fbpx

NEWS: สสส. แนะนำ 3 เครื่องมือเพื่อการเรียนรู้ สำหรับเด็กในสถานการณ์โควิด-19

: 3 กันยายน 2564

สำนักงานกองทุนสนับสนุนการสร้างเสริมสุขภาพ (สสส.) ได้เปิดเวที Thaihealth Watch Talk ในหัวข้อเครื่องมือเพื่อการเรียนรู้สำหรับเด็กในช่วง COVID-19” เผยให้เห็นว่าเด็กในช่วงเวลาดังกล่าวกำลังเผชิญหน้ากับภาวะเนือยนิ่ง เครียด ไร้สุข ซึ่งมาจากสถานการณ์รอบตัวเหล่านี้เอง

ด้วยการเรียนออนไลน์นั้นต่างมีอุปสรรคมากมาย ทั้งเรื่องอุปกรณ์ ความไม่คุ้นชิน ขาดกิจกรรมทางกาย เพราะใช้เวลาส่วนมาอยู่บนเก้าอี้ ส่งผลให้เด็กเฉื่อยชา การเรียนรู้ไม่เกิดประสิทธิภาพ ซึ่งสสส. ก็ได้เสนอเครื่องมือที่จำเป็นสำหรับการเรียนรู้ของเด็กเมื่ออยู่ในบ้าน นั่นคือการอ่านอิสระการเล่นนั่นเอง

 

อิสระ: คุณประสพสุข โบราณมูล ผู้ประสานงานเครือข่ายเล่นเปลี่ยนโลก ได้เสนอเครื่องมือการเรียนรู้ที่เด็กในครอบครัวทุกคนสามารถเริ่มทำได้เลยภายในบ้าน ก็คือการเล่นอิสระนั่นเอง การเล่นนั้นนับเป็นการเรียนรู้สำหรับเด็ก แต่ในสถานการณ์เหล่านี้ที่เด็ก ๆ ไม่สามารถออกไปเล่นนอกบ้านได้ ควรจัดมุมอิสระให้ลูกได้เล่นอยู่ในบ้าน โดยใช้สิ่งที่มีอยู่แล้วอย่าง กล่อง กระดาษ ขวดน้ำ ถังทราย หรือของใช้อื่น ๆ มาดัดแปลงเป็นของเล่น ให้ลูกน้อยได้เสริมสร้างจินตนาการ เปิดโอกาสให้เด็กเรียนรู้ และลดความตึงเครียดจากสถานการณ์โควิด-19 ได้อีกด้วย

การอ่าน: คุณสุดใจ พรหมเกิด ผู้จัดการแผนงานสร้างเสริมวัฒนธรรมการอ่านสสส. ได้แนะนำการอ่านเป็นสิ่งสำคัญ ให้คุณพ่อคุณแม่จัดเวลาอ่านหนังสือกับลูกน้อยอย่างสม่ำเสมอ อย่างน้อย 10 นาทีต่อวัน โดยเด็กเล็กให้อ่านออกเสียงให้ลูกฟัง การอ่านจะช่วยให้เด็กเปิดโลกทัศน์ให้ไกลจากบ้านที่คุ้นเคย

การเล่น: คุณสายใจ คงทน ผู้ริเริ่มโครงการมหัศจรรย์สื่อสร้างสรรค์ในศูนย์พัฒนาเด็กเล็ก 3 ดีวิถีสุขกับการใช้พื้นที่สร้างสรรค์เพื่อการเรียนรู้ในเด็ก ได้เผยว่าในปัจจุบันเด็กเล็กและทุกคนในครอบครัวต่างใช้สื่อหน้าจอมากขึ้น เจอหน้ากันน้อยลง จึงอยากผลักดันให้ครอบครัวได้จัดมุมเล่นหรือพื้นที่สร้างสรรค์ภายในบ้าน

การละเล่นนั้นไม่จำเป็นต้องเป็นการเล่นของเล่นเสียทีเดียว แต่เป็นกิจกรรมในชีวิตประจำวันอย่างการทำอาหาร ปลูกต้นไม้ หรือทำงานศิลปะร่วมกัน โดยคุณพ่อคุณแม่สามารถเป็นสื่อสร้างสรรค์ให้ลูกน้อยได้เช่นกัน เพื่อสร้างความสัมพันธ์และเหตุการณ์ดี ๆ ในช่วงวิกฤตินี้ได้ค่ะ

อ้างอิงจาก https://bit.ly/3yJ0i2u

Writer Profile : phanthirapuyou

  • Blog :
  • Social Media :

