต่างกัน โดยเฉพาะที่ส่วนของสมอง ที่ทำหน้าที่เชื่อมโยงระหว่างสมองซีกซ้ายและซีกขวา คุณแม่จึงควรคำนึงถึงจุดเริ่มต้นที่แตกต่าง ของเด็กผ่าคลอดเจนใหม่ ด้วยการเตรียมสมองไวและภูมิคุ้มกันที่ดีด้วย “แอลฟาแล็ค สฟิงโกไมอีลิน” และ บิฟิโดแบคทีเรียม แล็กทิส (B. lactis) จากนมแม่ให้ลูกน้อยยิ่งเริ่มเร็วก็ยิ่งดี เพราะพัฒนาการสมองที่ดีในวัยเด็ก ถือเป็นรากฐานสำคัญ ไม่ว่าจะเป็นการมองเห็น การได้ยิน หรือการเรียนรู้ภาษาสิ่งเหล่านี้ล้วนเกิดจากพัฒนาการของสมองเพราะสมองคือจุดเริ่มต้น ของทุกพัฒนาการของลูกน้อย เตรียมพร้อมเด็กผ่าคลอดให้มีสมองไวและภูมิคุ้มกันที่ดีขึ้นได้ คุณแม่สามารถเติมเต็มในสิ่งที่ลูกน้อยผ่าคลอดต้องการได้ด้วยสารอาหารที่สำคัญอย่างเช่น “แอลฟาแล็ค สฟิงโกไมอีลิน” ที่ช่วยเพิ่มความเร็วในการส่งสัญญาณประสาทได้เร็วและมีประสิทธิภาพมากขึ้น และโพรไบโอติก บิฟิโดแบคทีเรียม แล็กทิส (B. lactis) ตัวช่วยที่ทำให้ลูกน้อยมีภูมิคุ้มกันสุขภาพที่ดี ดังนั้นคุณแม่ก็วางใจได้ หากเราเสริมสร้าง…
3 กันยายน 2568

anal porno zdarma culi nudi al mare free sex videos antalya escort

เราใช้คุกกี้เพื่อพัฒนาประสิทธิภาพ และประสบการณ์ที่ดีในการใช้เว็บไซต์ของคุณ คุณสามารถศึกษารายละเอียดได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และสามารถจัดการความเป็นส่วนตัวเองได้ของคุณได้เองโดยคลิกที่ ตั้งค่า

Privacy Preferences

คุณสามารถเลือกการตั้งค่าคุกกี้โดยเปิด/ปิด คุกกี้ในแต่ละประเภทได้ตามความต้องการ ยกเว้น คุกกี้ที่จำเป็น

Allow All
Manage Consent Preferences
  • Always Active

Save