ประจำเดือนนั้นเป็นเรื่องปกติที่ผู้หญิงอย่างเราจะต้องพบเจอ เป็นกลไกธรรมชาติที่คงสมดุลระบบสืบพันธุ์ของร่างกาย แต่ก็ปฏิเสธไม่ได้เลยว่าการดูแลตัวเองในวันนั้นของเดือนก็มีภาระค่าใช้จ่ายท่ีเพิ่มขึ้นมาทุกๆ เดือนด้วยเช่นกัน คุณแม่อาจจะเคยได้ยินคำว่า “ภาษีผ้าอนามัย” มาบ้าง รู้ไหมคะว่าผู้หญิงอย่างเราๆ นั้นต้องเสียค่าผ้าอนามัยเฉลี่ยเดือนละ 400 บาทเลยทีเดียว อาจฟังดูไม่มาก แต่บวกทบกันไปเป็นปีๆ ก็ดูฟุ่มเฟือยเหมือนกัน
นอกเหนือจากเรื่องค่าใช้จ่ายแล้ว ผลิตภัณฑ์อนามัยใช้แล้วทิ้งนั้นก็สร้างขยะจำนวนมากบนโลกไม่แพ้ถุงพลาสติกหรือหลอดเช่นกัน ในเวลาปีหนึ่งมีขยะผ้าอนามัยเยอะถึง 12,000 ล้านแผ่น อีกทั้งยังใช้เวลาย่อยสลายอีกถึง 450 ปี กลายเป็นปัญหาขยะสะสมไม่จบไม่สิ้นเสียที ทั้งนี้แล้วยังมีเรื่องสุขภาพที่เข้ามาเกี่ยวโยงกับผลิตภัณฑ์อนามัยใช้แล้วทิ้งอีกด้วย ไม่ว่าจะเป็นปัญหาผิวหนังระคายเคืองจากผ้าอนามัยแบบแผ่น หรือเรื่องความเสี่ยงในการติดเชื้อหากใช้ติดต่อกันนานๆ และอาการ TSS (Toxic Shock Syndrome) ที่มาจากสารฟอกขาวในผลิตภัณฑ์อนามัยใช้แล้วทิ้งต่างๆ
คุณแม่อาจจะมีคำถามว่า แล้วควรเราจะทำยังไงบ้างล่ะ วันนี้ ParentsOne เลยอยากมาแนะนำผลิตภัณฑ์อนามัยทางเลือก ใช้ซ้ำได้ ปลอดภัยต่อสุขภาพและสิ่งแวดล้อมให้คุณแม่และคุณลูกสาววัยใสมาเป็นตัวเลือกเพิ่มเติมให้ดูกันค่ะ จะมีอะไรกันบ้าง เราไปดูกันเลยดีกว่าค่ะ
ผลิตภัณฑ์อนามัยใช้ซ้ำมีอะไรบ้าง?
ก่อนอื่นเลยเรามาแนะนำกันก่อนว่าในโลกของ reusable menstrual products หรือผลิตภัณฑ์อนามัยใช้ซ้ำได้มีอะไรกันบ้าง ปัจจุบันมีตัวเลือกมากมายที่เจาะจงให้กับสภาพร่างกาย ปริมาณมามากน้อย และช่วงวัยที่แตกต่างให้ผู้หญิงได้เลือกใช้ในสิ่งที่เหมาะสมกับร่างกายของตัวเองได้ ซึ่งแยกเป็นหมวดหลักๆ แล้วมีดังนี้ค่ะ
ผ้าอนามัยใช้ซ้ำ
ผ้าอนามัยใช้ซ้ำได้ที่ผลิตจากผ้าที่มีคุณสมบัติซึมซับน้ำได้อย่างเช่นผ้าฝ้าย ใยกัญชง ใยไผ่ หรือใยสังเคราะห์อย่างไมโครไฟเบอร์ ใช้งานได้เหมือนผ้าอนามัยทั่วไป มีหลายขนาดและการซึมซับที่ต่างกันเพื่อรองรับปริมาณมากน้อยในรอบเดือนของแต่ละคน
ถ้วยอนามัย
ถ้วยอนามัยผลิตมาเพื่อรองรับเลือดจากภายในแทนการซึมซับอย่างผ้าอนามัยแบบแผ่นหรือแบบสอด ผลิตจากซิลิโคนทางการแพทย์ มีหลายขนาดและหลายรูปร่างเพื่อรองรับปริมาณเลือดและสรีระร่างกายที่แตกต่างกัน