  • Official Sponsors :
  • Samitivej Hospital

Generic placeholder image

บทความที่เกี่ยวข้อง



Update
Banner Banner
เมื่อคุณแม่หลายท่านเป็นกังวลกับเรื่องพัฒนาการสมองและภูมิคุ้มกันที่แตกต่างกันของลูกน้อยที่ผ่าคลอดกับเด็กคลอดธรรมชาติ กลัวว่าลูกน้อยจะมีโอกาสป่วยง่ายหรือมีพัฒนาการสมองช้ากว่าเพื่อนๆ ทำให้คุณแม่ต้องใส่ใจกับการดูแลลูกน้อยมากยิ่งขึ้น เสมือนการเร่งเสริมสร้างเกราะคุ้มกันให้ลูกน้อยเติบโตพร้อมปรับตัวกับโลกยุคใหม่ที่เต็มไปด้วยการเปลี่ยนแปลง วันนี้เราจะพาไปดูเคล็ดไม่ลับ ฉบับการดูแลพัฒนาการสมองของลูกน้อยและภูมิคุ้มกันของเด็กผ่าคลอดที่คุณแม่ไม่ควรมองข้าม ช่วยเติมเต็มในสิ่งที่ลูกผ่าคลอดต้องการได้ ไปดูกันเลย! เกราะคุ้มกันแรกที่หายไปของเด็กผ่าคลอด เด็กผ่าคลอดมักจะป่วยง่ายหรือมีปัญหาสุขภาพมากกว่าเด็กที่คลอดโดยธรรมชาติ เพราะสูญเสียโอกาสในการได้รับเชื้อจุลินทรีย์สุขภาพ ผ่านทางบริเวณช่องคลอดของคุณแม่ ทำให้เกราะคุ้มกันแรกเกิดของลูกน้อยผ่าคลอดหายไปส่งผลให้เด็กมีพัฒนาการทางระบบภูมิคุ้มกันตั้งต้นช้ากว่าเด็กที่คลอดตามธรรมชาติ บิฟิโดแบคทีเรียม แล็กทิส (B. lactis) เป็นจุลินทรีย์ชนิดดีที่ช่วยเสริมสร้างภูมิคุ้มกันตั้งต้น โดยเฉพาะระบบภูมิคุ้มกันในระบบทางเดินอาหาร คุณแม่จึงต้องเร่งเสริมสร้างเกราะคุ้มกันให้ลูกน้อยมีพื้นฐานที่ดีตั้งแต่เริ่มต้น เพื่อช่วยให้ลูกน้อยของเรามีมีระบบภูมิคุ้มกันที่ดีขึ้น เสริมสร้างพัฒนาการด้านสมองของเด็กผ่าคลอดด้วย “แอลฟาแล็ค สฟิงโกไมอีลิน” “แอลฟาแล็ค สฟิงโกไมอีลิน” คือสารอาหารที่พบมากในนมแม่ เป็นส่วนสำคัญที่ทำให้การทำงานสมองของลูกน้อยมีประสิทธิภาพ สร้างสมองไวกว่าเดิม เชื่อมต่อเซลล์สมอง 1 แสนล้านเซล์ อัพเกรดเด็กเจนใหม่ โดยสร้างสารสื่อประสาทในสมอง และเพิ่มความเร็วการส่งสัญญาณประสาทแบบก้าวกระโดด “สฟิงโกไมอีลิน” คือ ไขมันกลุ่มฟอสโฟไลปิด พบได้มากในน้ำนมแม่ที่อุดมไปด้วยสารอาหารกว่า 200 ชนิด ซึ่ง “สฟิงโกไมอีลิน”เป็นองค์ประกอบในการสร้างปลอกไมอีลิน ซึ่งมีผลต่อการทำงานของสมองให้ส่งสัญญาณประสาทได้ไวและประมวลผลอย่างมีประสิทธิภาพ ทำให้เกิดการจดจำเร็ว เรียนรู้ไว สมองของเด็กผ่าคลอดและเด็กที่คลอดตามธรรมชาติ มีการสร้างไมอีลินในสมองแตกต่างกัน โดยเฉพาะที่ส่วนของสมอง ที่ทำหน้าที่เชื่อมโยงระหว่างสมองซีกซ้ายและซีกขวา คุณแม่จึงควรคำนึงถึงจุดเริ่มต้นที่แตกต่าง ของเด็กผ่าคลอดเจนใหม่ ด้วยการเตรียมสมองไวและภูมิคุ้มกันที่ดีด้วย “แอลฟาแล็ค สฟิงโกไมอีลิน” และ บิฟิโดแบคทีเรียม แล็กทิส (B. lactis) จากนมแม่ให้ลูกน้อยยิ่งเริ่มเร็วก็ยิ่งดี เพราะพัฒนาการสมองที่ดีในวัยเด็ก ถือเป็นรากฐานสำคัญ ไม่ว่าจะเป็นการมองเห็น การได้ยิน หรือการเรียนรู้ภาษาสิ่งเหล่านี้ล้วนเกิดจากพัฒนาการของสมองเพราะสมองคือจุดเริ่มต้น ของทุกพัฒนาการของลูกน้อย เตรียมพร้อมเด็กผ่าคลอดให้มีสมองไวและภูมิคุ้มกันที่ดีขึ้นได้ คุณแม่สามารถเติมเต็มในสิ่งที่ลูกน้อยผ่าคลอดต้องการได้ด้วยสารอาหารที่สำคัญอย่างเช่น “แอลฟาแล็ค สฟิงโกไมอีลิน” ที่ช่วยเพิ่มความเร็วในการส่งสัญญาณประสาทได้เร็วและมีประสิทธิภาพมากขึ้น และโพรไบโอติก บิฟิโดแบคทีเรียม แล็กทิส (B. lactis) ตัวช่วยที่ทำให้ลูกน้อยมีภูมิคุ้มกันสุขภาพที่ดี ดังนั้นคุณแม่ก็วางใจได้ หากเราเสริมสร้าง…
3 กันยายน 2568

anal porno zdarma culi nudi al mare free sex videos antalya escort

เราใช้คุกกี้เพื่อพัฒนาประสิทธิภาพ และประสบการณ์ที่ดีในการใช้เว็บไซต์ของคุณ คุณสามารถศึกษารายละเอียดได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และสามารถจัดการความเป็นส่วนตัวเองได้ของคุณได้เองโดยคลิกที่ ตั้งค่า

Privacy Preferences

คุณสามารถเลือกการตั้งค่าคุกกี้โดยเปิด/ปิด คุกกี้ในแต่ละประเภทได้ตามความต้องการ ยกเว้น คุกกี้ที่จำเป็น

Allow All
Manage Consent Preferences
  • Always Active

Save