fbpx

NEWS: พ่อแม่ใจสลาย เด็ก 4 เดือนติดโควิดเสียชีวิต พบเด็กติดโควิดแล้ว 33,226 ราย

Writer : Lalimay
: 10 สิงหาคม 2564

จากสถานการณ์การแพร่ระบาดของเชื้อไวรัสโควิด-19 ในขณะนี้ ส่งผลให้พบผู้เสียชีวิตทุกวัน ล่าสุดเป็นเด็กวัย 4 เดือน และก่อนหน้านั้นก็เป็นเด็กอายุเพียง 14 วันเท่านั้น

พญ.อภิสมัย ศรีรังสรรค์ ผู้ช่วยโฆษกศูนย์บริหารสถานการณ์โควิด-19 (ศบค.) ได้ให้ข้อมูลกรณีที่มีผู้เสียชีวิตจำนวน 149 รายว่าหนึ่งในนั้นเป็นเด็กทารก 4 เดือนเป็นชาวเมียนมา จ.สมุทรปราการ ส่วนเมื่อวันที่ 8 ส.ค.ที่ผ่านมา มีรายงานทารกอายุ 14 วันเสียชีวิตเช่นกัน เป็นชาวเมียนมาจากเพชรบูรณ์

โดยสถานการณ์การติดเชื้อโควิด-19 ในเด็ก พบว่าเด็กไทยติดโควิดรวม 33,226 ราย เสียชีวิตรวม 9 ราย ในจำนวนนี้มีโรคประจำตัวมากถึง 8 ราย ได้แก่

  • พิการทางสมอง 3 ราย
  • มะเร็ง 2 ราย
  • โรคหัวใจ โรคเบาหวาน และโรคลมชักอย่างละ 1 ราย

ซึ่งเด็กที่ติดเชื้อโควิด-19 และพบว่าไม่มีอาการมีถึง 71% (23,619 ราย) และมีอาการ 29% (9607 ราย) จากจำนวนผู้ติดเชื้อเด็กทั้งสิ้น 33,226 ราย โดยในกลุ่มที่มีอาการนั้น จะมีอาการเด่นได้แก่ 

  • ไอ 21.82% 
  • ไข้ 16.79% 
  • น้ำมูก 13.38% 
  • เจ็บคอ 11.45% 
  • ปวดหัว 5.15% 
  • เสมหะ  4.64%

ส่วนอาการจมูกไม่ได้กลิ่น ลิ้นไม่ได้รับรสมีเพียง 1.79%  และอาการอ่อนเพลียพบน้อยมากเพียง 0.22%

ดังนั้นจะเห็นได้ว่าอาการเด่นของเด็กนั้นคือ ลักษณะของการเป็นไข้หวัดธรรมดา จึงทำให้พ่อแม่แยกอาการของลูกหลานจากการเป็นไข้หวัดธรรมดาได้ยาก เพราะโควิด-19 ของเด็กนั้น ไม่ค่อยมีอาการอ่อนเพลีย ปวดเมื่อยกล้ามเนื้อ รวมทั้งอาการไม่ได้กลิ่นและการไม่ได้รับรสของเด็กก็พบน้อยด้วยเช่นกัน จึงมักทำให้เด็กได้รับการวินิจฉัยช้า

อ้างอิงจาก

https://www.khaosod.co.th/covid-19/news_6554307

https://www.thansettakij.com/general-news/490914

 

Writer Profile : Lalimay

  • Blog :

