fbpx

NEWS : แพทย์เตือน เด็กนอนดึกเสี่ยงตัวเตี้ย ไม่ใช่คำขู่แต่มีผลต่อการเจริญเติบโตจริง

Writer : Jicko
: 14 กันยายน 2565

แม่ๆ หลายคนคงเคยได้ยินคำว่า “นอนดึกระวังตัวเตี้ย” ซึ่งคำนี้ดูเหมือนจะเป็นคำหลอกเด็ก แต่ที่จริงแล้วมีผลต่อการเจริญเติบโตจริงๆ

ซึ่งแพทย์หญิง ปราญชลี ศรีกาญจนวัชร แพทย์ผู้ชำนาญการด้านกุมารเวชศาสตร์ เฉพาะทางต่อมไร้ท่อมและเมตาบอลิซึม โรงพยาบาลเวิลด์เมดิคอล (WMC) ระบุว่า Growth Hormone คือ ฮอร์โมนสำคัญที่ถูกผลิตและหลั่งออกมาจากต่อมใต้สมองส่วนหน้า ร่างกายผลิตขึ้นเพื่อกระตุ้นให้เกิดการสร้างและซ่อมแซมเนื้อเยื่อต่างๆของร่างกายขณะที่มีการนอนหลับ โดย Growth Hormone จะมีการหลั่งปริมาณที่สูงในช่วงเวลา 22.00-02.00 น. และเริ่มหลั่งครั้งแรกใน 1.5-3.5 ชั่วโมงหลังจากเริ่มหลับสนิท ดังนั้น หากเด็กนอนหลับไม่สนิทหรือหลับช้ากว่าเที่ยงคืนร่างกายจะหลั่ง Growth Hormone ออกมาปริมาณที่น้อยกว่าปกติ

Growth hormone ปริมาณที่เหมาะสมจะทำให้เด็กเจริญเติบโตสมวัย การสร้างกระดูกและกล้ามเนื้อสมบูรณ์แข็งแรง นอกจากนี้การเจริญเติบโตที่สมวัยยังต้องอาศัยปัจจัยอื่นนอกจาก Growth Hormone ร่วมด้วย ได้แก่ พันธุกรรมจากพ่อแม่ ภาวะโภชนาการที่เหมาะสม และการออกกำลังกายที่สม่ำเสมอ

หากขาด Growth Hormone ร่างกายจะเป็นอย่างไร ?

  • ส่วนสูงเตี้ยกว่าเด็กวัยเดียวกันและเตี้ยกว่าเกณฑ์พันธุกรรม หากอาการรุนแรงอาจพบความสูงต่ำกว่าเปอร์เซ็นไทล์ที่ 3 ของกลุ่มประชากร
  • ลักษณะของศีรษะและใบหน้าเจริญผิดปกติ เสียงเล็กแหลม
  • ในเด็กชายอาจมีอวัยวะเพศเล็กไม่สมวัย
  • มวลกล้ามเนื้อและความหนาแน่นของกระดูกลดลง
  • ภาวะอ้วนลงพุง
  • น้ำตาลในเลือดต่ำ
  • หากสาเหตุเกิดจากเนื้องอกบริเวณต่อมใต้สองอาจมีอาการปวดศีรษะร่วมกับการมองเห็นที่ผิดปกติ

คำแนะนำสำหรับผู้ปกครอง เพื่อการเจริญเติบโตที่สมวัยของลูก

  • พาไปพบแพทย์ตามนัดเป็นประจำเพื่อวัดความสูง ชั่งน้ำหนัก วัดความยาวรอบศีรษะ คุณหมอจะบันทึกผลในกราฟการเจริญเติบโตให้ในสมุดประจำตัว
  • พาลูกเข้านอนตั้งแต่ 21.00-22.00 และก่อนนอนควรงดดูหน้าจอโทรศัพท์ แท็บเล็ตต่างๆ ก่อนเข้านอนเป็นเวลา 1-2 ชั่วโมง
  • จัดอาหารที่เหมาะสมตามวัย ปริมาณเพียงพอและคุณค่าทางอาหารครบ 5 หมู่
  • หากิจกรรมให้เล่นตามวัย พาออกกำลังกายอย่างสม่ำเสมอ

 

อ้างอิงจาก : แพทย์หญิง ปราญชลี ศรีกาญจนวัชร แพทย์ผู้ชำนาญการด้านกุมารเวชศาสตร์ เฉพาะทางต่อมไร้ท่อมและเมตาบอลิซึม โรงพยาบาลเวิลด์เมดิคอล (WMC)

Writer Profile : Jicko

  • Social Media :