กางเกงในซับประจำเดือน
กางเกงในที่ผลิตมาเพื่อซับประจำเดือนโดยเฉพาะ สามารถใส่ได้อย่างเดียวโดยไม่ต้องใส่ผ้าอนามัย หรือใส่คู่กับถ้วยอนามัยเพื่อป้องกันการรั่วไหล มาในหลายรูปทรงและชนิดผ้าที่เหมาะกับสรีระหลายรูปแบบ
ซึ่งแต่ละแบบนั้นสร้างมาเพื่อจุดประสงค์ที่แตกต่างกัน บางคนอาจจะสะดวกใช้รูปแบบใดแบบหนึ่งมากกว่า เราไปดูกันค่ะว่าผลิตภัณฑ์อนามัยใช้ซ้ำได้แต่ละชนิดเหมาะกับใคร และควรดูแลอย่างไรบ้าง
ผ้าอนามัยใช้ซ้ำ
ผ้าอนามัยใช้ซ้ำอาจเป็นผลิตภัณฑ์อนามัยทางเลือกที่เปลี่ยนได้ง่ายที่สุด เพราะไม่ต้องใช้เวลาเรียนรู้และปรับตัวมากเท่าถ้วยอนามัย ผ้าอนามัยใช้ซ้ำนั้นมาพร้อมกับกระดุมแป๊กที่ปีกแทนกาวที่ติดบนกางเกงใน มาพร้อมกับหลายขนาดตั้งแต่แบบกลางวัน กลางคืน ไปจนถึงขนาดแผ่นอนามัย และยังมีสีสันลวดลายอีกเยอะแยะให้เลือกใช้ได้ค่ะ
ข้อดี
- ประหยัดเงินกว่าในระยะยาว
- ปรับใช้ได้ง่าย
- ใช้ได้นานอย่างน้อย 5 ปี
- นุ่มสบาย ไม่อับชื้น ไม่ระคายเคืองเหมือนผ้าอนามัยใช้แล้วทิ้ง
- มีสีสันและลวดลายน่ารักให้เลือกใช้
- สามารถทำเองได้
ข้อเสีย
- ค่าใช้จ่ายล่วงหน้าสูง
- ยุ่งยากเล็กน้อยหากเทียบกับแบบใช้แล้วทิ้ง ต้องซักให้สะอาดหลังใช้งาน และตากให้แห้งสนิทก่อนนำไปใช้อีกครั้ง
- ไม่เหมาะกับคนที่อยู่ในพื้นที่ที่น้ำสะอาดหาใช้ได้ยาก
เหมาะกับใคร?
- ใช้ง่าย เหมาะกับทุกวัยและคนเริ่มอยากลองใช้ผลิตภัณฑ์อนามัยใช้ซ้ำ
- คนที่มีปัญหาผื่น ระคายเคือง มีอาการแพ้วัสดุหรือสารเคมีในผลิตภัณฑ์อนามัยใช้แล้วทิ้ง
- คนที่รอบเดือนมาไม่ปกติ มีประจำเดือนมาหลายวัน
- ใส่สำหรับป้องกันในวันก่อนหรือหลังรอบเดือน
- คุณแม่เพิ่งคลอด เพราะซึมซับได้ดีและไม่ระคายเคือง
ผ้าอนามัยใช้ซ้ำ: เริ่มใช้ยังไงดี?
ด้วยผ้าอนามัยใช้ซ้ำนั้นมีราคาขายค่อนข้างแพงและปัจจุบันในประเทศไทยยังไม่มีร้านผลิตมากนัก ทำให้การซื้อเป็นการลงทุนสักหน่อย และควรคำนึงถึงปริมาณของรอบเดือนที่เรามี ความบ่อยในการเปลี่ยนผ้าอนามัย กับเวลาซักที่ต้องใช้ เพราะจะส่งผลต่อจำนวนที่ต้องใช้ด้วยเช่นกัน ส่วนใหญ่แล้วจะแนะนำปริมาณดังนี้ค่ะ:
10 – 15 แผ่นสำหรับรอบเดือนมาน้อย
30 – 40 แผ่นสำหรับรอบเดือนมามาก
