fbpx

7 เหตุผลว่าทำไมคนเราถึง #หมดPassion กับความรักก่อนแต่งงาน

Writer : Lalimay
: 15 พฤศจิกายน 2561

“ทำไมทั้งๆ ที่คบกันมานาน แต่พอพูดถึงเรื่องแต่งงานกลับกลายเป็นทำให้เราต้องเลิกรากัน?” นี่คงเป็นคำถามที่เกิดขึ้นกับคนที่(เคย)รักกันหลายคู่ บางคู่คบกันมาเป็นสิบๆ ปี คิดอยู่แล้วว่าจะต้องลงเอยด้วยการแต่งงานกันแน่ๆ แต่กลับไม่เป็นเช่นนั้น อาจเป็นเพราะความรู้สึกของคนเรามีการเปลี่ยนแปลงอยู่ตลอดเวลา และมีเหตุผลมากมายที่ทำให้ #หมดPassion และยอมทิ้งความรักในครั้งนั้นก่อนที่จะแต่งงาน

เบื่อของเก่า

ความเบื่อคือตัวแปรสำคัญที่ทำให้คนเราหมดแพชชั่นกับความรักครั้งนี้กันได้ง่ายๆ ความรู้สึกของคนที่อยู่ด้วยกันตลอด ทำอะไรซ้ำๆ ความสม่ำเสมอที่กลายเป็นความชินชาอาจจะไม่หวือหวามากพอที่จะฉุดรั้งให้เรายังอยู่ด้วยกัน จนถึงขั้นแต่งงานต่อไปได้

หวงความโสด

ทั้งๆ ที่คบกันมานาน แต่พอวางแผนถึงการแต่งงานกลับบอกว่าอยากอยู่คนเดียว เป็นเพราะเวลาที่คบกันเป็นแค่คู่รักไม่มีมีข้อผูกมัดอะไรมากมาย แต่เมื่อเป็นสามีภรรยากันแล้วข้อผูกมัดและสิ่งต่างๆ มันจำกัดมากขึ้น จนทำให้คนเรากลัวว่าจะไม่มีอิสระและหมดแพชชั่นก่อนแต่งงาน

มีอุปสรรคเยอะไป

“ความรักเป็นเรื่องของคนสองคน” อาจจะไม่ใช่เรื่องจริงเสมอไป นอกจากคนสองคนแล้ว ยังมีบุคคลที่สอง ที่สาม ที่มักจะเข้ามาเป็นส่วนหนึ่งที่จะตัดสินชีวิตคู่ของเราว่าเหมาะหรือไม่เหมาะสม ทั้งเรื่องฐานะ เข้ากับคนที่บ้านไม่ได้ ถ้าเรายืดหยัดและไม่สนใจก็คงไปกันรอดแต่ถ้าไม่…รักครั้งนี้ก็เจอทางตัน และหมดแพชชั่นที่จะสู้ต่อไปด้วยกันก็ได้

ไม่เห็นอนาคตร่วมกัน

ถึงแม้จะคบกันมานาน แต่ถ้าไม่เห็นว่ามีอนาคตร่วมกันก็เปล่าประโยชน์ เวลาที่คู่รักคบกันแน่นอนว่าต้องมีฝ่ายใดฝ่ายหนึ่งวาดฝันอนาคตไว้ข้างหน้าร่วมกัน แต่ถ้าอีกฝ่ายดันไม่มีคนรักอยู่ในแพลนของอนาคตก็คงไม่มีประโยชน์ที่จะเดินต่อไปด้วยกัน

มีทัศนคติที่เปลี่ยนไป

คนเรามีการเปลี่ยนแปลงกันได้ตลอดเวลา นอกจากเรื่องของความรู้สึกแล้วความคิดก็เปลี่ยนแปลงตลอดเช่นกัน การที่เรามีทัศนคติที่เปลี่ยนไปเกี่ยวกับความรักก็อาจทำให้เลิกรากันได้ เช่น เมื่อก่อนคิดว่าความรักจะสมบูรณ์ต้องมีการแต่งงาน  แต่ตอนนี้คิดว่าการแต่งงานไม่ใช่สิ่งจำเป็น ถ้าคู่ของเรามีความคิดตรงกันก็คงอยู่ด้วยกันได้ แต่ถ้าไม่ก็คงเป็นจุดจบของความรักครั้งนี้

