fbpx

NEWS : กุมารแพทย์เตือน ภัยหน้าร้อนของเด็ก 0-5 ปี ซัมเมอร์นี้พ่อแม่ไม่ควรมองข้าม

Writer : Jicko
: 17 มีนาคม 2565

หน้าร้อนถือเป็นฤดูกาลของไทยที่เรียกได้ว่าอากาศร้อนซะจนผู้ใหญ่อย่างเรายังแทบจะทนไม่ได้ แต่ฤดูนี้ก็ถือว่า เป็นฤดูของการพาครอบครัวไปเที่ยวและทำกิจกรรมสนุกๆ กับเด็กๆ มากขึ้น แต่ในขณะเดียวกันฤดูร้อนก็เป็นอันตรายกับเด็กๆ ด้วยเช่นกัน

ทำให้ พญ.พรนิภา ศรีประเสริฐกุมารแพทย์ จากเพจ เรื่องเด็กๆ by หมอแอม ให้ข้อมูลเบื้องต้นเกี่ยวกับโรคและอาการต่างๆ ที่อาจกวนใจเจ้าตัวน้อยในช่วงหน้าร้อนว่า “อุณหภูมิที่สูงขึ้นมักจะทำให้เกิดสิ่งที่ไม่พึ่งประสงค์กับเด็กเล็ก อายุ 0- 5 ปี มากที่สุด

เนื่องจากภูมิคุ้มกันของเด็กวัยนี้ยังไม่แข็งแรงนัก มีผิวที่บอบบางและเหงื่อออกง่าย ประกอบกับชอบวิ่งเล่นและคว้าสิ่งของเข้าปากโดยไม่รู้ตัว ซึ่งเป็นสาเหตุที่อาจทำให้เจ็บป่วยได้ง่ายกว่าเด็กในช่วงวัยอื่นๆ ดังนั้น ในช่วงซัมเมอร์นี้ คุณพ่อ-คุณแม่ควรใส่ใจในการดูแลเจ้าตัวน้อยในช่วงวัยนี้เป็นพิเศษ” ไม่ว่าจะเป็น

โรคท้องร่วง ท้องเสีย หรืออุจจาระร่วง 

ที่มักจะเกิดขึ้นจากการที่เราตั้งทิ้งอาหารไว้นานเกินไปที่อุณหภูมิห้องมักบูดเสียได้ง่ายกว่าปกติ เนื่องจากเชื้อแบคทีเรียจะเติบโตได้เร็วในอากาศร้อน หากพ่อแม่ไม่ทราบ อาจทำให้เกิดอาการท้องเสีย ลำไส้อักเสบ หรืออาหารเป็นพิษได้ คุณพ่อ-คุณแม่สามารถป้องกันได้ง่ายๆ โดยการให้ลูกรับประทานอาหารที่ปรุงสุกใหม่ๆ บนภาชนะที่มั่นใจได้ว่าสะอาดปราศจากเชื้อโรค และควรหมั่นทำความสะอาด ไม่ว่าจะเป็นการล้างมือถูสบู่ให้เด็ก หรือเช็ดด้วยผ้าเช็ดทำความสะอาด ก่อนหยิบอาหารเข้าปากทุกครั้ง ซึ่งนอกจากจะช่วยป้องกันสิ่งสกปรกไม่ให้เข้าไปในร่างกายแล้ว ยังช่วยเสริมสร้างนิสัยและสุขอนามัยที่ดีให้ลูกได้อีกด้วย

