Parents One

รู้เฟื่องเรื่องวัดไข้ วัดอย่างไรให้ถูกต้อง!

เมื่อลูกน้อยเริ่มตัวร้อน หรือมีอาการไม่สบายเนื้อ ไม่สบายตัว การวัดไข้เป็นด่านแรกที่คุณพ่อคุณแม่ต้องเผชิญ
เชื่อว่าทุกท่านคงประสบปัญหาไม่น้อยกับการวัดไข้ เพราะมีวิธีให้เลือกหลายรูปแบบ มีอุปกรณ์มากมายชวนให้งงไปกันใหญ่ ไหนจะอุณหภูมิของส่วนต่างๆ ในร่างกายที่ไม่เท่ากันอีกต่างหาก
วันนี้ ParentsOne ขอแบ่งปันเกร็ดเล็กเกร็ดน้อย ชวนมาเรียนรู้เรื่องการวัดไข้ไปด้วยกัน เพื่อเตรียมความพร้อมรับมือกับทุกอาการเจ็บป่วยของลูกรักแบบไร้กังวล จะมีอะไรบ้างนั้น ไปดูกันเลยค่ะ

อุณหภูมิปกติ  

เด็กและทารก มักมีอุณหภูมิร่างกายปกติอยู่ที่ 36.6-37.2 องศาเซลเซียส  

เตรียมพร้อมก่อนวัดอุณหภูมิ 

เช่น ออกกำลังกาย รับประทานอาหาร อาบน้ำอุ่น เพราะจะทำให้อุณหภูมิผิดไปจากความจริง หรือหากทำกิจกรรมอยู่ ควรให้ร่างกายได้ผ่อนคลาย 1 ชั่วโมงก่อนแล้วค่อยวัดอุณหภูมิ  

ปรอทแท่งแก้ว : เช็กให้แน่ใจว่าอุณหภูมิเริ่มต้นต่ำกว่า 35 องศาเซลเซียส 

อุปกรณ์ดิจิทัล : เลือกโหมดใช้งานให้ถูกต้องตามวัตถุประสงค์  

การวัดไข้ทางทวารหนัก 

วิธีวัดไข้ : ใช้สารหล่อลื่น เช่น ปิโตรเลียมเจลทาที่วัดอุณหภูมิเพื่อลดการเสียดสี ให้เด็กนอนคว่ำบนพื้นที่ราบ หากไม่ถนัดให้จับเด็กนอนหงาย และยกขาเด็กขึ้นทั้ง 2 ข้าง จากนั้นสอดที่วัดอุณหภูมิเข้าไปทางทวารลึกประมาณ 1.25-2.5 เซนติเมตร ถือค้างเอาไว้ประมาณ 2 นาที หรือหากใช้ที่วัดอุณหภูมิแบบดิจิทัลให้รอจนกว่าสัญญาณจะดัง  

ข้อควรระวัง : เป็นวิธีที่มีความเสี่ยงบาดเจ็บสูง ต้องระมัดระวังอย่างมาก หรือมีผู้เชี่ยวชาญคอยดูแลใกล้ชิด  

 การวัดไข้ทางรักแร้  

วิธีวัดไข้ : สอดที่วัดอุณหภูมิให้ส่วนปลายอยู่บริเวณกึ่งกลางรักแร้ หนีบไว้ประมาณ 3-5 นาที หากเป็นที่วัดอุณหภูมิแบบดิจิทัลให้รอจนกว่าสัญญาณจะดัง  

ข้อควรระวัง : การอ่านค่าที่วัดทางรักแร้จะต่ำกว่าอุณหภูมิที่วัดบริเวณอื่นประมาณ 0.6 องศาเซลเซียส 

การวัดไข้ทางหู  

วิธีวัดไข้ : ใช้เครื่องวัดอุณหภูมิสอดเข้าไปในหูให้ตัวรับอุณหภูมิอยู่ตรงกับรูหู จากนั้นยิงเพื่อวัดอุณหภูมิ ขณะที่วัดไข้ควรดึงใบหูให้ตรง โดยเด็กอายุต่ำกว่า 12 เดือนให้ดึงติ่งหูเอียงไปทางด้านหลัง ส่วนเด็กอายุมากกว่า 12 เดือน ให้ดึงติ่งหูขึ้นด้านบนและเอียงไปทางด้านหลัง  

ข้อควรระวัง : ค่าอาจคลาดเคลื่อนได้ ถ้าใช้กับเด็กเล็ก เพราะรูหูเล็ก หรือมีขี้หูที่ปิดรูหูไว้ 

การวัดไข้ทางปาก  

วิธีวัดไข้ : สอดที่วัดอุณหภูมิให้ส่วนปลายอยู่ใต้ลิ้น และปิดปากให้สนิท รอประมาณ 3-4 นาที หากเป็นที่วัดอุณหภูมิแบบดิจิทัลให้รอจนกว่าสัญญาณจะดัง  

ข้อควรระวัง : เด็กวัยต่ำกว่า 5 ปีอาจอมปรอทไม่เป็น ทำให้เผลอกัด ทำปรอทแตกและก่อให้เกิดอันตรายได้

การวัดไข้ทางหน้าผาก  

วิธีวัดไข้ : ทำความสะอาดบริเวณหน้าผากแล้วนำแถบวัดอุณหภูมิทาบตรงกลางหน้าผาก กดเบาๆ แล้วอ่านผลตัวเลขที่แสดงบนแถบ หรือใช้เครื่องวัดไข้แบบอินฟราเรดที่ไม่ต้องสัมผัสร่างกาย ยิงวัดอุณหภูมิ  

ข้อควรระวัง : มีความแม่นยำน้อยที่สุดเมื่อเทียบกับวิธีอื่น  

ระดับไข้  

อ้างอิงจาก