Parents One

ฮิคิโคโมริ ซินโดรม โรคที่คุณพ่อคุณแม่อาจต้องพบเมื่อลูกเริ่มวิ่งหนีจากสังคม

 

คุณพ่อคุณแม่เคยสงสัยกันไหมคะ ว่าทำไมบางครั้งลูกก็ไม่อยากไปโรงเรียน ไม่อยากพบเจอใคร เอาแต่เก็บตัวอยู่ในห้องเป็นเวลานาน ใช้เวลาอยู่แต่กับสื่อที่มีเช่น เกมส์, การ์ตูน, อินเตอร์เน็ตแบบเกินพอดี ซึ่งระยะเวลาเองก็ไม่ใช่เพียงวัน สองวัน หรือช่วงเวลาในการปิดเทอม แต่เป็นระยะเวลาที่ยาวนานจนผิดปกติ ทั้งยังมีอาการหลีกหนีสังคม ไม่ยอมพบเจอแม้แต่หน้าของตนในบ้าน จะยอมลงมาเจอหรือพูดคุยแค่เรื่องจำเป็นเท่านั้นและหนีกลับขึ้นห้องไปอีกไม่ยอมออกมาเลย ข้าวปลาอาหารก็ต้องเอาขึ้นไปให้ถึงห้อง

หากถึงขั้นนี้เป็นไปได้ว่า เด็กๆ ของเราอาจมีอาการฮิคิโคโมริ ซินโดรมแล้วหรือเปล่า? ไม่ใช่แค่การมีโลกส่วนตัวสูงหรือไม่ชอบการเข้าสังคม

และฮิคิโคโมริ ซินโดรมเป็นอย่างไร ต้องมีอาการระดับไหนจึงจะเรียกว่า ฮิคิโคโมริ

เรามาดูไปด้วยกันเลยค่ะ ถึงลักษณะของอาการและวิธีการแก้ไข

ฮิคิโคโมริ คืออะไร

ฮิคิโคโมริหรือเรียกกันสั้นๆว่า ฮิกกี้ เป็นคำที่ใช้เรียกคนที่ปลีกตนเองออกจากสังคมโดยสิ้นเชิงของคนประเทศญี่ปุ่น เป็นบุคคลที่ไม่ต้องการมีสังคมหรือพูดคุยกับใคร, มีความสนใจเฉพาะทางและหมกมุ่นอยู่กับมันได้เป็นวันๆ ภายในห้องส่วนตัวแต่ระยะเวลาที่อยู่นั้นจะต้องเกิด 6 เดือนขึ้นไปจึงจะเข้าข่ายมีอาการนี้เพราะหากเป็นเพียงแค่ระยะเวลาสั้นหรือเพียงชั่วครั้งชั่วคราว อาจเกิดจากปัญหาด้านอื่นๆ มากกว่าค่ะ

คนที่มีอาการฮิคิโคโมริ จะหลีกเลี่ยงการพบเจอผู้อื่นรึแม้แต่คนในบ้านให้ได้น้อยที่สุดเพราะเขาไม่ต้องการที่จะพูดคุยหรือแลกเปลี่ยนความเห็นอะไร ซึ่งปัจจุบันนั้นมีคนที่เป็นฮิคิโคโมริถึงหลักหลายแสนคนเลยทีเดียวในประเทศทางเอเชียและคิดว่าอาจจะมีแนวโน้มสูงขึ้นไปอีกด้วยความกดดันและการแข่งขันในสังคม

อาการฮิคิโคโมรินั้นแบ่งออกได้เป็น 2 แบบ

 

สาเหตุที่ทำให้เกิดอาการฮิคิโคโมริ

การเป็นฮิคิโคโมรินั้นสามารถเกิดขึ้นได้กับทุกเพศทุกวัย ตั้งแต่เด็กวัยเรียนไปจนถึงวัยทำงานซึ่งหากเกิดอาการขึ้นมาแล้วก็จะทำให้กลับไปอยู่ในสังคมได้ยากด้วยเหตุผลหลายๆ ปัจจัยที่ส่งผลให้อาการนี้กำเริบ และสาเหตุที่ก่อให้เกิดเป็นอาการฮิคิโคโมริก็มีดังนี้

