fbpx

NEWS : ผลวิจัยกรมอนามัยชี้ คุณพ่อมีปฏิสัมพันธ์กับลูกน้อย แนะครอบครัวใช้เวลาร่วมกันเพื่อพัฒนาการที่ดีของเด็ก

Writer : Phitchakon
: 10 พฤศจิกายน 2565

นายแพทย์สุวรรณชัย วัฒนายิ่งเจริญชัย อธิบดีกรมอนามัย เปิดเผยผลวิจัยของกรมอนามัยและสำนักงานพัฒนาสุขภาพระหว่างประเทศไทย (IHPP) เรื่อง ความสัมพันธ์ระหว่างพัฒนาการเด็กปฐมวัยกับการมีปฏิสัมพันธ์ในกิจกรรมต่างๆ เช่น การเล่านิทาน ร้องเพลง การทำกิจกรรมนอกบ้านร่วมกับพ่อแม่ และผู้ปกครอง ด้วยการวิเคราะห์ข้อมูลสถานการณ์เด็กและสตรีในประเทศไทยปี 2562 โดยสำนักงานสถิติแห่งชาติ และองค์การยูนิเซฟแห่งประเทศไทย

จากการสัมภาษณ์พ่อแม่ผู้ปกครองเด็กปฐมวัยอายุ 3-4 ปี จำนวน 5,787 คน จาก 17 จังหวัด 4 ภูมิภาค พบว่าเด็กไทยมีปฏิสัมพันธ์ในกิจกรรมร่วมกับพ่อแม่ผู้ปกครองน้อย โดยเฉพาะกับผู้เป็นพ่อ มีเพียงร้อยละ 31 เท่านั้น ในขณะปฏิสัมพันธ์กับแม่อยู่ที่ร้อยละ 58 และคนอื่นๆ ในครอบครัวอยู่ที่ร้อยละ 53 ทั้งที่จริงๆ แล้วการที่เด็กได้มีปฏิสัมพันธ์ทำกิจกรรมร่วมกับพ่อนั้นจะช่วยส่งผลให้เด็กมีพัฒนาการสมวัย 4 ด้าน ทั้งสติปัญญา-ภาษา ร่างกาย อารมณ์-สังคม และการเรียนรู้

การที่ครอบครัวได้ทำกิจกรรมต่างๆ ร่วมกันจะช่วยกระตุ้นให้สมองเกิดการเรียนรู้ เพิ่มหน่วยความจำ และส่งเสริมสติปัญญา รวมถึงความฉลาดทางอารมณ์ และสร้างสายสัมพันธ์ครอบครัวให้แน่นแฟ้นยิ่งขึ้น ซึ่งกรมอนามัยได้มีการสนับสนุนการส่งเสริมพัฒนาการเด็กสำหรับครอบครัว พร้อมกับสำนักงานการสร้างเสริมสุขภาพ (สสส.) องค์การยูนิเซฟประเทศไทย (UNICEF) และกรมส่งเสริมการปกครองท้องถิ่นผ่านแนวคิด 3F  ได้แก่

F : Family มีครอบครัว เพื่อน พ่อแม่ ผู้ปกครอง ผู้ดูแลเด็กคอยสร้างแรงจูงใจในการเล่น

F : Free เปิดโอกาสให้เด็กเล่นอย่างอิสระตามความต้องการ จัดสรรมุมเล่นที่มีความปลอดภัยให้ในทุกๆ สถานที่ เช่น บ้าน โรงเรียน หรือชุมชน

F : Fun เล่นอย่างไรให้มีความสุข มีสื่อ มีของเล่นหลากหลาย เรียบง่ายไม่ซับซ้อน เหมาะสมกับวัยของเด็ก

อ้างอิงจาก thairath.co.th

Writer Profile : Phitchakon

  • Blog :
  • Social Media :

