ทางฝ่ายรงสัของโรงพยาบาลจุฬา ได้ออกมาบอกว่าการเป็นมะเร็งสมองนั้นไม่ใช่โรคที่พบเจอได้ในผู้ใหญ่แต่กับเด็กแรกเกิดเองไปจนถึงวัยรุ่นก็สามารถเป็นได้ โดยเฉลี่ยแล้วจะเจอเด็กที่เป็นมะเร็งสมอง 200 รายต่อปี ซึ่งเป็นอันดับสองลงมาจากมะเร็งเลือดขาวเลยที่มักพบในเด็กเล็ก โดยโรคมะเร็งสมองนั้น ยังไม่สามารถทราบที่มาได้อย่างแน่ชัดแต่สันนิษฐานว่า สามารถเกิดขึ้นได้จากกรรมพันธุ์ หรือสิ่งแวดล้อมเร้าอย่างการถูกสารกัมมันตรังสีฉายช่วงสันหลังหรือศีรษะ ซึ่งอาการที่สามารถสังเกตได้ว่าเด็กแต่ละวัยอาจเป็นมะเร็งสมอง สามารถสังเกตได้ดังนี้
- เด็กแรกเกิด อาจอาเจียนเรื้อรังไม่มีสาเหตุ, ไม่เติบโตตามพัฒนาการ, ขนาดศีรษะโตเร็วกว่าปกติ การเคลื่อนไหวของดวงตาผิดปกติจนเหมือนตาเหล่
- เด็กช่วงเริ่มเข้าอนุบาล อาเจียนตอนเช้าหลังตื่นนอน, ปวดศีรษะมาก, เดินเซไม่ตรง แขนขาไม่มีแรง
- เด็กช่วงเข้าประถม ปวดหัวเรื้อรังอย่างรุนแรง ติดต่อยาวนาน 6 เดือน, มองเห็นผิดปกติเห็นภาพซ้อนทับ, ปัสสาวะบ่อย หิวน้ำมาก
ซึ่งแนวทางในการรักษานั้น สามารถทำได้ทั้งการผ่าตัด, ฉายรังสี, ทำเคมีบำบัดแต่หลักๆ แล้วหากมีอาการ คุณพ่อคุณแม่ต้องสังเกตอาการและรีบทำการรักษาโดยเร็วเมื่อทราบอาการ เพราะนอกจากการรักษาแล้ว ยังต้องคอยช่วยเหลือและพัฒนาร่างกายกับระบบต่างๆ ที่อาจทำงานได้ไม่เต็มประสิทธิภาพ ให้กลับมาใช้งานได้อย่างเต็มที่หลังการรักษาจบลง
อ้างอิงจาก https://www.pptvhd36.com/health/care/139