Parents One

เลือกโรงเรียนอนุบาลให้ลูกอย่างไร ถึงจะตอบโจทย์การเรียนรู้ในศตวรรษที่ 21

เพราะพื้นฐานการเรียนรู้และการเข้าสังคมที่ดีเริ่มต้นจากชั้นอนุบาล การเลือกโรงเรียนให้ลูกในศตวรรษที่ 21 จึงเป็นเรื่องยากสำหรับคุณพ่อคุณแม่หลายๆ ท่าน ที่ต้องใช้เวลาในการตัดสินใจ พร้อมกับคอยรวบรวมข้อมูลต่างๆ อีกมากมาย วันนี้ Parents One มีเคล็ดลับดีๆ ในการเลือกโรงเรียนอนุบาลให้ลูกที่ตอบโจทย์การเรียนรู้ในศตวรรษที่ 21 มาฝากกันค่ะ

โรงเรียนอนุบาลเด่นหล้า เพชรเกษม จากโรงเรียนเล็ก ๆ มีเพียง 3 ห้อง นักเรียน 17 คน เปิดการสอนครั้งแรกในปี พ.ศ. 2522 ปัจจุบันมีนักเรียน 1,000 กว่าคน คุณครูผู้เชี่ยวชาญกว่า 100 คน เรียกได้ว่าเป็นโรงเรียนอนุบาลที่มีครูผู้ชำนาญการ มีประสบการณ์การสอนมากที่สุดแห่งอันดับต้น ๆ เลยก็ว่าได้

 

“กิจกรรมตอนเช้า ก่อนเข้าเรียนมีส่วนทำให้เด็กตื่นตัว และพร้อมที่จะเรียน”

ทุกเช้า เวลา 8.10 น. ที่อนุบาลเด่นหล้า เพชรเกษม นักเรียนจะได้ร่วมกิจกรรมหน้าเสาธง โดยจะมีกิจกรรมที่สนุกหลากหลายไม่ซ้ำกันในแต่ละวัน นอกจากเด็กจะได้ความสนุกผ่านกิจกรรมต่าง ๆ แล้ว ยังเป็นการฝึกความมีระเบียบวินัย และเตรียมความพร้อมก่อนเข้าชั้นเรียน อีกทั้งยังมีการส่งเสริมความกล้าแสดงผ่านกิจกรรมด้วย

 

“อนุบาลเด่นหล้า เพชรเกษมให้ความสำคัญเรื่องพัฒนาการช่วง 6 ปีแรก”

การสร้างประสบการณ์ที่ดีในช่วง 6 ปีแรก เป็นเรื่องที่อนุบาลเด่นหล้าให้ความสำคัญมาก เพราะถ้าเด็กมีพื้นฐานที่ดีตั้งแต่ตอนนี้ เขาจะเติบโตขึ้นไปเป็นผู้ใหญ่ที่มีคุณภาพ อนุบาลเด่นหล้าจึงมุ่งเน้นเรื่องการส่งเสริมพัฒนาการ 4 ด้าน ร่างกาย อารมณ์ สังคม สติปัญญา เพราะเชื่อว่าสิ่งเหล่านี้คือพื้นฐานสำคัญในการต่อยอดทักษะอื่น ๆ จึงเป็นที่มาของการจัดตารางเวลาเรียนต่อสัปดาห์โดยคำนึงถึงความสมดุลในการพัฒนาทักษะให้ครบทั้ง 4 ด้าน

 

“อนุบาลเด่นหล้า ให้ความสำคัญเรื่องภาษาอังกฤษอย่างมาก”

การออกแบบหลักสูตรภาษาอังกฤษที่อนุบาลเด่นหล้า แบ่งตามช่วงวัย ซึ่งการสอนจะเน้นที่กิจกรรมเป็นหลัก ถ้าครูไทยสอนจะเน้นเรื่องอ่านและเขียน ถ้าเป็นครูต่างชาติจะเน้นเรื่องการฟังและพูด ใช้สื่อการสอนทั้งแบบปฐมภูมิและทุติยภูมิ และมีการนำเทคโนโลยีเข้ามาเป็นตัวช่วย ซึ่งสื่อสมัยใหม่นี้มีผลอย่างมากต่อการเรียนของเด็ก เพราะมีทั้งภาพและเสียงช่วยสร้างความอยากรู้ อยากเห็น จนเกิดการเรียนรู้  แบ่งการสอนออกเป็น 2 รูปแบบ

✅D.E.P Denla English Program จะเรียน 120 นาทีต่อวัน หรือ 4 คาบต่อวัน สอนโดยครูต่างชาติ

✅D.I.P เด่นหล้าหลักสูตรบูรณาการ จะเรียนวันละ 30 นาทีต่อวัน หรือ 1 คาบต่อวัน สอนโดยครูต่างชาติ

 

“หลักสูตรด้านวิชาการ”