แต่สำหรับผู้เริ่มใช้ ก็สามารถซื้อมาทดลองใช้สลับกับผ้าอนามัยใช้แล้วทิ้งก่อน โดยค่อยๆ ซื้อเก็บทีละน้อย ลองเริ่มใช้ก่อนที่บ้านในวันหยุดหรือตอนกลางคืน ถ้ามั่นใจแล้วว่าเหมาะกับรอบเดือนของตัวเองแล้ว ค่อยปรับใช้มากขึ้นตามจำนวนที่เรามีค่ะ
หากเปลี่ยนข้างนอก ควรพกกระเป๋าหรือถุงใส่ผ้าแห้งและผ้าเปียกไปด้วย เพื่อใส่ผ้าอนามัยใช้แล้วเพื่อเก็บนำไปซักค่ะ ก่อนซักให้ถูสบู่ก้อนไว้ที่คราบเลือดก่อนแช่น้ำเย็นไว้อย่างน้อย 40 นาที สามารถซักมือโดยใช้สบู่ก้อนซักผ้าหรือน้ำยาซักผ้าสูตรอ่อนโยน หรือซักเครื่องก็ได้ ถ้ากังวลเรื่องคราบเลือดก็สามารถใช้ผลิตภัณฑ์กำจัดคราบช่วยซักเพิ่มเติม แล้วค่อยตากให้แห้งสนิท แต่มีข้อควรระวังว่าห้ามซักด้วยน้ำร้อน เพราะคราบจะติดฝังลึก และห้ามใช้น้ำยาปรับผ้านุ่มค่ะ
ถ้วยอนามัย
ถ้วยอนามัยนั้นออกแบบมาเพื่อรองรับเลือดจากภายในช่องคลอดแทนการซึมซับอย่างผ้าอนามัยแบบสอด ถ้วยอนามัยส่วนมากนั้นมาในสองขนาด ขนาดเล็กสำหรับผู้ที่ยังไม่มีบุตร วัยรุ่นหรือประจำเดือนมาน้อย และขนาดใหญ่สำหรับผู้ที่มีบุตรแล้วหรือประจำเดือนมามาก แต่ยังมีอีกหลายรูปแบบเพื่อให้เหมาะกับสรีระหรือตำแหน่งปากมดลูกด้วยค่ะ
ข้อดี
- ประหยัดเงินกว่าในระยะยาว
- รองรับเลือดได้มากกว่าผลิตภัณฑ์อนามัยแบบอื่น เฉลี่ยที่ 20 มิลลิลิตรขึ้นไป
- ใส่ได้นานถึง 12 โดยไม่ต้องเปลี่ยน
- ใช้ได้นานถึง 10 ปี
- คงความชุ่มชื้นของช่องคลอด ลดการเสียดสี
- ไม่มีกลิ่นเลือด เพราะเลือดไม่โดนอากาศ
- สามารถใส่เล่นกีฬา ทำกิจกรรมกลางแจ้ง หรือว่ายน้ำได้ และบางรุ่นสามารถใส่ขณะมีเพศสัมพันธ์ได้
- หากใส่ถูกวิธีจะไม่รู้สึกอะไรเลย
ข้อเสีย
- ค่าใช้จ่ายล่วงหน้าค่อนข้างสูง
- ใช้เวลาเรียนรู้นาน อาจมีปัญหาในการสอดใส่หรือนำออก
- การนำถ้วยออกอาจเลอะสักหน่อย ไม่เหมาะกับคนที่กลัวเลือด
- อาจต้องทดลองใช้หลายรุ่นจนกว่าจะเจอถ้วยอนามัยที่เหมาะกับสรีระตนเอง
เหมาะกับใคร?
- สามารถใช้ได้ทุกวัยตั้งแต่วัยรุ่น แต่ต้องเลือกขนาดที่เหมาะกับร่างกาย
- คนที่ต้องการอิสระในวันนั้นของเดือน
- คนที่ชอบออกกำลังกาย เล่นกีฬา
- คนที่คุ้นชินกับการใส่ผ้าอนามัยแบบสอด
- คนที่ประจำเดือนมามาก และผ้าอนามัยแบบแผ่นไม่สามารถรองรับได้
ถ้วยอนามัย: เริ่มใช้ยังไงดี?
