Parents One

 7 ข้อดี 7 ข้อเสียของการเป็นแม่ฟูลไทม์

เชื่อว่าทุกคนที่เป็นแม่ ย่อมต้องการจะเลี้ยงลูกด้วยตนเองหากเป็นไปได้ แต่ถ้าเราเลือกไม่ได้ขนาดนั้นเพราะเราต้องทำงานหาเงิน เราจึงเลี้ยงลูกด้วยตนเองไม่ได้ หรือในทางกลับกัน ลูกเราไม่มีใครเลี้ยงนี่นา เราก็ต้องลาออกมาเลี้ยงลูกเอง มาดูกันค่ะว่า ข้อดีข้อเสียของการลาออกจากงานประจำมาเป็นแม่ 24 ชั่วโมงมีอะไรบ้าง

ข้อดีของการเป็นคุณแม่ฟูลไทม์

1. ได้เห็นพัฒนาการทุกขั้นตอน
คุณจะได้ดูแล ฟูมฟัก ทะนุถนอม ลูกน้อยตั้งแต่เค้าคลอดออกมา และเห็นพัฒนาการของเค้าทุกขั้นตอน คุณจะไม่พลาดคำแรกของลูก วันแรกที่เค้านั่งได้ วันที่เค้าเริ่มคลาน ก้าวแรกของเค้า รอยยิ้มที่สดใส ที่เค้ามีให้คุณแม่ตลอดเวลา มันคือช่วงเวลาที่เเสนวิเศษและน่าจดจำจริงๆ

2. ได้ออกแบบการเลี้ยงลูก
ไม่ว่าคุณจะต้องการเลี้ยงลูกแบบไหน คุณสามารถทำได้ด้วยตนเอง ไม่ต้องพึ่งใคร หรือไม่ต้องกลัวว่าลูกจะมีนิสัยแบบนั้นแบบนี้ เพราะคนเลี้ยงดู ไม่ต้องโทษใครเลยงานนี้ ถ้าลูกจะมีนิสัยอย่างไรก็ขึ้นกับการเลี้ยงดูของคุณแม่นั่นแหละ

3. ทำอาหารและดูแลโภชนาการของลูกได้ด้วยตนเอง
เมื่อคุณแม่เลี้ยงลูกเอง คุณแม่จะสามารถทำอาหารสดใหม่ให้ลูกได้ ไม่ต้องทำทั้งอาทิตย์แล้วฟรีซไว้ สามารถสังเกตุได้ว่าลูกชอบทานอะไร ไม่ชอบอะไร ทำอาหารได้หลากหลายเพื่อฝึกให้ลูกได้ทานอาหารได้หลายชนิด รวมถึงสังเกตุได้ด้วยหากลูกมีอาการแพ้อาหารชนิดใดขึ้นมา เพื่อจะได้แก้ปัญหาที่อาจเกิดขึ้นได้ทันท่วงที

4. ได้ทำอาชีพใหม่ๆ
ที่คุณแม่ไม่เคยได้ทำตอนเป็นพนักงานประจำ ซึ่งสมัยนี้มีอาชีพหรือมีช่องทางมากมายที่คุณแม่ที่เลี้ยงลูกอยู่บ้านสามารถทำควบคู่ไปกับการเลี้ยงลูกได้ เช่น ขายของออนไลน์  เป็นบลอกเกอร์ เป็นนักเขียน เป็นครูสอนทางออนไลน์ในสิ่งที่คุณแม่ถนัด หรือแม้กระทั่ง หากลูกคุณแม่หน้าตาน่ารักก็พาเข้าไปสู่วงการซะเลย บางทีคุณแม่อาจได้เป็นคุณแม่ดาราก็เป็นได้

5. ดูแลลูกได้ โดยไม่ต้องยื่นใบลา
ในยามลูกป่วย คุณแม่สามารถอยู่ดูแลลูกได้ โดยไม่ต้องยื่นใบลา เด็กๆ ใครก็รู้ว่าป่วยกันได้บ่อยๆ ยิ่งถ้าเป็นวัยเข้าโรงเรียนด้วยล่ะก็ ใบลาคุณแม่อาจเต็มตั้งแต่ครึ่งปีก็เป็นได้ หากคุณแม่ยังทำงานประจำ แต่คุณแม่ 24 ชั่วโมงอย่างเรา Don’t care จะมาอีกกี่ป่วย แม่พร้อม แต่ทางที่ดี อย่ามาบ่อยเลยนะโรคภัยไข้เจ็บ แม่เพลียค่ะ