 

จะรู้ได้อย่างไรว่าลูกเป็นฮิคิโคโมริ

การเป็นฮิคิโคโมริหรือฮิกกี้นั้นคือการ ‘หนี’ ออกจากสังคมซึ่งมันจะแตกต่างกันการ ‘นิ่งเฉย’ ต่อสังคมซึ่งการนิ่งเฉยจะคลับคล้ายกับการเป็นคนไม่มีปฏิสัมพันธ์หรือเบื่อการเข้าสังคมมากกว่ารึที่เราเรียกกันติดปากว่าโลกส่วนตัวสูง ในส่วนนั้นสามารถพัฒนาหรือปรับปรุงได้เกี่ยวกับพฤติกรรมแต่อาการฮิคิโคโมรินั้นจะมีความรุนแรงที่ยิ่งกว่าซึ่งหากเด็กๆ ของเรามีอาการในนี้เกินครึ่งก็อาจมั่นใจได้แล้วว่าเขาเป็นฮิกกี้

สิ่งที่คุณพ่อคุณแม่จะต้องแยกให้ออกเกี่ยวกับเรื่องนี้คือ เด็กที่มีโลกส่วนตัวสูงกับเป็นฮิคิโคโมรินั้น แตกต่างกัน ในกรณีของโลกส่วนตัวสูงจะเพียงไม่ชอบออกไปมีสังคมหรือใช้เวลาร่วมกันผู้อื่นแต่ในอาการเหล่านั้นก็ยังสามารถพูดคุยและไม่แสดงอาการต่อต้านอย่างน่ากลัว ต่างกับฮิคิโคโมริที่แม้เพียงพาออกมาจากห้องนอน ก็จะไม่ยอมออกไปเด็ดขาด ข้าวก็ต้องนำไปกินในนั้น

วิธีช่วยให้ลูกหลุดจากอาการฮิคิโคโมริ

หากลองสังเกตแล้วว่าลูกของเรามีอาการหรือเข้าข่าย คุณพ่อคุณแม่หลายๆ ท่านอาจคิดว่าใช้วิธีบังคับ หรือความเป็นผู้ปกครองในการออกคำสั่งจะช่วยให้แก้ได้แต่นั่นกลับจะส่งผลให้ลูกต่อต้านยิ่งกว่าเดิมและอาจลามไปสู่การทำร้ายตัวเองได้ค่ะเพราะอาการฮิคิโคโมริคืออาการเริ่มต้นที่อาจส่งผลไปถึงโรคทางจิตเวชไม่ว่าจะเป็นโรคซึมเศร้า, โรควิตกกังวล, โรคกลัวการเข้าสังคม ดังนั้นวิธีช่วยเหลือให้ลูกของเรากลับมาอยู่ในสังคมได้อีกครั้งควรปฏิบัติตามดังนี้

อาการฮิคิโคโมริเป็นอาการที่เกินจากสภาพแวดล้อมและสังคมทำร้ายจนไม่สามารถทำให้เด็กๆ รู้สึกอยากอยู่ในสังคมที่เป็นแบบนี้ ต้องการที่จะหนไปให้ไกล ดังนั้น นี่ไม่ใช่นิสัยจริงๆ ของลูกแต่เป็นเพียงการสร้างพื้นที่ที่ปลอดภัยสำหรับเขาขึ้นมาก็เท่านั้น คุณพ่อคุณแม่จะต้องใจเย็นและพยายามทำความเข้าใจตัวตนของลูกในจุดนี้ค่ะ เพราะถ้าทำได้รับรองว่าทุกอย่างจะต้องดีขึ้นอย่างแน่นอน

ที่มา : amarinbabyandkids , goodlifeupdateestopolis ,thaichildcare