fbpx

5 วิธีดูแลผิวในแบบคุณแม่ให้แลดูสวยเต่งตึง

Writer : Mookky TCN
: 29 สิงหาคม 2561

 

ถึงจะเป็นคุณแม่แล้วแต่ยังต้องสวยตลอดเวลา เพราะเป็นผู้หญิง การดูแลผิวดีๆ ยังช่วยทำให้คุณแม่ดูอ่อนเยาว์ได้ด้วย เพราะในความจริงเเล้วเรื่องของสุขภาพผิวไม่ใช่เรื่องของอายุ แต่เป็นเรื่องของการดูแลอย่างสม่ำเสมอนั่นเอง ลองมาดูกันว่าถ้าคุณแม่อยากมีผิวใสเต่งตึงตลอดเวลาจะต้องทำอย่างไรบ้างนะ

1. หลบแดดร้ายทำลายผิว

แสงแดดถือเป็นตัวการร้ายที่ทำลายผิวของผู้หญิง เพราะการโดนแดดเพียง 15 นาทีก็สามารถทำลายภูมิคุ้มกันของผิวได้ และแสงแดดเป็นปัจจัยหลักที่ทำให้เกิด “มะเร็งผิวหนัง” ได้ด้วย ซึ่งผู้เชี่ยวชาญบอกว่าควรหลีกเลี่ยงแดดจัดๆ ในช่วง 10.00-16.00  นอกจากนั้นรังสียูวียังมีอยู่ทุกที่ไม่ว่าจะเป็นแสงจากหลอดไฟ หน้าจอคอมพิวเตอร์ คุณแม่ๆ จึงควรทาครีมกันแดดให้เพียงพอนะคะ

ทาครีมกันแดดอย่างไรให้ถูกต้อง:
ควรทาก่อนออกแดด 20-30 นาที โดยทาซ้ำทุกๆ 2 ชั่วโมง ในปริมาณ 2 ไมโครกรัมต่อตารางเซนติเมตร (ประมาณ 2 ข้อนิ้วมือ) เพื่อหลีกเลี่ยงการทำลายผิวจากแดดร้ายค่ะ

2. ทานอาหารที่มีประโยชน์

เลือกทานอาหารดีๆ ที่มีวิตามินที่มีประโยชน์เพื่อบำรุงผิวพรรณจากภายใน อย่างอาหารที่อุดมไปด้วยวิตามินอี ที่มีคุณสมบัติในการชะลอการเสื่อมสภาพของเซลล์ ทำให้ผิวพรรณของคุณแม่อ่อนวัยอยู่เสมอ เช่น

  • มะเขือเทศ ในมะเขือเทศหั่น 1 ถ้วย จะมีวิตามินอี 1 มิลลิกรัม
  • มะม่วง ในมะม่วง 1 ถ้วย จะมีวิตามินอี 1.5 มิลลิกรัม
  • ผักโขม ในผักโขมสุก 1 ถ้วย จะมีวิตามินอี 4 มิลลิกรัม
  • อะโวคาโด ในหนึ่งผลมีปริมาณ 1 ผล มีวิตามินอี 2.7 มิลลิกรัม
  • อัลมอนด์ ใน 1 ออนซ์ จะมีปริมาณวิตามินอี 7 มิลลิกรัม
  • เมล็ดทานตะวัน ใน 1 ออนซ์ จะมีปริมาณวิตามินอี 7 มิลลิกรัม

ในอาหารที่บอกไว้ข้างต้นนอกจากจะมีวิตามินอีแล้ว ยังอุดมไปด้วยวิตามิน แร่ธาตุ ชนิดอื่นๆ และไฟเบอร์อีกด้วยค่ะ

3. ดื่มน้ำเปล่าเพียงพอ

เพราะร่างกายมีน้ำเป็นส่วนประกอบถึง 70 เปอร์เซ็นต์ เรียกได้ว่าเป็นส่วนประกอบหลักๆ ของเซลล์เลย ในแต่ละวันคุณแม่ควรดื่มน้ำให้เพียงพอ เพราะการดื่มน้ำนั้นช่วยทำให้ผิวชุ่มชื้น ช่วยขับสารพิษที่เป็นต้นเหตุของสิว ผิวพรรณหมองคล้ำ ออกจากร่างกาย นอกจากนั้นยังช่วยป้องกันผิวแห้ง และการเกิดริ้วรอยได้ด้วย