6. ไปเที่ยวได้วันธรรมดา
ไม่ต้องง้อวันหยุด ไปเจอคนเยอะให้กวนใจ ก็แม่ไม่ต้องลางานแล้วนี่นา แพลนเที่ยวของเราก็ง่ายขึ้นมาก รู้มั้ยไปเที่ยววันธรรมดานี่คือดี ที่พักที่จองยากๆ แพงแสนแพงในวันหยุด กลับง่ายดายเมื่อไปวันธรรมดา และถูกเงินอีกด้วย เมื่อก่อนวางแผนเที่ยวที ปีๆนึงก็ต้องกางปฏิทินนัดแนะกับสามีว่าจะหยุดช่วงไหนกัน แต่ต่อจากนี้สบายละแม่ ไปโลด

7. คุณจะรู้จักใช้เงินขึ้นเป็นอย่างมาก
อะไรที่เคยฟุ่มเฟือย ซื้อไปเรื่อย โดยเฉพาะของตัวเองก็จะหายไป คุณจะกลายเป็นคนที่สมถะ เรียบง่าย ใช้ชีวิตแบบมีความสุขโดยไม่ต้องสิ้นเปลือง อะไรที่เคยต้องมีต้องใช้ ก็จะลด ละ เลิกได้ ก็แค่เงินเดือนก้อนใหญ่ๆ หายไปทุกเดือน แค่นั้นเอง ทำไมจะสมถะไม่ได้กันล่ะ เชื่อสิ ถึงเวลานั้น สมถะเกิดเอง ไม่ต้องฝึก ^ ^

เหรียญมี 2 ด้านเสมอ คุณแม่ที่อ่านมาเจ็ดข้อดี อย่าด่วนตัดสินใจ มาดูข้อเสียกันบ้าง แล้วไตร่ตรองก่อนตัดสินใจนะคะ เรื่องนี้เรื่องใหญ่ชีวิตเปลี่ยนเลยนะ

7 ข้อเสียของการเป็นคุณแม่ฟูลไทม์

1. เงินหายค่ะคุณ
เงินเดือนทุกเดือนที่คุณได้รับจากที่ทำงาน ต่อจากนี้สิ้นเดือนข้อความไม่เด้งเตือนแล้วนะคะ ก็คิดดูดีดีก่อนตัดสินใจ ถ้าเงินก้อนนั้นจำเป็นต่อการดำรงชีพของคุณแม่และครอบครัว ก็ต้องคำนวณและตกลงกับคุณสามีให้ถี่ถ้วนเสียก่อน เพราะนั่นหมายถึงรายได้ครอบครัวเลยนะที่จะหายไป

2. สังคมที่ทำงานหายไป
ได้พบปะผู้คน พูดคุยเม้ามอย ละครหลังข่าว รวมถึงข่าวกอสซิป สังคม บันเทิง ที่คุณแม่ทำเป็นกิจวัตรที่ทำงานจะหายวับไปกับตา เหลือแต่ตาดำๆ ที่จ้องมองคุณเหมือนคุณเป็นนางฟ้า จะอ้าปากกอสซิปกับลูกก็กระไรอยู่ คุณแม่อาจเหงาหงอย ลามไปจนถึงซึมเศร้ากันได้เลยทีเดียว

3. คุณแม่จะไม่ได้แต่งตัวสวยๆ
ไปทำงาน ชุดนอนชุดเที่ยวคือชุดเดียวกัน คุณแม่อาจต้องดูแลลูกตลอดเวลาจนไม่มีเวลาดูแลตัวเอง จนร่างกายอาจทรุดโทรม รวมไปถึงไม่มีอารมณ์ที่จะแต่งตัวให้สวยงามดูดี ได้อาบน้ำแบบวิ่งผ่านน้ำก็ดีใจแล้ว

