Parents One

จัดบ้านยังไง ให้ลูกน้อยปลอดภัยและน่าอยู่

เมื่อไหร่ที่มีเจ้าตัวน้อยๆ มาอยู่ในบ้าน นั้นก็แน่นอนว่าทุกบ้านก็ย่อมจะเตรียมพร้อมกับหลายสิ่งอยู่เสมอ เช่นเดียวกับบ้านหรือพื้นที่ที่อยู่อาศัย เราก็ต้องมีการเปลี่ยนแปลงให้เหมาะสมกับเด็กๆ ที่จะเข้ามาอยู่ด้วย การจัดบ้านหรือสภาพแวดล้อมในบ้านเป็นสิ่งที่คุณพ่อคุณแม่ไม่ควรมองข้ามเลยนะคะ นอกจากคุณพ่อคุณแม่เองจะอุ่นใจและดูแลเด็กๆ ได้ง่ายแล้ว ยังเป็นการทำให้เด็กๆ ได้มีพื้นที่ที่เอื้อต่อการเรียนรู้และเติบโต ปลอดภัยอีกด้วย วิธีการง่ายๆ ในการจัดพื้นที่สำหรับลูกน้อยจะเป็นยังไง ไปดูกันเลย

แสงธรรมชาติเป็นแสงที่ดีที่สุด สร้างความสงบให้ผู้ที่อยู่อาศัยและทำให้เด็กๆ รู้สึกถึงความสงบ นอกจากนี้แสงธรรมชาติยังให้พลังแก่เด็กๆ ในการสร้างร่างกายที่แข็งแรง และหล่อเลี้ยงจินตนาการของเด็กๆ ได้ดีกว่าการที่ต้องอยู่ในห้องที่มีแสงที่จัดขึ้นสีจัดจ้าอีกด้วย ยังไงคุณพ่อคุณแม่ควรจัดบ้านให้โปร่งโล่ง สบาย เพื่อให้แสงธรรมชาติเข้ามาในบ้านดูนะคะ

 

เป็นเรื่องที่พบบ่อยนักเรื่องพื้นที่ต่างระดับหรือบันได มักจะเห็นเด็กๆ พลาดตกลงมาอยู่บ่อยครั้ง หากเลือกได้คุณพ่อคุณแม่ควรเลือกบ้านที่มีชั้นเดียวหรือยกระดับบันไดที่ไม่ต้องสูงมาก แต่ถ้าหากมีบ้านอยู่แล้วเป็นบ้านสองชั้นละก็ก็ต้องมีความปลอดภัยระดับนึงนะคะ เช่น วัสดุปูพื้นที่ใช้ไม่ควรลื่น ต้องมีราวกันตก ติดไฟให้สว่างหรือสัญลักษณ์บริเวณบันไดหรือทางต่างระดับให้ชัดเจน และที่สำคัญควรติดตั้งประตูกั้นเด็กบริเวณทางขึ้นลงบันไดก็จะดีมากๆ เลยค่ะ

 

ในความหมายของการจัดบ้านให้โล่งกว้างไม่ได้หมายความว่าไม่เหลืออะไรเลยให้เด็กๆ ได้เรียนรู้ในห้องเลย  แต่ในที่นี้คือ การจัดเฟอร์นิเจอร์และของต่างๆให้เกิดอันตรายน้อยที่สุด เช่นการวางชั้นวางของหรือตู้ให้ชิดผนังไม่ให้ขวางทางเดินหรือเล่นของเด็กๆ  การเลือกตู้หรือชั้นวางที่แข็งแรงพอสมควรไม่โยกเยก หรือการจัดของใช้ที่เป็นอันตรายให้ห่างจากมือเด็กๆ เป็นต้น

 