เนื่องจากนักเรียนอนุบาล 3 จำนวน  80-90 % ที่จบจากเราแล้วต้องไปสู่ระบบโรงเรียนประถมชั้นนำที่มีหลักสูตรมุ่งเน้นการอ่านออกเขียนได้  มีทักษะภาษาที่ดีมาแล้วในระดับหนึ่ง เด็กต้องจดงานเป็น  ต้องรับผิดชอบการบ้านได้ อ่านเนื้อหาที่เป็นเล่มตำราต่าง ๆ ได้ เราก็จะฝึกฝน ปลูกฝังคุณลักษณะเหล่านี้ให้เกิดกับเด็กของเรา โดยนำหลักสูตรโรงเรียนประถมชั้นนำต่าง ๆ มาผนวกกับหลักสูตรปฐมวัย มาสร้างเป็นหลักสูตรเฉพาะของอนุบาลเด่นหล้า เป็นการเชื่อมต่อที่ลงตัว ก่อให้เกิดเป็นความได้เปรียบเพื่อการต่อยอดความรู้ได้ทันทีของนักเรียนที่จบจากเราไป ไม่เป็นภาระให้กับครูและผู้ปกครอง

และที่สำคัญคือระหว่างเรียนนั้น เด็ก ๆ ไม่มีความเครียดใด ๆ เลยตามที่หลายฝ่ายเข้าใจ เพราะครูเราส่วนใหญ่มีความเชี่ยวชาญและมีประสบการณ์ในการคิดค้นวิธีการใหม่ ๆ ที่นำมาจัดรูปแบบการเรียนการสอนให้เข้ากับเด็กแต่ละรุ่นที่มีความแตกต่างกันในแต่ละปี ครูถือว่าเป็นโอกาสที่ดีสำหรับนักเรียนและผู้ปกครอง เพราะเมื่อตัดกังวลเรื่องการอ่านออกเขียนได้ไปแล้ว เด็ก ๆ ก็จะมีเวลาเหลือพอ ที่จะนำไปค้นหาตัวเองที่เป็นความชอบหรือความถนัดได้เร็วขึ้น  ซึ่งเป็นสิ่งจำเป็นมากสำหรับเด็กในยุคศตวรรษที่ 21

 

“เน้นในเรื่องทักษะการใช้ชีวิต”

เป็นสิ่งที่มีความสำคัญมากในช่วงเปลี่ยนผ่านไปสู่วัยประถม การฝึกให้เด็กมีความเป็นผู้นำ กล้าแสดงออก รู้จักช่วยเหลือตัวเอง  แต่งตัวได้ ผูกเชือกรองเท้าเป็น  รู้จักปฏิบัติกิจวัตรประจำวันได้  ตื่นเช้า กลับบ้านรับผิดชอบทำการบ้านเอง มีความรับผิดชอบนำงานที่ครูมอบหมายไปทำได้สำเร็จ ล้วนแล้วแต่เป็นสิ่งที่เด็กต้องไปประสบพบเจอทั้งสิ้น

สิ่งเหล่านี้เด็กอนุบาล 3 ล้วนแล้วแต่ได้รับการซึมซับปลูกฝังให้มีมาอย่างสม่ำเสมอ พอถึงช่วงที่จะต้องเข้าสู่สนามการคัดเลือกของโรงเรียนประถม ที่บางโรงมีการคัดเลือก โดยนำคุณสมบัติหล่านี้มาเป็นเกณฑ์พิจารณา เด็กเราก็จะนำประสบการณ์ที่เคยได้รับมาใช้ มีความเชื่อมั่น สามารถทำได้ ไม่ตื่นสนาม ผลสถิติที่ผ่านมาเด็กของเราทำได้ดีและเป็นกลุ่มที่ถูกคัดเลือกเข้าไปได้มากที่สุดกว่าทุกโรง

 

“กระบวนการเตรียมความพร้อมให้เด็ก ก่อนเข้าชั้นประถมศึกษา”

การเตรียมความพร้อมที่อนุบาลเด่นหล้า เพชรเกษม เริ่มตั้งแต่ก้าวแรกที่แรกรับเข้ามาเลย จะเห็นได้ว่าเราเตรียมความพร้อมตั้งแต่อนุบาล โดยจะแบ่งตามช่วงอายุ กิจกรรมจึงเป็นไปตามวัยของเด็ก โดยมีครูผู้สอน ผู้เชี่ยวชาญในแต่ละระดับ จุดเด่นของเด่นหล้าคือการคัดคุณครูที่เหมาะสมในแต่ละระดับชั้นมาสอน จะเห็นว่าครูอนุบาล 3 อายุโดยเฉลี่ยของครูจะค่อนข้างมากกว่าระดับชั้นอื่น เพราะเด็กวัยนี้ต้องเน้นทักษะในหลาย ๆ ด้าน โดยเฉพาะทางด้านวิชาการ วิชาการในที่นี่ไม่ได้หมายความว่าเด็กที่มาเรียนเด่นหล้าจะต้องนั่งเรียนจนหัวโต แต่ด้วยบริบทเด็กเราจะต้องถูกส่งไปโรงเรียนที่มุ่งเน้นวิชาการ 80%