อาการผดร้อน

ซึ่งผื่นหรือผดเหล่านี้จะดีขึ้นเมื่อเหงื่อแห้ง แต่จะกลับมาเป็นใหม่เมื่ออากาศร้อนและเหงื่อออกอีกดังนั้น ผู้ปกครองจึงควรเลือกเสื้อผ้าที่โปร่งบาง ทำมาจากเส้นใยที่ระบายอากาศได้ง่าย และคอยหาจังหวะให้ลูกหยุดพักจากการเล่นสนุก เพื่อจิบน้ำ และใช้ผ้าชุบน้ำเช็ดเหงื่อ จะเป็นการช่วยลดผดเหงื่อได้ และสำหรับเด็กเล็กที่ต้องใส่ผ้าอ้อม คุณพ่อ-คุณแม่ควรระมัดระวังเป็นพิเศษ เนื่องจากอุณหภูมิของปัสสาวะหรืออุจจาระที่ร้อนอยู่แล้ว เมื่ออบอยู่ในผ้าอ้อมนานๆประกอบกับอากาศร้อนชื้นภายนอก จะทำให้ผ้าอ้อมไม่ระบายอากาศออก ยิ่งทำให้ร้อนและเกิดผดเหงื่อได้มากขึ้น ทางที่ดีคือควรเลือกผ้าอ้อมที่ซึมซับได้ดี มีผิวสัมผัสนุ่มสบายไม่ก่อให้เกิดการเสียดสี และที่สำคัญสามารถระบายอากาศได้ดี เพื่อให้เจ้าตัวน้อยสามารถสนุกสนานกับกิจกรรมกลางแจ้งได้อย่างปลอดภัยไร้กังวล

อ้างอิงจาก : https://www.naewna.com/lady/641784

Writer Profile : Jicko

  • Social Media :

