fbpx

NEWS: สถานการณ์ฉุกเฉิน แนะคนสูงวัย,เด็กเล็กคนมีโรคประจำตัว ควรเก็บตัวอยู่บ้าน

Writer : OttChan
: 26 มีนาคม 2563

เมื่อวันที่ 25 มีนาคม นายกรัฐมนตรีได้ประกาศข้อกำหนดในสถานการ์ฉุกเฉินว่าหากเลี่ยงได้ไม่ควรให้คนสูงอายุ เด็กเล็กอายุไม่ถึง 5 ขวบรวมไปถึงคนที่มีโรคประจำตัวออกจากบ้านหากไม่จำเป็นเพราะในช่วงวัยดังกล่าวมีความสุ่มเสี่ยงที่จะทำให้ติด COVID-19 ได้ง่ายกว่าช่วงอายุอื่นซึ่งกลุ่มที่อยู่ในความเสี่ยงจะประกอบไปด้วย

  • เด็กเล็กที่มีอายุต่ำกว่า 5 ปี
  • ผู้สูงอายุที่มีอายุมากกว่า 70 ปี
  • กลุ่มคนมีโรคประจำตัว อาทิ โรคระบบทางเดินหายใจ, โรคเบาหวาน, โรคหัวใจ, ความดัน, ภูมิแพ้

ในสถานการณ์ฉุกเฉินดังกล่าวจึงขอความร่วมมือให้ออกจากบ้านเท่าที่จำเป็นเช่นออกไปซื้อของ, พบแพทย์, มีธุระเร่งด่วนและจำเป็นจริงๆ ในการออกจากตัวบ้านแต่หากในกรณีมีงานที่จะต้องเข้าร่วมอย่าง งานศพ, งานแต่ง, งานไหว้บรรพบุรุษ ก็ต้องป้องกันตัวให้ดี หลีกเลี่ยงการอยู่อย่างแออัดและสัมผัสกันโดยตรง

ใรส่วนกฏเพิ่มเติมที่ควรรู้เกี่ยวกับประกาศสถานการณ์ฉุกเฉิน

  • ไม่ควรเข้าพื้นที่เสี่ยงติดเชื้อ
  • ปิดสถานที่เสี่ยงในการติดโรคต่างๆ เช่นสนามมวย, ความเด็กเล่น, สถานบันเทิง
  • ปิดช่องทางการเดินทางเข้าออกประเทศ ยกเว้นคณะทูตหรือกลุ่มคนที่ต้องทำงานเกี่ยวกับการขนส่งสินค้า, ต้องมีใบรับรองแพทย์รับรองว่าร่างกายสมบูรณ์
  • ห้ามทำการกักตุนสินค้าเกินจำเป็น
  • ไม่ก่อการชุมนุม
  • ไม่ปล่อยข่าวเท็จหรือนำเสนอข่าวไม่เป็นจริง
  • รพ.เวชภัณฑ์ต้องเตรียมความพร้อมและประชาชนช่วยกันตรวจสอบการกักตัวในกรณีมีคนเข้าข่าย
  • ผู้สูงอายุ, เด็กเล็ก, คนมีโรคประจำตัว ออกจากบ้านเท่าที่จำเป็นเช่นพบแพทย์
  • เข้มงวดการออกวีซ่า
  • ตามเส้นคมนาคมจะมีการตรวจอย่างเคร่งครัดในการสกัดกั้นผู้ป่วย
  • การเดินทางไปต่างจังหวัดไปได้เท่าที่จำเป็นและจะมีการคัดกรองตามมาตรการราชการ
  • งานต่างๆ เช่นไหว้บรรพบุรุษ, งานศพ, งานแต่งยังสามารถจัดได้แต่ต้องมีการป้องกันการติดโรคอย่างเคร่งครัด

อ้างอิงจาก https://news.thaipbs.or.th/content/290228, https://www.matichon.co.th/politics/news_2088617

Writer Profile : OttChan

  • Blog :
  • Social Media :

