ดูแลคนเก่งด้วยหลัก 4R ช่วยให้เกิด EF!

คงเป็นที่รู้กันว่า การพัฒนา EF สำหรับเด็กเล็กนั้นคือเรื่องสำคัญในช่วยให้ลูกของเรามีพัฒนาการที่ดีเยี่ยมใช่มั้ยคะ ยิ่งเรื่องการตัดสินใจ, การคิดวิเคราะห์ต่างๆ ยิ่งได้รับการพัฒนา EF มากก็ยิ่งช่วยให้ลูกเป็นคนประสบความสำเร็จในชีวิต แต่ทว่าหลายๆ บ้าน คุณพ่อคุณแม่อาจยังพบปัญหาว่าจะสอนอย่างไรให้ไม่ดูเป็นการยัดเยียดให้เจ้าตัวเล็กรีบโต รีบมีความคิดแบบผู้ใหญ่ รึบางทีอาจจะดื้อมากจนปราบไม่ลง

เราเลยจะมาแนะนำหลักการปฏิบัติง่ายๆ เพื่อเสรอมสร้างให้ลูกมี EF ได้อย่างธรรมชาติ โดยไม่ต้องบังคับกันเลยค่ะซึ่งนั่นเรียกว่า หลัก 4R นั่นเอง ซึ่งจะเป็นอย่างไรนั้น มาดูกัน!

EF คืออะไร

หลัก EF หรือชื่อเต็มๆ คือ Executive Functions หรือหลักทักษะการบริหารจัดการตนเองซึ่งการพัฒนาการ EF คือการพัฒนาความคิดของสมองส่วนหน้าที่ทำหน้าที่เกี่ยวกับการตัดสินใจ, ความรู้สึก และการกระทำ เมื่อเด็กมี EF สูงก็จะช่วยให้เขามีพัฒนาการด้านความคิด, การตัดสินใจที่ดี ส่งผลต่อพัฒนาการให้ตัดสินใจได้อย่างเฉียบแหลม, มีความคิดสร้างสรรค์ และเชื่อมัน่ในตนเอง

หลัก 4R มีอะไรบ้าง

1R การให้เกียรติลูก ( Respect)

อย่างแรกเลยที่คนเป็นพ่อแม่ต้องทำคือ ทำให้เห็นว่าเราให้เกียรติ และสนใจเขาอยู่เสมอ เมื่อเราทำให้ลูกรู้สึกว่าเราเคารพในความเป็นเขา เขาก็จะเรียนรู้การให้เกียรติคนอื่นเช่นกัน ซึ่งวิธีให้เกียรตินั้นทำได้ง่ายมากๆ อย่างการไม่ใช้วิธีตะโกนสั่งรึบอกแต่เลือกจะเข้าถึงตัวเพื่อพูดคุยให้เข้าใจ อย่างเรียกไปอาบน้ำ, เรียกกินข้าว ควรเข้าถึงตัวและพูดคุย ดีกว่ามาแต่เสียง

2R พูดคุยเรื่องของลูก ( Relationship )

แน่นอนว่าใครๆ ก็ย่อมชอบให้การพูดคุยมีเรื่องราวของตนเองร่วมอยู่ในบทสนทนา กับการพูดคุยกับเจ้าตัวเล็กของเราเองก็เช่นกันค่ะ ที่เขาต้องการ การพูดคุย ซึ่งการคุยนี้อาจมีเราเป็นคนเริ่มบทสนทนาโดยให้เขาเป็นคนตอบ จะทำให้เขามีทักษะในการถามตอบมากขึ้น ช่วยพัฒนาระบบความคิดวิเคราะห์ ว่าต้องตอบอะไรจึงเหมาะสมกับบทสนาทนา, มีทักษะในการเข้าสังคมเพิ่มขึ้น และเปิดใจที่จะแชร์เรื่องราวตนเอง เช่น

3R ให้ลูกได้ตัดสินใจ ( Responsilibity )

เพราะการเป็นพ่อแม่คือการเลือกสิ่งที่ดีที่สุดให้ลูกแต่ในความจริงแล้วนั้น สิ่งที่ลูกได้เลือกให้ตนเองถึงจะเรียกว่าที่สุดที่เขาได้รับสิ่งที่ต้องการที่สุดค่ะ ฉะนั้นแล้ว การให้ลูกได้ลองตัดสินใจก็จะเป็นการช่วยให้สมองด้านการกล้าแสดงความเห็น, กล้าที่จะพูดในสิ่งที่ตนเชื่อมั่น แต่หากกลัวว่าจะไม่มีใครคอยคุมหรือดูแลได้ว่าควรเป็นในแนวทางไหน ลองทำเป็นทางเลือกและให้ลูกได้มีสิทธิ์เลือกทางที่ต้องการได้ เช่น ” วันนี้เรามีไข่เจียวหัวหอม กับผัดกะหล่ำใส่กุ้ง หนูอยากทานอะไรครับ? ” , ” อีก 10 นาทีจะสองทุ่ม คนเก่งอยากจะอาบน้ำให้เสร็จแล้วค่อยดูการ์ตูน หรือดูจบตอนนี้แล้วค่อยไปอาบคะ? ”

4R ชื่นชมเมื่อลูกทำสำเร็จ ( Rewards )

ไม่มีอะไรดีไปกว่าคำชมจากพ่อแม่ที่จะมีให้ลูกอีกแล้ว เพราะในสมัยที่คุณพ่อคุณแม่ยังเป้นเด็ก ตอนที่ได้รับคำชมจากปู่ย่าตายาย เราก็รู้สึกมีความสุขใช่ไหมคะ กับลูกเองก็เช่นกัน เมื่อเขาได้รับคำชมจากเรา เขาก็จะมีกำลังใจที่จะทำต่อไปในสิ่งที่คิดว่าถูกต้อง ไม่ว่าจะเรื่องที่เรามองว่าเล็ก อย่างการกรอกน้ำ, ล้างจาน หรือแม้แต่การทำข้อสอบเล็กๆ ที่ได้คะแนนดี ล้วนแต่เป็นเรื่องที่ควรชมทั้งสิ้น แต่การชมนั้น จะต้องชมด้วยความจริงใจ ไม่เหมือนชมผ่านๆ ไปค่ะ ถึงจะได้ผลสูงสุดในการพัฒนาของลูก เช่นหากอยากชมลูกว่าทำสิ่งนี้ได้ดี ควรชมให้ครบจากคำว่า ” เก่งจังเลย ” เป็น ” ลูกทำงานศิลปะอันนี้ออกมาได้สวยมากเลย แม่ชอบสีที่ลูกใช้นะ

ที่มา : manarom , การสัมนาของ Nestle