  • Official Sponsors :
  • Samitivej Hospital

Generic placeholder image

บทความที่เกี่ยวข้อง



Update
Banner Banner
เมื่อคุณแม่หลายท่านเป็นกังวลกับเรื่องพัฒนาการสมองและภูมิคุ้มกันที่แตกต่างกันของลูกน้อยที่ผ่าคลอดกับเด็กคลอดธรรมชาติ กลัวว่าลูกน้อยจะมีโอกาสป่วยง่ายหรือมีพัฒนาการสมองช้ากว่าเพื่อนๆ ทำให้คุณแม่ต้องใส่ใจกับการดูแลลูกน้อยมากยิ่งขึ้น เสมือนการเร่งเสริมสร้างเกราะคุ้มกันให้ลูกน้อยเติบโตพร้อมปรับตัวกับโลกยุคใหม่ที่เต็มไปด้วยการเปลี่ยนแปลง วันนี้เราจะพาไปดูเคล็ดไม่ลับ ฉบับการดูแลพัฒนาการสมองของลูกน้อยและภูมิคุ้มกันของเด็กผ่าคลอดที่คุณแม่ไม่ควรมองข้าม ช่วยเติมเต็มในสิ่งที่ลูกผ่าคลอดต้องการได้ ไปดูกันเลย! เกราะคุ้มกันแรกที่หายไปของเด็กผ่าคลอด เด็กผ่าคลอดมักจะป่วยง่ายหรือมีปัญหาสุขภาพมากกว่าเด็กที่คลอดโดยธรรมชาติ เพราะสูญเสียโอกาสในการได้รับเชื้อจุลินทรีย์สุขภาพ ผ่านทางบริเวณช่องคลอดของคุณแม่ ทำให้เกราะคุ้มกันแรกเกิดของลูกน้อยผ่าคลอดหายไปส่งผลให้เด็กมีพัฒนาการทางระบบภูมิคุ้มกันตั้งต้นช้ากว่าเด็กที่คลอดตามธรรมชาติ บิฟิโดแบคทีเรียม แล็กทิส (B. lactis) เป็นจุลินทรีย์ชนิดดีที่ช่วยเสริมสร้างภูมิคุ้มกันตั้งต้น โดยเฉพาะระบบภูมิคุ้มกันในระบบทางเดินอาหาร คุณแม่จึงต้องเร่งเสริมสร้างเกราะคุ้มกันให้ลูกน้อยมีพื้นฐานที่ดีตั้งแต่เริ่มต้น เพื่อช่วยให้ลูกน้อยของเรามีมีระบบภูมิคุ้มกันที่ดีขึ้น เสริมสร้างพัฒนาการด้านสมองของเด็กผ่าคลอดด้วย “แอลฟาแล็ค สฟิงโกไมอีลิน” “แอลฟาแล็ค สฟิงโกไมอีลิน” คือสารอาหารที่พบมากในนมแม่ เป็นส่วนสำคัญที่ทำให้การทำงานสมองของลูกน้อยมีประสิทธิภาพ สร้างสมองไวกว่าเดิม เชื่อมต่อเซลล์สมอง 1 แสนล้านเซล์ อัพเกรดเด็กเจนใหม่ โดยสร้างสารสื่อประสาทในสมอง และเพิ่มความเร็วการส่งสัญญาณประสาทแบบก้าวกระโดด “สฟิงโกไมอีลิน” คือ ไขมันกลุ่มฟอสโฟไลปิด พบได้มากในน้ำนมแม่ที่อุดมไปด้วยสารอาหารกว่า 200 ชนิด ซึ่ง “สฟิงโกไมอีลิน”เป็นองค์ประกอบในการสร้างปลอกไมอีลิน ซึ่งมีผลต่อการทำงานของสมองให้ส่งสัญญาณประสาทได้ไวและประมวลผลอย่างมีประสิทธิภาพ ทำให้เกิดการจดจำเร็ว เรียนรู้ไว สมองของเด็กผ่าคลอดและเด็กที่คลอดตามธรรมชาติ มีการสร้างไมอีลินในสมองแตกต่างกัน โดยเฉพาะที่ส่วนของสมอง ที่ทำหน้าที่เชื่อมโยงระหว่างสมองซีกซ้ายและซีกขวา คุณแม่จึงควรคำนึงถึงจุดเริ่มต้นที่แตกต่าง ของเด็กผ่าคลอดเจนใหม่ ด้วยการเตรียมสมองไวและภูมิคุ้มกันที่ดีด้วย “แอลฟาแล็ค สฟิงโกไมอีลิน” และ บิฟิโดแบคทีเรียม แล็กทิส (B. lactis) จากนมแม่ให้ลูกน้อยยิ่งเริ่มเร็วก็ยิ่งดี เพราะพัฒนาการสมองที่ดีในวัยเด็ก ถือเป็นรากฐานสำคัญ ไม่ว่าจะเป็นการมองเห็น การได้ยิน หรือการเรียนรู้ภาษาสิ่งเหล่านี้ล้วนเกิดจากพัฒนาการของสมองเพราะสมองคือจุดเริ่มต้น ของทุกพัฒนาการของลูกน้อย เตรียมพร้อมเด็กผ่าคลอดให้มีสมองไวและภูมิคุ้มกันที่ดีขึ้นได้ คุณแม่สามารถเติมเต็มในสิ่งที่ลูกน้อยผ่าคลอดต้องการได้ด้วยสารอาหารที่สำคัญอย่างเช่น “แอลฟาแล็ค สฟิงโกไมอีลิน” ที่ช่วยเพิ่มความเร็วในการส่งสัญญาณประสาทได้เร็วและมีประสิทธิภาพมากขึ้น และโพรไบโอติก บิฟิโดแบคทีเรียม แล็กทิส (B. lactis) ตัวช่วยที่ทำให้ลูกน้อยมีภูมิคุ้มกันสุขภาพที่ดี ดังนั้นคุณแม่ก็วางใจได้ หากเราเสริมสร้าง…
3 กันยายน 2568

anal porno zdarma culi nudi al mare free sex videos antalya escort

เราใช้คุกกี้เพื่อพัฒนาประสิทธิภาพ และประสบการณ์ที่ดีในการใช้เว็บไซต์ของคุณ คุณสามารถศึกษารายละเอียดได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และสามารถจัดการความเป็นส่วนตัวเองได้ของคุณได้เองโดยคลิกที่ ตั้งค่า

Privacy Preferences

คุณสามารถเลือกการตั้งค่าคุกกี้โดยเปิด/ปิด คุกกี้ในแต่ละประเภทได้ตามความต้องการ ยกเว้น คุกกี้ที่จำเป็น

Allow All
Manage Consent Preferences
  • Always Active

Save