ครูตุ่น ครูวันทนา มูลทองน้อย หัวหน้าสายอนุบาล 3 ที่มีประสบการณ์มากว่า 25 ปี ขยายความว่า “ความพร้อมของนักเรียนสำหรับครูแล้วถ้าให้คำนิยามนักเรียนของเรา ที่กำลังจะจบอนุบาล 3 ก็คือ ความพร้อมของนักเรียนที่จะก้าวไปสู่ระดับชั้นประถมได้อย่างดีเยี่ยมในทุกมิติ ไม่ว่าจะเป็นความพร้อมด้านวิชาการ ความพร้อมด้านทักษะชีวิต และความเป็นอัตลักษณ์ตัวตน เฉพาะของนักเรียนอนุบาลเด่นหล้า ที่ไม่เหมือนใครและไม่มีใครเหมือน สิ่งสุดท้ายที่ครูอยากจะบอกในวันนี้คือ การเตรียมความพร้อมให้กับนักเรียนเด่นหล้านั้น ไม่ใช่แค่เตรียมทำให้เด็กสอบได้ในโรงเรียนที่ผู้ปกครองคาดหวัง เพียงเท่านั้น แต่ด้วยปณิธานและความมุ่งมั่นของโรงเรียนนี้คือเรากำลังเตรียมความพร้อมเพื่อการสร้างผู้นำที่ดีในอนาคตให้กับประเทศชาติ นั่นเองค่ะ

 

“อัตลักษณ์ของเด็กเด่นหล้า”

เครื่องหมายการันตีความพร้อม ยืนยันความเป็นตัวตนของนักเรียนเด่นหล้าเราก็ คือ “Smart Skills” เด็กเด่นหล้าถูกหลอมรวมให้มีพื้นฐาน ระบบความคิดที่ดี  วิเคราะห์เป็น  แยกแยะสิ่งต่าง ๆ ได้ เลือกที่จะทำหรือไม่ทำอะไร อย่างมีเหตุมีผล มีความยืดหยุ่นในตนเอง สามารถทำงานร่วมกับผู้อื่นได้อย่างมีความสุขและให้คุณค่าแก่ตัวเองอยู่เสมอ

สำคัญที่สุด คือ ต้องมีพื้นฐานด้านคุณธรรมที่ดี นับว่าเป็นเรื่องท้าทายครู อย่างพวกเราเป็นอย่างมาก  เพราะเด็กมาจากครอบครัวที่หลากหลาย แต่ละครอบครัวมีวิธีการเลี้ยงดูที่ต่างกัน ทำอย่างไรที่จะทำให้เด็กที่มาเรียนกับเราเป็นไปในแบบที่คาดหวัง

แน่นอนหนึ่งในวิธีการนั้นก็คือการสื่อสารทำความเข้าใจกับครอบครัว ดึงผู้ปกครองเข้ามามีส่วนร่วมในการจัดกิจกรรมของโรงเรียนทุกครั้งที่มีโอกาส ทั้งนี้ก็เพื่อให้ผู้ปกครองได้ตระหนักรับรู้และร่วมพัฒนาลูกไปพร้อมกับครูและโรงเรียนนั่นเอง

ฉะนั้นภารกิจนี้จึงเป็นหน้าที่หลักของครูทุกคน  ทุกระดับในเด่นหล้า เด็กจะดีและประสบความสำเร็จได้   ต้นแบบต้องดี  สิ่งแวดล้อมต้องเอื้อ  ครอบครัวต้องสนับสนุน  Smart Skills”  จึงได้มีขึ้นกับเด็กทุกคนของเด่นหล้า ซึ่งครูเชื่อมั่นว่า “โรงเรียนอนุบาลเด่นหล้า”  มีครบทุกองค์ประกอบสำคัญ

“โรงเรียนอนุบาลเด่นหล้า” ถือเป็นตัวเลือกหนึ่งของโรงเรียนอนุบาลเด็กที่มีคุณภาพ และเด็กที่จบไปก็มีทักษะการเรียนรู้ที่ดีอีกด้วย สุดท้ายนี้ คุณพ่อคุณแม่ควรตระหนักถึงความชอบของลูกเป็นหลักว่าเขาชอบเรียนแบบไหน เราก็ควรเลือกโรงเรียนที่สนับสนุนในสิ่งที่ลูกชอบมากกว่าที่เราชอบนั่นเองค่ะ ลองพาเจ้าตัวเล็กมาเรียนรู้ และฝึกทักษะต่างๆ กันที่นี่นะคะ