ดื่มน้ำเปล่าปริมาณเท่าไรดี:
คุณแม่อาจสงสัยว่าควรดื่มน้ำมากแค่ไหนในแต่ละวัน ซึ่งองค์การอนามัยโลกได้กำหนดสูตรคำนวณปริมาณน้ำดื่มที่เหมาะสมกับน้ำหนักตัว คือ

น้ำหนักตัว (ก.ก.)/2 x 2.2 x30 = ปริมาณน้ำที่ควรดื่ม (cc.) (1000 cc. = 1 ลิตร และ 1 ลิตร = 5 แก้ว)
เช่น น้ำหนักตัว 65 กิโลกรัม 65/2 x 2.2 x 30 = 2,145 cc. = 2.14 ลิตร หรือประมาณ 10 แก้ว
(อย่าลืมรวมกับปริมาณน้ำที่ได้จากการทานอาหารด้วย)

นอกจากนั้นก็ควรจิบน้ำในอุณหภูมิห้อง เพราะจะไม่ร้อนหรือเย็นจนเกินไป โดยการดื่มน้ำอุ่นในช่วงเช้าเพื่อช่วยล้างสำไส้ให้สะอาด และช่วยในการขับถ่าย แต่ไม่ควรดื่มรวดเดียวแบบหลายๆ แก้ว เพราะจะทำให้เกิดภาวะ “น้ำเป็นพิษ” ได้

4. หมั่นนอนหลับพักผ่อน

การนอนเป็นอีกเรื่องที่สำคัญมากต่อสุขภาพ เพราะเป็นช่วงที่ร่างกายจะได้ซ่อมแซมผิว โดยถ้าเข้าสู่ช่วงหลับลึกจนสามารถหลั่งโกรทฮอร์โมน (Growth hormone) ฮอร์โมนที่ช่วยชะลอวัย ที่หลั่งออกมาซ่อมแซมผิวและร่างกายเฉพาะตอนหลับลึกเท่านั้น โดยจะหลั่งออกมาในช่วงเวลาตีหนึ่งครึ่งของแต่ละวัน เราเลยมีเทคนิคดีๆ ในการนอนหลับเพื่อผิวสวยสดใสมาฝากกันคุณแม่กันค่ะ

เทคนิคดีๆ ที่ช่วยให้คุณแม่หลับอย่างมีคุณภาพ:

  • เข้านอนในช่วงเวลาสี่ทุ่ม เพราะการนอนช่วงสี่ทุ่มจะทำเข้าสู่ช่วงหลับลึกที่มี โกรทฮอร์โมน หลั่งออกมาพอดี รับรองว่าจะได้รับประโยชน์จากจุดนี้แน่ๆ
  • ไม่ทานอาหารที่มีน้ำตาลเยอะก่อนเข้านอน เช่น บะหมี่กึ่งสำเร็จรูป น้ำหวาน ขนม เพราะน้ำตาลเป็นตัวขัดขวางการหลั่งของโกรทฮอร์โมน ทำให้ได้รับไม่เต็มที่
  • สร้างบรรยากาศในห้องนอนให้เหมาะสม เช่น ห้องนอนควรจะเงียบ ไม่มีเสียงรบกวน อุณหภูมิในห้องต้องเย็นพอดีและควรจะปิดไฟให้มืด
  • ออกกำลังกายในช่วงเช้าเพื่อให้ร่างกายได้ใช้พลังงาน และนอนหลับได้ดีขึ้นในช่วงกลางคืน
  • นอนหงายไม่นอนคว่ำ เพราะเป็นท่านอนที่ดีต่อสุขภาพ และไม่ทำให้เกิดริ้วรอยบนใบหน้า แตกต่างจากการนอนคว่ำที่ในระยะยาวจะทำให้เกิดแรงกดทับที่ใบหน้า จนกลายมาเป็นริ้วรอยในอนาคตได้

