นพ.จเด็จ ธรรมธัชอารี เลขาธิการสำนักงานหลักประกันสุขภาพแห่งชาติ (สปสช.) กล่าววว่า การได้ยินเป็นหนึ่งในสัมผัสพื้นฐานที่สำคัญมาก มีการทำงานร่วมกับระบบประสาทและสมอง อีกทั้งยังเป็นจุดเริ่มต้นของการเรียนรู้สิ่งต่างๆ รอบตัว เป็นจุดเริ่มต้นสู่พัฒนาการที่ดีในทุกๆ ด้าน หากสูญเสียการได้ยินก็จะกลายเป็นอุปสรรคต่อการพูด การใช้ภาษา นำสู่ปัญหาในการสื่อสาร การเข้าสังคม และภาวะของจิตใจ ดังนั้น การตรวจคัดกรองการได้ยินจึงมีความสำคัญเพื่อให้ความช่วยเหลือเด็กที่มีความบกพร่องทางการได้ยินได้อย่างทันท่วงที
เมื่อปลายปี 2563 ทางบอร์ดสำนักงานหลักประกันสุขภาพแห่งชาติ (สปสช.) ได้มีมติให้เพิ่มสิทธิประโยชน์การผ่าตัดฝังประสาทหูเทียม หากตรวจคัดกรองแล้วมีปัญหาหูหนวก ในระบบหลักประกันสุขภาพแห่งชาติ หรือบัตรทอง และยังได้บรรจุบริการตรวจคัดกรองการได้ยินเฉพาะในเด็กแรกเกิดกลุ่มเสี่ยงเท่านั้น แต่เมื่อช่วงเดือนที่ผ่านมา ทางที่ประชุมเห็นชอบให้เพิ่มบริการตรวจคัดกรองการได้ยินในเด็กแรกเกิดทุกคนที่มีสัญชาติไทยเป็นสิทธิประโยชน์ในบัตรทอง จะมีผลทันทีในปีงบประมาณ 2565
การตรวจคัดกรองการได้ยินในเด็กแรกเกิดจะทำการคัดกรอง 2 ครั้ง ด้วยเครื่องมือที่เรียกว่า Otoacoustic emissions (OAE) และ Automated Auditory Brainstem Response (AABR) ซึ่งแพทย์จะนำผลตรวจจากทั้ง 2 ครั้งมาวินิจฉัยและรักษาได้ในเบื้องต้น โดยคาดว่าในปีนี้จะมีเด็กแรกเกิดจำนวน 555,200 คน ทางสปสช.จะทำการประสานความร่วมมือกับกระทรวงสาธารณสุขในการเตรียมความพร้อมของระบบคัดกรอง รวมถึงพัฒนาศักยภาพของบุคลากรเพื่อสนับสนุนการบริการอย่างเต็มที่
อ้างอิงจาก https://www.naewna.com/local/670192