4. คุณแม่อาจได้รับความกดดัน
จากคนในครอบครัว หรือสังคมภายนอก ถึงความคาดหวังที่จะเห็นลูกเป็นเด็กดี มีคุณภาพ ต้องเป็นเด็กไม่ดื้อ เชื่อฟังผู้ใหญ่ เรียนหนังสือเก่ง เพราะแม่มีเวลาสอนด้วยตนเอง ลูกควรได้รับการพัฒนาในทุกๆด้าน หรือลูกควรเป็นผลงานชิ้นโบว์แดงของคุณแม่ โดยหารู้ไม่ว่า ไม่ใช่แม่แค่คนเดียวหรอกค่ะ ที่จะทำให้ลูกดีหรือไม่ดีได้ ทางที่ดีควรให้กำลังใจซึ่งกันและกันในครอบครัว และช่วยกันดูแลลูกดีกว่าให้เป็นหน้าที่ของคนใดคนหนึ่ง

5. คุณแม่อาจไม่มีความภูมิใจในตนเอง
เมื่อก่อนเคยมีงานทำ เวลาคุณทำงานสำเร็จโดยใช้ความสามารถของคุณ ได้รับคำชมคุณก็ภูมิใจ แต่เลี้ยงลูกให้ดียังไง ก็ไม่มีใครมานั่งชม ทำงานมีเงินเดือนเป็นของตนเอง จะใช้อะไรซื้ออะไรแค่ไหนก็ได้ ไม่มีใครว่า ไม่ต้องคิดมาก ณ ตอนนี้คุณไม่ได้สิทธินั้นแล้ว โดยคุณอาจได้รับเงินเดือนจากสามีแทน ซึ่งก็ไม่ใช่เงินที่คุณหามาด้วยน้ำพักน้ำแรง และบ่อยครั้งคุณอาจนึกเกรงใจ ละอายใจ กับการแบมือขอเงิน ที่ทั้งชีวิตคุณอาจไม่เคยทำด้วยซ้ำ  เรื่องนี้ละเอียดอ่อนมากต้องคุยกันให้ดีก่อนตัดสินใจนะคะ

6. คุณอาจกลายเป็นคนติดลูกมากจนเกินไป
เพราะคุณอยู่กับลูกตลอดเวลา จนบางครั้งคุณอาจจะลืมใส่ใจคนอื่น เช่น สามี พ่อแม่ หรือคนที่คุณควรใส่ใจบ้าง จนทำให้พวกเค้าเหล่านั้นน้อยใจ เสียใจ กับการกระทำของคุณ โดยคุณอาจไม่รู้ตัว และอาจนำมาซึ่งปัญหาในภายหลัง ทางที่ดีคุณควรหัดแบ่งเวลา และจัดสรรเวลาดูแลคนทุกคนที่คุณห่วงใยให้ดีที่สุด

7. คุณจะหายไปจากชีวิตเพื่อน Hangout หลังเลิกงานจะไม่มีอีกต่อไป
นัดกินข้าวกับเพื่อนคืออะไร ไม่ได้เจอเพื่อนสนิทมานานแค่ไหน ไม่ได้คุยโทรศัพท์กับเพื่อนนานๆ มากี่เดือนแล้ว คุณจะมีแต่ลูก ลูก กับลูก ถ้าจะนัดเจอเพื่อนก็ได้นะ แต่ต้องขอเอาลูกไปด้วยนะ กินข้าวไปคุยไป ไม่เกินสองชั่วโมงลูกร้องละต้องกลับบ้านก่อนนะเพื่อน นี่แหละที่คุณต้องเจอ แต่เชื่อสิเพื่อนกันไม่ต่อก็ติด

เป็นไงบ้างคะ บวกลบคูณหารข้อดีข้อเสียแล้วตัดสินใจได้หรือยัง เรื่องนี้ไม่ใช่เรื่องง่ายเลยจริงๆ ก่อนที่แมรี่จะตัดสินใจลาออกจากงานประจำก็ใช้เวลาพักใหญ่ๆเลยค่ะ แต่ด้วยเหตุและปัจจัยของแต่ละคน แต่ละบ้านไม่เหมือนกัน จึงต้องพิจารณาไปตามแต่ละคนจริงๆ ไม่สามารถทำตามอย่างใครได้เลยค่ะ ยังไงก็ขอให้คุณแม่ที่กำลังตัดสินใจในเรื่องนี้ใช้เป็นข้อมูลในการพิจารณา และขอให้มีความสุขในทางที่เลือกเดินนะคะ