5. ทา Blackmores Natural Vitamin E Cream

เลือกทาครีมบำรุงผิวดีๆ ที่ช่วยบำรุงผิวของคุณแม่ให้ดูสวยเต่งตึงตลอดเวลาอย่าง

  • Blackmores Natural Vitamin E Cream Firm & Smooth Skin
    สูตรที่พัฒนาขึ้นเพื่อช่วยลดเรือนริ้วรอย เพิ่มความชุ่มชื้นให้ผิว แลดูกระชับไม่หย่อนคล้อย พร้อมเติมน้ำและฟื้นบำรุงผิวให้ชุ่มชื้น ด้วยสารสกัดจากธรรมชาติ ซากุระตะวันตกและน้ำมันต้นกระทิง พร้อมมอบความชุ่มชื่นให้กับผิวด้วยวิตามินอีจากธรรมชาติ น้ำมันสกัดจากผลอโวคาโด และเมล็ดแอพลิคอทเช่นกัน

  • Blackmores Natural Vitamin E Cream Lanolin
    วิตามินอีครีมเนื้อเนียนนุ่มอุดมด้วยสารที่มอบความชุ่มชื้นให้ผิว ช่วยฟื้นบำรุงผิวแห้งกร้าน เหมาะสำหรับทั้งใบหน้า มือและลำตัว มีคุณค่าของวิตามินอีบริสุทธิ์จากธรรมชาติและลาโนลิน น้ำมันสกัดจากผลอโวคาโด และเมล็ดแอพลิคอท

เรียกได้ว่าเป็นอีกผลิตภัณฑ์บำรุงผิวดีจาก Blackmore ที่น่าสนใจ เพราะปราศจากสี น้ำหอม และสารพาราเบน ทำให้ไม่ก่อให้เกิดอาการแพ้ค่ะ 😀

สอบถามข้อมูลเพิ่มเติม: Blackmores

Writer Profile : Mookky TCN

  • Blog :
  • Social Media :