เนื่องจากสมัยนี้พ่อแม่ทุกคนหรือคนภายในบ้านต่างก็ใช้สิ่งอำนวยความสะดวกกันทั้งนั้น  ไม่ว่าจะเปิดเพลง ดูหนัง ซักผ้า ต่างๆ หรือแม้แต่การทำกับข้าว ซึ่งแน่นอนก็ต้องมีเต้าปลั๊กไฟในการเชื่อมกับเจ้าเครื่องอำนวยความสะดวกเหล่านี้ นี่แหละค่ะ เด็กๆ ซึ่งเป็นวัยกำลังอยากรู้อยากเห็น หากไม่ระวังเด็กๆ เผลอเอามือน้อยๆ ไปแหย่เข้า  เกิดอันตรายถึงชีวิตได้แน่นอน ดังนั้นหากจะแก้ปัญหาคุณพ่อคุณแม่ควรจะหาที่ครอบปลั๊กให้ปลอดภัยจากมือเด็กๆ หรืออาจจะซื้อเต้าปลั๊กไฟควรเลือกที่มีสายดินหรือที่เป็นปลั๊ก 3 ตา เพื่อป้องกันการเกิดไฟรั่วนั้นเอง

 

เด็กๆ ส่วนใหญ่มักชอบปีนป่าย ซุกซนอยู่ตลอดเวลาเพราะเป็นช่วงกำลังซน คุณพ่อคุณแม่บางคนคิดว่าประตูหน้าต่างสูงเกินที่เด็กๆ จะเอื้อมหรือปีนถึงแน่นอน แต่อย่าประมาทในความซุกซนของเด็กๆ เลยค่ะ พวกเขาก็จะหาวิธีต่อจนขึ้นไปเปิดออกจนได้เอง เพราะฉะนั้นคุณพ่อคุณแม่ควรเลือกติดอุปกรณ์กันตก ใส่หน้าต่างบานเกล็ด หรือทำยังไงก็ได้ให้บานหน้าต่างหนักเวลาออกแรงยก ซึ่งปัจจุบันก็มีราวกันตกดีไซน์สวยๆ ที่ทำให้เด็กๆ ไม่สามารถลอดออกไปได้ หรือบานหน้าต่างที่ล็อคไม่ให้ยกสูงขึ้นได้ นั้นเอง

 

น้ำกับเด็กเป็นของคู่กันมากๆ เด็กๆ ส่วนใหญ่จะมีความสุขมากเวลาที่ได้เล่นน้ำ ซึ่งถ้าพูดถึงในบ้านก็คงจะต้องเป็นห้องน้ำที่เด็กๆ จะต้องเข้าไปใช้เล่นน้ำอยู่บ่อยๆ และมักจะหกล้มหรือลื่นอยู่เสมอ อาจจะเป็นอันตรายกับเด็กๆ ได้ วิธีการแก้ง่ายๆ ก็คือ ถ้าพื้นที่ห้องน้ำที่ดีควรแยกโซนแห้งและโซนเปียก หรือถ้าสร้างห้องน้ำไปแล้วก็ควรจะหาวัสดุปูพื้นแบบกันลื่น หรือปูด้วยผ้ายางที่เจาะรูระบายน้ำ ไม่ควรมีพาชนะต่างๆ ที่เด็กๆ สามารถนำมาต่อเพื่อมาปีนขึ้นได้ เช่น  ถังน้ำต่างๆ เพราะไม่อย่างงั้นละก็ เด็กๆ ลื่นล้มเกิดอันตรายได้ง่ายๆ เลย 

 

จริงๆ แล้วเด็กๆ ต้องการพื้นที่เพียงเล็กๆ ในการเล่นเป็นพื้นที่ที่สามารถให้เขาสามารถสำรวจความสามารถของร่างกายของตัวเอง ให้เขาได้เล่นอย่างอิสระโดยไม่ต้องมีผู้ใหญ่ จุดประกายความคิดสร้างสรรค์ ซึ่งพื้นที่เล่นสำหรับเด็กๆ นั้นควรจะมีทั้งภายในและภายนอกบ้าน อาจจะเลือกมุมใดมุมหนึ่งของบ้านจัดให้สำหรับเด็กๆ หรือจะเป็นพื้นที่กลางแจ้งให้เด็กๆ ได้ไปคลุกคลีกับธรรมชาตินอกบ้าน  เด็กๆ จะได้รับความสดชื่นมากๆ เลยทีเดียว แต่ถึงยังไงคุณพ่อคุณแม่ก็ควรจะจัดพื้นที่ให้ปลอดภัย ถ้าเป็นพื้นที่ภายนอกก็ควรจะต้องห่างจากแหล่งน้ำ หรือบ่อน้ำต่างๆ ด้วยนะคะ

 

ที่มา : baanlaesuan,banidea