  • Official Sponsors :
  • Samitivej Hospital

Generic placeholder image

บทความที่เกี่ยวข้อง



Update
Banner Banner
เมื่อคุณแม่หลายท่านเป็นกังวลกับเรื่องพัฒนาการสมองและภูมิคุ้มกันที่แตกต่างกันของลูกน้อยที่ผ่าคลอดกับเด็กคลอดธรรมชาติ กลัวว่าลูกน้อยจะมีโอกาสป่วยง่ายหรือมีพัฒนาการสมองช้ากว่าเพื่อนๆ ทำให้คุณแม่ต้องใส่ใจกับการดูแลลูกน้อยมากยิ่งขึ้น เสมือนการเร่งเสริมสร้างเกราะคุ้มกันให้ลูกน้อยเติบโตพร้อมปรับตัวกับโลกยุคใหม่ที่เต็มไปด้วยการเปลี่ยนแปลง วันนี้เราจะพาไปดูเคล็ดไม่ลับ ฉบับการดูแลพัฒนาการสมองของลูกน้อยและภูมิคุ้มกันของเด็กผ่าคลอดที่คุณแม่ไม่ควรมองข้าม ช่วยเติมเต็มในสิ่งที่ลูกผ่าคลอดต้องการได้ ไปดูกันเลย! เกราะคุ้มกันแรกที่หายไปของเด็กผ่าคลอด เด็กผ่าคลอดมักจะป่วยง่ายหรือมีปัญหาสุขภาพมากกว่าเด็กที่คลอดโดยธรรมชาติ เพราะสูญเสียโอกาสในการได้รับเชื้อจุลินทรีย์สุขภาพ ผ่านทางบริเวณช่องคลอดของคุณแม่ ทำให้เกราะคุ้มกันแรกเกิดของลูกน้อยผ่าคลอดหายไปส่งผลให้เด็กมีพัฒนาการทางระบบภูมิคุ้มกันตั้งต้นช้ากว่าเด็กที่คลอดตามธรรมชาติ บิฟิโดแบคทีเรียม แล็กทิส (B. lactis) เป็นจุลินทรีย์ชนิดดีที่ช่วยเสริมสร้างภูมิคุ้มกันตั้งต้น โดยเฉพาะระบบภูมิคุ้มกันในระบบทางเดินอาหาร คุณแม่จึงต้องเร่งเสริมสร้างเกราะคุ้มกันให้ลูกน้อยมีพื้นฐานที่ดีตั้งแต่เริ่มต้น เพื่อช่วยให้ลูกน้อยของเรามีมีระบบภูมิคุ้มกันที่ดีขึ้น เสริมสร้างพัฒนาการด้านสมองของเด็กผ่าคลอดด้วย “แอลฟาแล็ค สฟิงโกไมอีลิน” “แอลฟาแล็ค สฟิงโกไมอีลิน” คือสารอาหารที่พบมากในนมแม่ เป็นส่วนสำคัญที่ทำให้การทำงานสมองของลูกน้อยมีประสิทธิภาพ สร้างสมองไวกว่าเดิม เชื่อมต่อเซลล์สมอง 1 แสนล้านเซล์ อัพเกรดเด็กเจนใหม่ โดยสร้างสารสื่อประสาทในสมอง และเพิ่มความเร็วการส่งสัญญาณประสาทแบบก้าวกระโดด “สฟิงโกไมอีลิน” คือ ไขมันกลุ่มฟอสโฟไลปิด พบได้มากในน้ำนมแม่ที่อุดมไปด้วยสารอาหารกว่า 200 ชนิด ซึ่ง “สฟิงโกไมอีลิน”เป็นองค์ประกอบในการสร้างปลอกไมอีลิน ซึ่งมีผลต่อการทำงานของสมองให้ส่งสัญญาณประสาทได้ไวและประมวลผลอย่างมีประสิทธิภาพ ทำให้เกิดการจดจำเร็ว เรียนรู้ไว สมองของเด็กผ่าคลอดและเด็กที่คลอดตามธรรมชาติ มีการสร้างไมอีลินในสมองแตกต่างกัน โดยเฉพาะที่ส่วนของสมอง ที่ทำหน้าที่เชื่อมโยงระหว่างสมองซีกซ้ายและซีกขวา คุณแม่จึงควรคำนึงถึงจุดเริ่มต้นที่แตกต่าง ของเด็กผ่าคลอดเจนใหม่ ด้วยการเตรียมสมองไวและภูมิคุ้มกันที่ดีด้วย “แอลฟาแล็ค สฟิงโกไมอีลิน” และ บิฟิโดแบคทีเรียม แล็กทิส (B. lactis) จากนมแม่ให้ลูกน้อยยิ่งเริ่มเร็วก็ยิ่งดี เพราะพัฒนาการสมองที่ดีในวัยเด็ก ถือเป็นรากฐานสำคัญ ไม่ว่าจะเป็นการมองเห็น การได้ยิน หรือการเรียนรู้ภาษาสิ่งเหล่านี้ล้วนเกิดจากพัฒนาการของสมองเพราะสมองคือจุดเริ่มต้น ของทุกพัฒนาการของลูกน้อย เตรียมพร้อมเด็กผ่าคลอดให้มีสมองไวและภูมิคุ้มกันที่ดีขึ้นได้ คุณแม่สามารถเติมเต็มในสิ่งที่ลูกน้อยผ่าคลอดต้องการได้ด้วยสารอาหารที่สำคัญอย่างเช่น “แอลฟาแล็ค สฟิงโกไมอีลิน” ที่ช่วยเพิ่มความเร็วในการส่งสัญญาณประสาทได้เร็วและมีประสิทธิภาพมากขึ้น และโพรไบโอติก บิฟิโดแบคทีเรียม แล็กทิส (B. lactis) ตัวช่วยที่ทำให้ลูกน้อยมีภูมิคุ้มกันสุขภาพที่ดี ดังนั้นคุณแม่ก็วางใจได้ หากเราเสริมสร้าง…
3 กันยายน 2568

anal porno zdarma culi nudi al mare free sex videos antalya escort

เราใช้คุกกี้เพื่อพัฒนาประสิทธิภาพ และประสบการณ์ที่ดีในการใช้เว็บไซต์ของคุณ คุณสามารถศึกษารายละเอียดได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และสามารถจัดการความเป็นส่วนตัวเองได้ของคุณได้เองโดยคลิกที่ ตั้งค่า

Privacy Preferences

คุณสามารถเลือกการตั้งค่าคุกกี้โดยเปิด/ปิด คุกกี้ในแต่ละประเภทได้ตามความต้องการ ยกเว้น คุกกี้ที่จำเป็น

Allow All
Manage Consent Preferences
  • Always Active

Save