  • Official Sponsors :
  • Samitivej Hospital

Update
Banner Banner
เมื่อคุณแม่หลายท่านเป็นกังวลกับเรื่องพัฒนาการสมองและภูมิคุ้มกันที่แตกต่างกันของลูกน้อยที่ผ่าคลอดกับเด็กคลอดธรรมชาติ กลัวว่าลูกน้อยจะมีโอกาสป่วยง่ายหรือมีพัฒนาการสมองช้ากว่าเพื่อนๆ ทำให้คุณแม่ต้องใส่ใจกับการดูแลลูกน้อยมากยิ่งขึ้น เสมือนการเร่งเสริมสร้างเกราะคุ้มกันให้ลูกน้อยเติบโตพร้อมปรับตัวกับโลกยุคใหม่ที่เต็มไปด้วยการเปลี่ยนแปลง วันนี้เราจะพาไปดูเคล็ดไม่ลับ ฉบับการดูแลพัฒนาการสมองของลูกน้อยและภูมิคุ้มกันของเด็กผ่าคลอดที่คุณแม่ไม่ควรมองข้าม ช่วยเติมเต็มในสิ่งที่ลูกผ่าคลอดต้องการได้ ไปดูกันเลย! เกราะคุ้มกันแรกที่หายไปของเด็กผ่าคลอด เด็กผ่าคลอดมักจะป่วยง่ายหรือมีปัญหาสุขภาพมากกว่าเด็กที่คลอดโดยธรรมชาติ เพราะสูญเสียโอกาสในการได้รับเชื้อจุลินทรีย์สุขภาพ ผ่านทางบริเวณช่องคลอดของคุณแม่ ทำให้เกราะคุ้มกันแรกเกิดของลูกน้อยผ่าคลอดหายไปส่งผลให้เด็กมีพัฒนาการทางระบบภูมิคุ้มกันตั้งต้นช้ากว่าเด็กที่คลอดตามธรรมชาติ บิฟิโดแบคทีเรียม แล็กทิส (B. lactis) เป็นจุลินทรีย์ชนิดดีที่ช่วยเสริมสร้างภูมิคุ้มกันตั้งต้น โดยเฉพาะระบบภูมิคุ้มกันในระบบทางเดินอาหาร คุณแม่จึงต้องเร่งเสริมสร้างเกราะคุ้มกันให้ลูกน้อยมีพื้นฐานที่ดีตั้งแต่เริ่มต้น เพื่อช่วยให้ลูกน้อยของเรามีมีระบบภูมิคุ้มกันที่ดีขึ้น เสริมสร้างพัฒนาการด้านสมองของเด็กผ่าคลอดด้วย “แอลฟาแล็ค สฟิงโกไมอีลิน” “แอลฟาแล็ค สฟิงโกไมอีลิน” คือสารอาหารที่พบมากในนมแม่ เป็นส่วนสำคัญที่ทำให้การทำงานสมองของลูกน้อยมีประสิทธิภาพ สร้างสมองไวกว่าเดิม เชื่อมต่อเซลล์สมอง 1 แสนล้านเซล์ อัพเกรดเด็กเจนใหม่ โดยสร้างสารสื่อประสาทในสมอง และเพิ่มความเร็วการส่งสัญญาณประสาทแบบก้าวกระโดด “สฟิงโกไมอีลิน” คือ ไขมันกลุ่มฟอสโฟไลปิด พบได้มากในน้ำนมแม่ที่อุดมไปด้วยสารอาหารกว่า 200 ชนิด ซึ่ง “สฟิงโกไมอีลิน”เป็นองค์ประกอบในการสร้างปลอกไมอีลิน ซึ่งมีผลต่อการทำงานของสมองให้ส่งสัญญาณประสาทได้ไวและประมวลผลอย่างมีประสิทธิภาพ ทำให้เกิดการจดจำเร็ว เรียนรู้ไว สมองของเด็กผ่าคลอดและเด็กที่คลอดตามธรรมชาติ มีการสร้างไมอีลินในสมองแตกต่างกัน โดยเฉพาะที่ส่วนของสมอง ที่ทำหน้าที่เชื่อมโยงระหว่างสมองซีกซ้ายและซีกขวา คุณแม่จึงควรคำนึงถึงจุดเริ่มต้นที่แตกต่าง ของเด็กผ่าคลอดเจนใหม่ ด้วยการเตรียมสมองไวและภูมิคุ้มกันที่ดีด้วย “แอลฟาแล็ค สฟิงโกไมอีลิน” และ บิฟิโดแบคทีเรียม แล็กทิส (B. lactis) จากนมแม่ให้ลูกน้อยยิ่งเริ่มเร็วก็ยิ่งดี เพราะพัฒนาการสมองที่ดีในวัยเด็ก ถือเป็นรากฐานสำคัญ ไม่ว่าจะเป็นการมองเห็น การได้ยิน หรือการเรียนรู้ภาษาสิ่งเหล่านี้ล้วนเกิดจากพัฒนาการของสมองเพราะสมองคือจุดเริ่มต้น ของทุกพัฒนาการของลูกน้อย เตรียมพร้อมเด็กผ่าคลอดให้มีสมองไวและภูมิคุ้มกันที่ดีขึ้นได้ คุณแม่สามารถเติมเต็มในสิ่งที่ลูกน้อยผ่าคลอดต้องการได้ด้วยสารอาหารที่สำคัญอย่างเช่น “แอลฟาแล็ค สฟิงโกไมอีลิน” ที่ช่วยเพิ่มความเร็วในการส่งสัญญาณประสาทได้เร็วและมีประสิทธิภาพมากขึ้น และโพรไบโอติก บิฟิโดแบคทีเรียม แล็กทิส (B. lactis) ตัวช่วยที่ทำให้ลูกน้อยมีภูมิคุ้มกันสุขภาพที่ดี ดังนั้นคุณแม่ก็วางใจได้ หากเราเสริมสร้าง…
3 กันยายน 2568

anal porno zdarma culi nudi al mare free sex videos antalya escort

เราใช้คุกกี้เพื่อพัฒนาประสิทธิภาพ และประสบการณ์ที่ดีในการใช้เว็บไซต์ของคุณ คุณสามารถศึกษารายละเอียดได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และสามารถจัดการความเป็นส่วนตัวเองได้ของคุณได้เองโดยคลิกที่ ตั้งค่า

Privacy Preferences

คุณสามารถเลือกการตั้งค่าคุกกี้โดยเปิด/ปิด คุกกี้ในแต่ละประเภทได้ตามความต้องการ ยกเว้น คุกกี้ที่จำเป็น

Allow All
Manage Consent Preferences
  • Always Active

Save