ด้วยวิธีการใช้ที่ต้องนำถ้วยอนามัยเข้าร่างกายนั้น อาจทำให้เป็นกังวลสักหน่อยหากไม่เคยใช้ผ้าอนามัยแบบสอดมาก่อน แต่ถ้วยอนามัยนั้นสามารถใช้ได้แม้ไม่เคยมีเพศสัมพันธ์ค่ะ เพียงแค่ต้องหาวิธีพับถ้วยที่เหมาะกับสรีระตนเอง และควรใช้น้ำหรือเจลหล่อลื่นสูตรน้ำทาบาง ๆ บริเวณปากถ้วยเพื่อป้องกันความไม่สบายขณะสอดใส่ แต่เนื่องด้วยเป็นผลิตภัณฑ์ที่ต้องใส่เข้าไปในร่างกาย ควรดูแลความสะอาดให้ดี ล้างด้วยน้ำสะอาดหรือสบู่อ่อนทุกครั้งที่เปลี่ยน และควรต้ม/นึ่งฆ่าเชื้อทุกครั้งก่อนและหลังรอบเดือนด้วยนะคะ
หากต้องเทรอบเดือนทิ้งในห้องน้ำสาธารณะ แนะนำให้พกทิชชู่เปียก (สูตรอ่อนโยน ไม่มีน้ำหอม) หรือพกขวดน้ำไว้ล้างระหว่างเปลี่ยนทุกครั้งค่ะ
การใช้ถ้วยอนามัยนั้นอาจต้องใช้เวลาเรียนรู้ตัวผลิตภัณฑ์และร่างกายของเราสักหน่อย อย่ากังวลหากครั้งแรกใช้ไม่ได้ผล หรือมีข้อผิดพลาดบ้าง ให้เวลากับร่างกายของเราได้ปรับตัว และถ้าหากถ้วยอนามัยไม่ใช่ทางเลือกของเราจริงๆ ก็ไม่เป็นไรค่ะ ร่างกายคนเราไม่เหมือนกัน เป็นธรรมดาที่ผลิตภัณฑ์ทุกชิ้นจะไม่เหมาะกับเราค่ะ
กางเกงในซับประจำเดือน
กางเกงในซับประจำเดือนนั้นรวมคุณสมบัติของผ้าอนามัยใช้ซ้ำกับกางเกงในเข้าด้วยกัน ผลิตด้วยวัสดุที่ซึมซับได้ดี ระบายอากาศได้ บางยี่ห้อผลิตด้วยวัสดุป้องกันแบคทีเรีย โดยทั้งตัวกางเกงในนั้นนับเป็นผ้าอนามัยเลยก็ว่าได้ สามารถใส่กางเกงในซับประจำเดือนโดยไม่ต้องใส่ผ้าอนามัยได้เลย ซึ่งกางเกงในซับประจำเดือนนั้นมีหลายรูปแบบ ไม่ว่าจะเป็นทรงกางเกงไปจนถึงปริมาณในการซึมซับเลือด เหมาะกับทุกวันในรอบเดือน
ข้อดี
- ประหยัดเงินกว่าในระยะยาว
- ปรับใช้ได้ง่าย
- ใส่สบายเหมือนกางเกงในปกติทั่วไป
- ป้องกันรอบด้าน ไม่ต้องห่วงเรื่องผ้าอนามัยเคลื่อนตัว
ข้อเสีย
- ค่าใช้จ่ายล่วงหน้าสูงมาก ราคาแพง
- ไม่เหมาะกับคนมีรอบเดือนมาก หากไม่เปลี่ยนระหว่างวันหรือใส่ผ้าอนามัยช่วยอาจมีการซึมเปื้อน
- วิธีดูแลซับซ้อนกว่ากางเกงในปกติ ควรซักทันทีหลังใช้และทำตามคำแนะนำของผู้ผลิต
- ใช้เวลาตากแห้งนาน
- เปลี่ยนระหว่างวันลำบาก
- ปัจจุบันมีแค่ผู้ผลิตจากต่างประเทศ ยังหาซื้อได้ยากในประเทศไทย
เหมาะกับใคร?
- คนที่ประจำเดือนมาน้อย–ปานกลาง
- คนที่ต้องการความสบายตัวในวันนั้นของเดือน
- ใส่เพื่อป้องกันการซึมเปื้อนจากผ้าอนามัยหรือถ้วยอนามัยแทนแผ่นอนามัย
- ใส่สำหรับป้องกันในวันก่อนหรือหลังรอบเดือน
กางเกงในซับประจำเดือน: เริ่มใช้ยังไงดี?
ปกติแล้วกางเกงในประจำเดือนมีราคาแพงมาก ซื้อมาใช้เลยทีเดียวอาจจะทำร้ายกระเป๋าเงินสักหน่อย แนะนำให้ค่อยๆ เริ่มลงทุนจะดีกว่าค่ะ ซื้อมาลองใช้ดูว่าเหมาะกับร่างกายเราไหม รอบเดือนเรามาในปริมาณที่กางเกงในซับประจำเดือนซับได้ดี โดยเฉลี่ยแล้วใส่วันละคู่ สำหรับกลางวันและกลางคืน แต่อาจมากขึ้นถ้าเป็นคนรอบเดือนมามากค่ะ หากต้องเปลี่ยนระหว่างวัน แนะนำให้พกกระเป๋าผ้าแห้งและผ้าเปียกสำหรับใส่กางเกงในสะอาดและกางเกงในใช้แล้วแยกกัน เพื่อนำไปซักต่อได้ค่ะ
การดูแลกางเกงในซับประจำเดือนนั้นเหมือนกับผ้าอนามัยใช้ซ้ำ โดยสามารถซักมือหรือซักเครื่องก็ได้ เพียงแค่ห้ามซักด้วยน้ำร้อนกับใช้น้ำยาปรับผ้านุ่มค่ะ