ไม่ทำตามสัญญาที่ให้กันไว้

การที่คนเราเคยสัญญาว่าจะทำอะไรร่วมกันแต่สิ่งนั้นกลับไม่เคยเกิดขึ้นก็ถือเป็นปัจจัยหนึ่งที่ทำให้เราหมดแพชชั่นก่อนที่จะไปต่อ

หมดรัก

ไม่ว่าจะหาเหตุผลมามากมายแค่ไหน คำว่า “หมดรัก” คงเป็นเหตุผลที่หนักแน่นที่สุดแล้ว

Writer Profile : Lalimay

  • Blog :

  • Official Sponsors :
  • Samitivej Hospital

Generic placeholder image

บทความที่เกี่ยวข้อง



ไลฟ์สไตล์ ไลฟ์สไตล์
28 เมษายน 2563
31 มีนาคม 2563
คุณหลงรักลูกตอนไหน
ชีวิตครอบครัว
26 สิงหาคม 2563
ในวันที่ “แม่” รู้สึก “กลัว”
ชีวิตครอบครัว
Update
Banner Banner
เมื่อคุณแม่หลายท่านเป็นกังวลกับเรื่องพัฒนาการสมองและภูมิคุ้มกันที่แตกต่างกันของลูกน้อยที่ผ่าคลอดกับเด็กคลอดธรรมชาติ กลัวว่าลูกน้อยจะมีโอกาสป่วยง่ายหรือมีพัฒนาการสมองช้ากว่าเพื่อนๆ ทำให้คุณแม่ต้องใส่ใจกับการดูแลลูกน้อยมากยิ่งขึ้น เสมือนการเร่งเสริมสร้างเกราะคุ้มกันให้ลูกน้อยเติบโตพร้อมปรับตัวกับโลกยุคใหม่ที่เต็มไปด้วยการเปลี่ยนแปลง วันนี้เราจะพาไปดูเคล็ดไม่ลับ ฉบับการดูแลพัฒนาการสมองของลูกน้อยและภูมิคุ้มกันของเด็กผ่าคลอดที่คุณแม่ไม่ควรมองข้าม ช่วยเติมเต็มในสิ่งที่ลูกผ่าคลอดต้องการได้ ไปดูกันเลย! เกราะคุ้มกันแรกที่หายไปของเด็กผ่าคลอด เด็กผ่าคลอดมักจะป่วยง่ายหรือมีปัญหาสุขภาพมากกว่าเด็กที่คลอดโดยธรรมชาติ เพราะสูญเสียโอกาสในการได้รับเชื้อจุลินทรีย์สุขภาพ ผ่านทางบริเวณช่องคลอดของคุณแม่ ทำให้เกราะคุ้มกันแรกเกิดของลูกน้อยผ่าคลอดหายไปส่งผลให้เด็กมีพัฒนาการทางระบบภูมิคุ้มกันตั้งต้นช้ากว่าเด็กที่คลอดตามธรรมชาติ บิฟิโดแบคทีเรียม แล็กทิส (B. lactis) เป็นจุลินทรีย์ชนิดดีที่ช่วยเสริมสร้างภูมิคุ้มกันตั้งต้น โดยเฉพาะระบบภูมิคุ้มกันในระบบทางเดินอาหาร คุณแม่จึงต้องเร่งเสริมสร้างเกราะคุ้มกันให้ลูกน้อยมีพื้นฐานที่ดีตั้งแต่เริ่มต้น เพื่อช่วยให้ลูกน้อยของเรามีมีระบบภูมิคุ้มกันที่ดีขึ้น เสริมสร้างพัฒนาการด้านสมองของเด็กผ่าคลอดด้วย “แอลฟาแล็ค สฟิงโกไมอีลิน” “แอลฟาแล็ค สฟิงโกไมอีลิน” คือสารอาหารที่พบมากในนมแม่ เป็นส่วนสำคัญที่ทำให้การทำงานสมองของลูกน้อยมีประสิทธิภาพ สร้างสมองไวกว่าเดิม