  • Official Sponsors :
  • Samitivej Hospital

Generic placeholder image

บทความที่เกี่ยวข้อง



Update
Banner Banner
เมื่อคุณแม่หลายท่านเป็นกังวลกับเรื่องพัฒนาการสมองและภูมิคุ้มกันที่แตกต่างกันของลูกน้อยที่ผ่าคลอดกับเด็กคลอดธรรมชาติ กลัวว่าลูกน้อยจะมีโอกาสป่วยง่ายหรือมีพัฒนาการสมองช้ากว่าเพื่อนๆ ทำให้คุณแม่ต้องใส่ใจกับการดูแลลูกน้อยมากยิ่งขึ้น เสมือนการเร่งเสริมสร้างเกราะคุ้มกันให้ลูกน้อยเติบโตพร้อมปรับตัวกับโลกยุคใหม่ที่เต็มไปด้วยการเปลี่ยนแปลง วันนี้เราจะพาไปดูเคล็ดไม่ลับ ฉบับการดูแลพัฒนาการสมองของลูกน้อยและภูมิคุ้มกันของเด็กผ่าคลอดที่คุณแม่ไม่ควรมองข้าม ช่วยเติมเต็มในสิ่งที่ลูกผ่าคลอดต้องการได้ ไปดูกันเลย! เกราะคุ้มกันแรกที่หายไปของเด็กผ่าคลอด เด็กผ่าคลอดมักจะป่วยง่ายหรือมีปัญหาสุขภาพมากกว่าเด็กที่คลอดโดยธรรมชาติ เพราะสูญเสียโอกาสในการได้รับเชื้อจุลินทรีย์สุขภาพ ผ่านทางบริเวณช่องคลอดของคุณแม่ ทำให้เกราะคุ้มกันแรกเกิดของลูกน้อยผ่าคลอดหายไปส่งผลให้เด็กมีพัฒนาการทางระบบภูมิคุ้มกันตั้งต้นช้ากว่าเด็กที่คลอดตามธรรมชาติ บิฟิโดแบคทีเรียม แล็กทิส (B. lactis) เป็นจุลินทรีย์ชนิดดีที่ช่วยเสริมสร้างภูมิคุ้มกันตั้งต้น โดยเฉพาะระบบภูมิคุ้มกันในระบบทางเดินอาหาร คุณแม่จึงต้องเร่งเสริมสร้างเกราะคุ้มกันให้ลูกน้อยมีพื้นฐานที่ดีตั้งแต่เริ่มต้น เพื่อช่วยให้ลูกน้อยของเรามีมีระบบภูมิคุ้มกันที่ดีขึ้น เสริมสร้างพัฒนาการด้านสมองของเด็กผ่าคลอดด้วย “แอลฟาแล็ค สฟิงโกไมอีลิน” “แอลฟาแล็ค สฟิงโกไมอีลิน” คือสารอาหารที่พบมากในนมแม่ เป็นส่วนสำคัญที่ทำให้การทำงานสมองของลูกน้อยมีประสิทธิภาพ สร้างสมองไวกว่าเดิม เชื่อมต่อเซลล์สมอง 1 แสนล้านเซล์ อัพเกรดเด็กเจนใหม่ โดยสร้างสารสื่อประสาทในสมอง และเพิ่มความเร็วการส่งสัญญาณประสาทแบบก้าวกระโดด “สฟิงโกไมอีลิน” คือ ไขมันกลุ่มฟอสโฟไลปิด พบได้มากในน้ำนมแม่ที่อุดมไปด้วยสารอาหารกว่า 200 ชนิด ซึ่ง “สฟิงโกไมอีลิน”เป็นองค์ประกอบในการสร้างปลอกไมอีลิน ซึ่งมีผลต่อการทำงานของสมองให้ส่งสัญญาณประสาทได้ไวและประมวลผลอย่างมีประสิทธิภาพ ทำให้เกิดการจดจำเร็ว เรียนรู้ไว สมองของเด็กผ่าคลอดและเด็กที่คลอดตามธรรมชาติ มีการสร้างไมอีลินในสมองแตกต่างกัน โดยเฉพาะที่ส่วนของสมอง ที่ทำหน้าที่เชื่อมโยงระหว่างสมองซีกซ้ายและซีกขวา คุณแม่จึงควรคำนึงถึงจุดเริ่มต้นที่แตกต่าง ของเด็กผ่าคลอดเจนใหม่ ด้วยการเตรียมสมองไวและภูมิคุ้มกันที่ดีด้วย “แอลฟาแล็ค สฟิงโกไมอีลิน” และ บิฟิโดแบคทีเรียม แล็กทิส (B. lactis) จากนมแม่ให้ลูกน้อยยิ่งเริ่มเร็วก็ยิ่งดี เพราะพัฒนาการสมองที่ดีในวัยเด็ก ถือเป็นรากฐานสำคัญ ไม่ว่าจะเป็นการมองเห็น การได้ยิน หรือการเรียนรู้ภาษาสิ่งเหล่านี้ล้วนเกิดจากพัฒนาการของสมองเพราะสมองคือจุดเริ่มต้น ของทุกพัฒนาการของลูกน้อย เตรียมพร้อมเด็กผ่าคลอดให้มีสมองไวและภูมิคุ้มกันที่ดีขึ้นได้ คุณแม่สามารถเติมเต็มในสิ่งที่ลูกน้อยผ่าคลอดต้องการได้ด้วยสารอาหารที่สำคัญอย่างเช่น “แอลฟาแล็ค สฟิงโกไมอีลิน” ที่ช่วยเพิ่มความเร็วในการส่งสัญญาณประสาทได้เร็วและมีประสิทธิภาพมากขึ้น และโพรไบโอติก บิฟิโดแบคทีเรียม แล็กทิส (B. lactis) ตัวช่วยที่ทำให้ลูกน้อยมีภูมิคุ้มกันสุขภาพที่ดี ดังนั้นคุณแม่ก็วางใจได้ หากเราเสริมสร้าง…
3 กันยายน 2568

anal porno zdarma culi nudi al mare free sex videos antalya escort

เราใช้คุกกี้เพื่อพัฒนาประสิทธิภาพ และประสบการณ์ที่ดีในการใช้เว็บไซต์ของคุณ คุณสามารถศึกษารายละเอียดได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และสามารถจัดการความเป็นส่วนตัวเองได้ของคุณได้เองโดยคลิกที่ ตั้งค่า

Privacy Preferences

คุณสามารถเลือกการตั้งค่าคุกกี้โดยเปิด/ปิด คุกกี้ในแต่ละประเภทได้ตามความต้องการ ยกเว้น คุกกี้ที่จำเป็น

Allow All
Manage Consent Preferences
  • Always Active

Save