fbpx

NEWS : กรมอนามัยแนะศูนย์เด็กเล็ก-โรงเรียน เฝ้าระวังโรคมือ เท้า ปากในช่วงเปิดเทอม

Writer : Phitchakon
: 23 พฤษภาคม 2565

ช่วงฤดูฝนเช่นนี้ สิ่งที่น่ากังวลใจย่อมหนีไม่พ้นเรื่องโรคภัยไข้เจ็บต่างๆ ไม่ว่าจะเป็นไข้หวัดใหญ่ ไข้เลือดออก หรือปอดบวม รวมไปถึงโรคมือ เท้า ปากซึ่งพบได้บ่อยในกลุ่มเด็กทารก หรือเด็กอายุต่ำกว่า 5 ปีที่มีภูมิคุ้มกันต่ำกว่าวัยอื่นๆ

นายแพทย์สุวรรณชัย วัฒนายิ่งเจริญชัย อธิบดีกรมอนามัย จึงแนะนำว่า ในช่วงปิดเทอมที่เด็กอยู่รวมตัวกันเป็นจำนวนมาก ศูนย์เด็กเล็กและโรงเรียนควรมีการตรวจคัดกรองก่อนเข้าเรียนทุกวัน และดูแลเด็กด้วยหลัก 4 ร. ได้แก่

  • ร.รักษาความสะอาด :

หมั่นทำความสะอาดสถานที่ สิ่งของ และภาชนะที่เด็กใช้ร่วมกัน โดยใช้น้ำยาทำความสะอาดที่มีส่วนผสมของคลอรีน หากเป็นสิ่งของที่เด็กสามารถนำเข้าปากได้ให้ล้างด้วยสบู่ ตามด้วยน้ำสะอาดและนำไปตากแดดหรือเช็ดให้แห้ง หากมีเด็กป่วยเพิ่มขึ้นให้ปิดห้องเรียน และจัดการทำความสะอาดเพื่อป้องกันการแพร่ระบาด

  • ร.รักษาสุขอนามัย :

แนะนำเด็กล้างมือทั้งก่อนและหลังอาหาร หลังการขับถ่าย จัดเตรียมเครื่องใช้ส่วนตัวแยกเป็นบุคคล ไม่ให้ใช้ร่วมกัน คอยตรวจสอบความสะอาดของอาหารและน้ำดื่ม ส่วนผู้ที่มีหน้าที่ดูแลเด็กต้องดูแลรักษาความสะอาดของตนเองอย่างเคร่งครัดเช่นเดียวกัน

  • ร.รู้ทันสังเกต :

สังเกตอาการของโรค เด็กที่เป็นโรคมือ เท้า ปากมักเริ่มด้วยการมีไข้ มีอาการเจ็บปาก น้ำลายไหล มีผื่นแดง หรือตุ่มน้ำใสขึ้นบริเวณมือ เท้า ปาก โดยมักมีอาการอยู่ 2-3 วัน จากนั้นจะค่อยๆ ดีขึ้นจนหายเป็นปกติใน 7-10 วัน

  • ร.ระวัง :

ระวังอาการรุนแรง หรือภาวะแทรกซ้อน มีไข้สูง หอบเหนื่อย ซึม กล้ามเนื้ออ่อนแรง หากพบว่าเด็กมีอาการดังกล่าว ควรพาพบแพทย์ในทันที

อ้างอิงจาก https://www.bangkokbiznews.com/social/1005749

Writer Profile : Phitchakon

  • Blog :
  • Social Media :