เชื่อมต่อเซลล์สมอง 1 แสนล้านเซล์ อัพเกรดเด็กเจนใหม่ โดยสร้างสารสื่อประสาทในสมอง และเพิ่มความเร็วการส่งสัญญาณประสาทแบบก้าวกระโดด “สฟิงโกไมอีลิน” คือ ไขมันกลุ่มฟอสโฟไลปิด พบได้มากในน้ำนมแม่ที่อุดมไปด้วยสารอาหารกว่า 200 ชนิด ซึ่ง “สฟิงโกไมอีลิน”เป็นองค์ประกอบในการสร้างปลอกไมอีลิน ซึ่งมีผลต่อการทำงานของสมองให้ส่งสัญญาณประสาทได้ไวและประมวลผลอย่างมีประสิทธิภาพ ทำให้เกิดการจดจำเร็ว เรียนรู้ไว สมองของเด็กผ่าคลอดและเด็กที่คลอดตามธรรมชาติ มีการสร้างไมอีลินในสมองแตกต่างกัน โดยเฉพาะที่ส่วนของสมอง ที่ทำหน้าที่เชื่อมโยงระหว่างสมองซีกซ้ายและซีกขวา คุณแม่จึงควรคำนึงถึงจุดเริ่มต้นที่แตกต่าง ของเด็กผ่าคลอดเจนใหม่ ด้วยการเตรียมสมองไวและภูมิคุ้มกันที่ดีด้วย “แอลฟาแล็ค สฟิงโกไมอีลิน” และ บิฟิโดแบคทีเรียม แล็กทิส (B. lactis) จากนมแม่ให้ลูกน้อยยิ่งเริ่มเร็วก็ยิ่งดี เพราะพัฒนาการสมองที่ดีในวัยเด็ก ถือเป็นรากฐานสำคัญ ไม่ว่าจะเป็นการมองเห็น การได้ยิน หรือการเรียนรู้ภาษาสิ่งเหล่านี้ล้วนเกิดจากพัฒนาการของสมองเพราะสมองคือจุดเริ่มต้น ของทุกพัฒนาการของลูกน้อย เตรียมพร้อมเด็กผ่าคลอดให้มีสมองไวและภูมิคุ้มกันที่ดีขึ้นได้ คุณแม่สามารถเติมเต็มในสิ่งที่ลูกน้อยผ่าคลอดต้องการได้ด้วยสารอาหารที่สำคัญอย่างเช่น “แอลฟาแล็ค สฟิงโกไมอีลิน” ที่ช่วยเพิ่มความเร็วในการส่งสัญญาณประสาทได้เร็วและมีประสิทธิภาพมากขึ้น และโพรไบโอติก บิฟิโดแบคทีเรียม แล็กทิส (B. lactis) ตัวช่วยที่ทำให้ลูกน้อยมีภูมิคุ้มกันสุขภาพที่ดี ดังนั้นคุณแม่ก็วางใจได้ หากเราเสริมสร้าง…
3 กันยายน 2568

anal porno zdarma culi nudi al mare free sex videos antalya escort

เราใช้คุกกี้เพื่อพัฒนาประสิทธิภาพ และประสบการณ์ที่ดีในการใช้เว็บไซต์ของคุณ คุณสามารถศึกษารายละเอียดได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และสามารถจัดการความเป็นส่วนตัวเองได้ของคุณได้เองโดยคลิกที่ ตั้งค่า

Privacy Preferences

คุณสามารถเลือกการตั้งค่าคุกกี้โดยเปิด/ปิด คุกกี้ในแต่ละประเภทได้ตามความต้องการ ยกเว้น คุกกี้ที่จำเป็น

Allow All
Manage Consent Preferences
  • Always Active

Save