  • Official Sponsors :
  • Samitivej Hospital

Generic placeholder image

บทความที่เกี่ยวข้อง



Update
Banner Banner
เมื่อคุณแม่หลายท่านเป็นกังวลกับเรื่องพัฒนาการสมองและภูมิคุ้มกันที่แตกต่างกันของลูกน้อยที่ผ่าคลอดกับเด็กคลอดธรรมชาติ กลัวว่าลูกน้อยจะมีโอกาสป่วยง่ายหรือมีพัฒนาการสมองช้ากว่าเพื่อนๆ ทำให้คุณแม่ต้องใส่ใจกับการดูแลลูกน้อยมากยิ่งขึ้น เสมือนการเร่งเสริมสร้างเกราะคุ้มกันให้ลูกน้อยเติบโตพร้อมปรับตัวกับโลกยุคใหม่ที่เต็มไปด้วยการเปลี่ยนแปลง วันนี้เราจะพาไปดูเคล็ดไม่ลับ ฉบับการดูแลพัฒนาการสมองของลูกน้อยและภูมิคุ้มกันของเด็กผ่าคลอดที่คุณแม่ไม่ควรมองข้าม ช่วยเติมเต็มในสิ่งที่ลูกผ่าคลอดต้องการได้ ไปดูกันเลย! เกราะคุ้มกันแรกที่หายไปของเด็กผ่าคลอด เด็กผ่าคลอดมักจะป่วยง่ายหรือมีปัญหาสุขภาพมากกว่าเด็กที่คลอดโดยธรรมชาติ เพราะสูญเสียโอกาสในการได้รับเชื้อจุลินทรีย์สุขภาพ ผ่านทางบริเวณช่องคลอดของคุณแม่ ทำให้เกราะคุ้มกันแรกเกิดของลูกน้อยผ่าคลอดหายไปส่งผลให้เด็กมีพัฒนาการทางระบบภูมิคุ้มกันตั้งต้นช้ากว่าเด็กที่คลอดตามธรรมชาติ บิฟิโดแบคทีเรียม แล็กทิส (B. lactis) เป็นจุลินทรีย์ชนิดดีที่ช่วยเสริมสร้างภูมิคุ้มกันตั้งต้น โดยเฉพาะระบบภูมิคุ้มกันในระบบทางเดินอาหาร คุณแม่จึงต้องเร่งเสริมสร้างเกราะคุ้มกันให้ลูกน้อยมีพื้นฐานที่ดีตั้งแต่เริ่มต้น เพื่อช่วยให้ลูกน้อยของเรามีมีระบบภูมิคุ้มกันที่ดีขึ้น เสริมสร้างพัฒนาการด้านสมองของเด็กผ่าคลอดด้วย “แอลฟาแล็ค สฟิงโกไมอีลิน” “แอลฟาแล็ค สฟิงโกไมอีลิน” คือสารอาหารที่พบมากในนมแม่ เป็นส่วนสำคัญที่ทำให้การทำงานสมองของลูกน้อยมีประสิทธิภาพ สร้างสมองไวกว่าเดิม เชื่อมต่อเซลล์สมอง 1 แสนล้านเซล์ อัพเกรดเด็กเจนใหม่ โดยสร้างสารสื่อประสาทในสมอง และเพิ่มความเร็วการส่งสัญญาณประสาทแบบก้าวกระโดด “สฟิงโกไมอีลิน” คือ ไขมันกลุ่มฟอสโฟไลปิด พบได้มากในน้ำนมแม่ที่อุดมไปด้วยสารอาหารกว่า 200 ชนิด ซึ่ง “สฟิงโกไมอีลิน”เป็นองค์ประกอบในการสร้างปลอกไมอีลิน ซึ่งมีผลต่อการทำงานของสมองให้ส่งสัญญาณประสาทได้ไวและประมวลผลอย่างมีประสิทธิภาพ ทำให้เกิดการจดจำเร็ว เรียนรู้ไว สมองของเด็กผ่าคลอดและเด็กที่คลอดตามธรรมชาติ มีการสร้างไมอีลินในสมองแตกต่างกัน โดยเฉพาะที่ส่วนของสมอง ที่ทำหน้าที่เชื่อมโยงระหว่างสมองซีกซ้ายและซีกขวา คุณแม่จึงควรคำนึงถึงจุดเริ่มต้นที่แตกต่าง ของเด็กผ่าคลอดเจนใหม่ ด้วยการเตรียมสมองไวและภูมิคุ้มกันที่ดีด้วย “แอลฟาแล็ค สฟิงโกไมอีลิน” และ บิฟิโดแบคทีเรียม แล็กทิส (B. lactis) จากนมแม่ให้ลูกน้อยยิ่งเริ่มเร็วก็ยิ่งดี เพราะพัฒนาการสมองที่ดีในวัยเด็ก ถือเป็นรากฐานสำคัญ ไม่ว่าจะเป็นการมองเห็น การได้ยิน หรือการเรียนรู้ภาษาสิ่งเหล่านี้ล้วนเกิดจากพัฒนาการของสมองเพราะสมองคือจุดเริ่มต้น ของทุกพัฒนาการของลูกน้อย เตรียมพร้อมเด็กผ่าคลอดให้มีสมองไวและภูมิคุ้มกันที่ดีขึ้นได้ คุณแม่สามารถเติมเต็มในสิ่งที่ลูกน้อยผ่าคลอดต้องการได้ด้วยสารอาหารที่สำคัญอย่างเช่น “แอลฟาแล็ค สฟิงโกไมอีลิน” ที่ช่วยเพิ่มความเร็วในการส่งสัญญาณประสาทได้เร็วและมีประสิทธิภาพมากขึ้น และโพรไบโอติก บิฟิโดแบคทีเรียม แล็กทิส (B. lactis) ตัวช่วยที่ทำให้ลูกน้อยมีภูมิคุ้มกันสุขภาพที่ดี ดังนั้นคุณแม่ก็วางใจได้ หากเราเสริมสร้าง…
3 กันยายน 2568

anal porno zdarma culi nudi al mare free sex videos antalya escort

เราใช้คุกกี้เพื่อพัฒนาประสิทธิภาพ และประสบการณ์ที่ดีในการใช้เว็บไซต์ของคุณ คุณสามารถศึกษารายละเอียดได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และสามารถจัดการความเป็นส่วนตัวเองได้ของคุณได้เองโดยคลิกที่ ตั้งค่า

Privacy Preferences

คุณสามารถเลือกการตั้งค่าคุกกี้โดยเปิด/ปิด คุกกี้ในแต่ละประเภทได้ตามความต้องการ ยกเว้น คุกกี้ที่จำเป็น

Allow All
Manage Consent Preferences
  • Always Active

Save