  • Official Sponsors :
  • Samitivej Hospital

Generic placeholder image

บทความที่เกี่ยวข้อง



Update
Banner Banner
เมื่อคุณแม่หลายท่านเป็นกังวลกับเรื่องพัฒนาการสมองและภูมิคุ้มกันที่แตกต่างกันของลูกน้อยที่ผ่าคลอดกับเด็กคลอดธรรมชาติ กลัวว่าลูกน้อยจะมีโอกาสป่วยง่ายหรือมีพัฒนาการสมองช้ากว่าเพื่อนๆ ทำให้คุณแม่ต้องใส่ใจกับการดูแลลูกน้อยมากยิ่งขึ้น เสมือนการเร่งเสริมสร้างเกราะคุ้มกันให้ลูกน้อยเติบโตพร้อมปรับตัวกับโลกยุคใหม่ที่เต็มไปด้วยการเปลี่ยนแปลง วันนี้เราจะพาไปดูเคล็ดไม่ลับ ฉบับการดูแลพัฒนาการสมองของลูกน้อยและภูมิคุ้มกันของเด็กผ่าคลอดที่คุณแม่ไม่ควรมองข้าม ช่วยเติมเต็มในสิ่งที่ลูกผ่าคลอดต้องการได้ ไปดูกันเลย! เกราะคุ้มกันแรกที่หายไปของเด็กผ่าคลอด เด็กผ่าคลอดมักจะป่วยง่ายหรือมีปัญหาสุขภาพมากกว่าเด็กที่คลอดโดยธรรมชาติ เพราะสูญเสียโอกาสในการได้รับเชื้อจุลินทรีย์สุขภาพ ผ่านทางบริเวณช่องคลอดของคุณแม่ ทำให้เกราะคุ้มกันแรกเกิดของลูกน้อยผ่าคลอดหายไปส่งผลให้เด็กมีพัฒนาการทางระบบภูมิคุ้มกันตั้งต้นช้ากว่าเด็กที่คลอดตามธรรมชาติ บิฟิโดแบคทีเรียม แล็กทิส (B. lactis) เป็นจุลินทรีย์ชนิดดีที่ช่วยเสริมสร้างภูมิคุ้มกันตั้งต้น โดยเฉพาะระบบภูมิคุ้มกันในระบบทางเดินอาหาร คุณแม่จึงต้องเร่งเสริมสร้างเกราะคุ้มกันให้ลูกน้อยมีพื้นฐานที่ดีตั้งแต่เริ่มต้น เพื่อช่วยให้ลูกน้อยของเรามีมีระบบภูมิคุ้มกันที่ดีขึ้น เสริมสร้างพัฒนาการด้านสมองของเด็กผ่าคลอดด้วย “แอลฟาแล็ค สฟิงโกไมอีลิน” “แอลฟาแล็ค สฟิงโกไมอีลิน” คือสารอาหารที่พบมากในนมแม่ เป็นส่วนสำคัญที่ทำให้การทำงานสมองของลูกน้อยมีประสิทธิภาพ สร้างสมองไวกว่าเดิม เชื่อมต่อเซลล์สมอง 1 แสนล้านเซล์ อัพเกรดเด็กเจนใหม่ โดยสร้างสารสื่อประสาทในสมอง และเพิ่มความเร็วการส่งสัญญาณประสาทแบบก้าวกระโดด “สฟิงโกไมอีลิน” คือ ไขมันกลุ่มฟอสโฟไลปิด พบได้มากในน้ำนมแม่ที่อุดมไปด้วยสารอาหารกว่า 200 ชนิด ซึ่ง “สฟิงโกไมอีลิน”เป็นองค์ประกอบในการสร้างปลอกไมอีลิน ซึ่งมีผลต่อการทำงานของสมองให้ส่งสัญญาณประสาทได้ไวและประมวลผลอย่างมีประสิทธิภาพ ทำให้เกิดการจดจำเร็ว เรียนรู้ไว สมองของเด็กผ่าคลอดและเด็กที่คลอดตามธรรมชาติ มีการสร้างไมอีลินในสมองแตกต่างกัน โดยเฉพาะที่ส่วนของสมอง ที่ทำหน้าที่เชื่อมโยงระหว่างสมองซีกซ้ายและซีกขวา คุณแม่จึงควรคำนึงถึงจุดเริ่มต้นที่แตกต่าง ของเด็กผ่าคลอดเจนใหม่ ด้วยการเตรียมสมองไวและภูมิคุ้มกันที่ดีด้วย “แอลฟาแล็ค สฟิงโกไมอีลิน” และ บิฟิโดแบคทีเรียม แล็กทิส (B. lactis) จากนมแม่ให้ลูกน้อยยิ่งเริ่มเร็วก็ยิ่งดี เพราะพัฒนาการสมองที่ดีในวัยเด็ก ถือเป็นรากฐานสำคัญ ไม่ว่าจะเป็นการมองเห็น การได้ยิน หรือการเรียนรู้ภาษาสิ่งเหล่านี้ล้วนเกิดจากพัฒนาการของสมองเพราะสมองคือจุดเริ่มต้น ของทุกพัฒนาการของลูกน้อย เตรียมพร้อมเด็กผ่าคลอดให้มีสมองไวและภูมิคุ้มกันที่ดีขึ้นได้ คุณแม่สามารถเติมเต็มในสิ่งที่ลูกน้อยผ่าคลอดต้องการได้ด้วยสารอาหารที่สำคัญอย่างเช่น “แอลฟาแล็ค สฟิงโกไมอีลิน” ที่ช่วยเพิ่มความเร็วในการส่งสัญญาณประสาทได้เร็วและมีประสิทธิภาพมากขึ้น และโพรไบโอติก บิฟิโดแบคทีเรียม แล็กทิส (B. lactis) ตัวช่วยที่ทำให้ลูกน้อยมีภูมิคุ้มกันสุขภาพที่ดี ดังนั้นคุณแม่ก็วางใจได้ หากเราเสริมสร้าง…
3 กันยายน 2568

anal porno zdarma culi nudi al mare free sex videos antalya escort

เราใช้คุกกี้เพื่อพัฒนาประสิทธิภาพ และประสบการณ์ที่ดีในการใช้เว็บไซต์ของคุณ คุณสามารถศึกษารายละเอียดได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และสามารถจัดการความเป็นส่วนตัวเองได้ของคุณได้เองโดยคลิกที่ ตั้งค่า

Privacy Preferences

คุณสามารถเลือกการตั้งค่าคุกกี้โดยเปิด/ปิด คุกกี้ในแต่ละประเภทได้ตามความต้องการ ยกเว้น คุกกี้ที่จำเป็น

Allow All
Manage Consent Preferences
  • Always Active

Save