  • Official Sponsors :
  • Samitivej Hospital

Update
Banner Banner
เมื่อคุณแม่หลายท่านเป็นกังวลกับเรื่องพัฒนาการสมองและภูมิคุ้มกันที่แตกต่างกันของลูกน้อยที่ผ่าคลอดกับเด็กคลอดธรรมชาติ กลัวว่าลูกน้อยจะมีโอกาสป่วยง่ายหรือมีพัฒนาการสมองช้ากว่าเพื่อนๆ ทำให้คุณแม่ต้องใส่ใจกับการดูแลลูกน้อยมากยิ่งขึ้น เสมือนการเร่งเสริมสร้างเกราะคุ้มกันให้ลูกน้อยเติบโตพร้อมปรับตัวกับโลกยุคใหม่ที่เต็มไปด้วยการเปลี่ยนแปลง วันนี้เราจะพาไปดูเคล็ดไม่ลับ ฉบับการดูแลพัฒนาการสมองของลูกน้อยและภูมิคุ้มกันของเด็กผ่าคลอดที่คุณแม่ไม่ควรมองข้าม ช่วยเติมเต็มในสิ่งที่ลูกผ่าคลอดต้องการได้ ไปดูกันเลย! เกราะคุ้มกันแรกที่หายไปของเด็กผ่าคลอด เด็กผ่าคลอดมักจะป่วยง่ายหรือมีปัญหาสุขภาพมากกว่าเด็กที่คลอดโดยธรรมชาติ เพราะสูญเสียโอกาสในการได้รับเชื้อจุลินทรีย์สุขภาพ ผ่านทางบริเวณช่องคลอดของคุณแม่ ทำให้เกราะคุ้มกันแรกเกิดของลูกน้อยผ่าคลอดหายไปส่งผลให้เด็กมีพัฒนาการทางระบบภูมิคุ้มกันตั้งต้นช้ากว่าเด็กที่คลอดตามธรรมชาติ บิฟิโดแบคทีเรียม แล็กทิส (B. lactis) เป็นจุลินทรีย์ชนิดดีที่ช่วยเสริมสร้างภูมิคุ้มกันตั้งต้น โดยเฉพาะระบบภูมิคุ้มกันในระบบทางเดินอาหาร คุณแม่จึงต้องเร่งเสริมสร้างเกราะคุ้มกันให้ลูกน้อยมีพื้นฐานที่ดีตั้งแต่เริ่มต้น เพื่อช่วยให้ลูกน้อยของเรามีมีระบบภูมิคุ้มกันที่ดีขึ้น เสริมสร้างพัฒนาการด้านสมองของเด็กผ่าคลอดด้วย “แอลฟาแล็ค สฟิงโกไมอีลิน” “แอลฟาแล็ค สฟิงโกไมอีลิน” คือสารอาหารที่พบมากในนมแม่ เป็นส่วนสำคัญที่ทำให้การทำงานสมองของลูกน้อยมีประสิทธิภาพ สร้างสมองไวกว่าเดิม เชื่อมต่อเซลล์สมอง 1 แสนล้านเซล์ อัพเกรดเด็กเจนใหม่ โดยสร้างสารสื่อประสาทในสมอง และเพิ่มความเร็วการส่งสัญญาณประสาทแบบก้าวกระโดด “สฟิงโกไมอีลิน” คือ ไขมันกลุ่มฟอสโฟไลปิด พบได้มากในน้ำนมแม่ที่อุดมไปด้วยสารอาหารกว่า 200 ชนิด ซึ่ง “สฟิงโกไมอีลิน”เป็นองค์ประกอบในการสร้างปลอกไมอีลิน ซึ่งมีผลต่อการทำงานของสมองให้ส่งสัญญาณประสาทได้ไวและประมวลผลอย่างมีประสิทธิภาพ ทำให้เกิดการจดจำเร็ว เรียนรู้ไว สมองของเด็กผ่าคลอดและเด็กที่คลอดตามธรรมชาติ มีการสร้างไมอีลินในสมองแตกต่างกัน โดยเฉพาะที่ส่วนของสมอง ที่ทำหน้าที่เชื่อมโยงระหว่างสมองซีกซ้ายและซีกขวา คุณแม่จึงควรคำนึงถึงจุดเริ่มต้นที่แตกต่าง ของเด็กผ่าคลอดเจนใหม่ ด้วยการเตรียมสมองไวและภูมิคุ้มกันที่ดีด้วย “แอลฟาแล็ค สฟิงโกไมอีลิน” และ บิฟิโดแบคทีเรียม แล็กทิส (B. lactis) จากนมแม่ให้ลูกน้อยยิ่งเริ่มเร็วก็ยิ่งดี เพราะพัฒนาการสมองที่ดีในวัยเด็ก ถือเป็นรากฐานสำคัญ ไม่ว่าจะเป็นการมองเห็น การได้ยิน หรือการเรียนรู้ภาษาสิ่งเหล่านี้ล้วนเกิดจากพัฒนาการของสมองเพราะสมองคือจุดเริ่มต้น ของทุกพัฒนาการของลูกน้อย เตรียมพร้อมเด็กผ่าคลอดให้มีสมองไวและภูมิคุ้มกันที่ดีขึ้นได้ คุณแม่สามารถเติมเต็มในสิ่งที่ลูกน้อยผ่าคลอดต้องการได้ด้วยสารอาหารที่สำคัญอย่างเช่น “แอลฟาแล็ค สฟิงโกไมอีลิน” ที่ช่วยเพิ่มความเร็วในการส่งสัญญาณประสาทได้เร็วและมีประสิทธิภาพมากขึ้น และโพรไบโอติก บิฟิโดแบคทีเรียม แล็กทิส (B. lactis) ตัวช่วยที่ทำให้ลูกน้อยมีภูมิคุ้มกันสุขภาพที่ดี ดังนั้นคุณแม่ก็วางใจได้ หากเราเสริมสร้าง…
3 กันยายน 2568

anal porno zdarma culi nudi al mare free sex videos antalya escort

เราใช้คุกกี้เพื่อพัฒนาประสิทธิภาพ และประสบการณ์ที่ดีในการใช้เว็บไซต์ของคุณ คุณสามารถศึกษารายละเอียดได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และสามารถจัดการความเป็นส่วนตัวเองได้ของคุณได้เองโดยคลิกที่ ตั้งค่า

Privacy Preferences

คุณสามารถเลือกการตั้งค่าคุกกี้โดยเปิด/ปิด คุกกี้ในแต่ละประเภทได้ตามความต้องการ ยกเว้น คุกกี้ที่จำเป็น

Allow All
Manage Consent Preferences
  • Always Active

Save