fbpx

NEWS : พ่อแม่ต้องระวัง! หนูน้อยวัย 2 ขวบกดปุ่มล็อกประตู พ่อแม่ไม่ควรปล่อยลูกอยู่ในรถตามลำพัง

Writer : Jicko
: 9 มีนาคม 2565

เพราะความประมาทเกิดได้ทุกเมื่อ และเหตุการณ์ที่ปล่อยลูกไว้ลำพังบนรถก็เป็นอีกเหตุการณ์หนึ่งที่มักเกิดขึ้นและมีให้เห็นอยู่บ่อยครั้ง แต่ก็ไม่ได้ทำให้พ่อแม่บางคนระมัดระวังกันมากขึ้นด้วยเช่นกัน

โดยศูนย์ข่าวหาดใหญ่รายงานว่า เมื่อวันนี้ (9 มี.ค.) เกิดเหตุการณ์เด็กติดอยู่ในรถยนต์อีกครั้งจากความชะล่าใจของพ่อแม่ ที่คิดว่าลงจากรถแค่แป๊บเดียว รวมทั้งความซุกซนของเด็กทำให้ไปกดปุ่มในรถเล่น เหตุการณ์นี้เจ้าหน้าที่หน่วยกู้ภัยมูลนิธิมิตรภาพสามัคคี (ท่งเซียเซี่ยงตึ้ง) หาดใหญ่ ได้รับแจ้งขอความช่วยเหลือว่ามีเด็กติดอยู่ภายในรถยนต์กระบะ ซึ่งจอดอยู่หน้าบริษัทแห่งหนึ่งริมทางคู่ขนานถนนลพบุรีราเมศวร์ เขตเทศบาลเมืองคลองแห อ.หาดใหญ่ จ.สงขลา ตรงข้ามกับตลาดพงษ์เจริญ

ทางหน่วยกู้ภัยจึงรีบไปช่วยเหลือ พบรถกระบะอีซูซุตอนเดียว สีเทา ป้ายทะเบียน ผบ 9719 สงขลา จอดติดเครื่องอยู่ และมีเด็กชายอายุ 1 ปี 10 เดือน ติดอยู่ภายในรถ โดยเด็กกำลังนั่งหมุนพวงมาลัยฝั่งคนขับเล่น ไม่มีทีท่าว่าจะตกใจอะไร และที่ปัดน้ำฝนก็ทำงานด้วย ซึ่งเหตุการณ์นี้น่าจะมาจากความซุกซนของเด็กที่ไปกดปุ่มภายในรถเล่น และไปโดนปุ่มล็อกประตูเข้า

หน่วยกู้ภัยจึงได้ใช้เหล็กตะขอเกี่ยวปลดล็อกด้วยความชำนาญจึงเปิดประตูได้ในเวลาไม่นาน และเด็กชายที่อยู่ภายในรถมีท่าทางที่ปกติ ไม่ได้ตกใจกลัวหรือร้องไห้แต่อย่างใด พ่อกับแม่รีบเข้าไปอุ้มออกมาด้วยความเป็นห่วงและโล่งใจ

จากการสอบถาม นายศราวุธ เมฆสุวรรณ พ่อของเด็กบอกว่า ขับรถมาส่งภรรยาที่ทำงานแถวที่รถจอดอยู่ และพากันลงไปทำธุระ ปรากฏว่าน่าจะมาจากความซนของลูกที่ไปกดปุ่มในรถเล่นทั้งปุ่มล็อกประตูและที่ปัดน้ำฝน เพราะปกติจะพาลูกเดินทางมาจาก อ.รัตภูมิ มาส่งภรรยาทำงานที่หาดใหญ่เป็นประจำทุกวัน และตามประสาเด็กที่ซุกซุกชอบกดปุ่มนู่นนี่นั่น หรือแม่แต่ปุ่มแอร์ก็เคยเปิดปิดเล่น จึงอยากฝากเตือนไปยังพ่อแม่ว่าอย่าประมาท อย่าปล่อยเด็กไว้ในรถเพียงลำพังเพราะอาจจะเกิดเหตุการณ์แบบนี้ขึ้นได้

เพราะฉะนั้นแล้วจึงอยากฝากเตือนผู้ปกครองทุกท่าน ให้ระมัดระวังเหตุการณ์เช่นนี้ เพราะเพียงเสี่ยววินาทีเดียวก็สามารถทำให้เด็กๆ ตกอยู่ในอันตรายได้เช่นกันค่ะ

อ้างอิงจาก : https://mgronline.com/south/detail/9650000023343

Writer Profile : Jicko

  • Social Media :

  • Official Sponsors :
  • Samitivej Hospital

Generic placeholder image

บทความที่เกี่ยวข้อง



Update
Banner Banner
เมื่อคุณแม่หลายท่านเป็นกังวลกับเรื่องพัฒนาการสมองและภูมิคุ้มกันที่แตกต่างกันของลูกน้อยที่ผ่าคลอดกับเด็กคลอดธรรมชาติ กลัวว่าลูกน้อยจะมีโอกาสป่วยง่ายหรือมีพัฒนาการสมองช้ากว่าเพื่อนๆ ทำให้คุณแม่ต้องใส่ใจกับการดูแลลูกน้อยมากยิ่งขึ้น เสมือนการเร่งเสริมสร้างเกราะคุ้มกันให้ลูกน้อยเติบโตพร้อมปรับตัวกับโลกยุคใหม่ที่เต็มไปด้วยการเปลี่ยนแปลง วันนี้เราจะพาไปดูเคล็ดไม่ลับ ฉบับการดูแลพัฒนาการสมองของลูกน้อยและภูมิคุ้มกันของเด็กผ่าคลอดที่คุณแม่ไม่ควรมองข้าม ช่วยเติมเต็มในสิ่งที่ลูกผ่าคลอดต้องการได้ ไปดูกันเลย! เกราะคุ้มกันแรกที่หายไปของเด็กผ่าคลอด เด็กผ่าคลอดมักจะป่วยง่ายหรือมีปัญหาสุขภาพมากกว่าเด็กที่คลอดโดยธรรมชาติ เพราะสูญเสียโอกาสในการได้รับเชื้อจุลินทรีย์สุขภาพ ผ่านทางบริเวณช่องคลอดของคุณแม่ ทำให้เกราะคุ้มกันแรกเกิดของลูกน้อยผ่าคลอดหายไปส่งผลให้เด็กมีพัฒนาการทางระบบภูมิคุ้มกันตั้งต้นช้ากว่าเด็กที่คลอดตามธรรมชาติ บิฟิโดแบคทีเรียม แล็กทิส (B. lactis) เป็นจุลินทรีย์ชนิดดีที่ช่วยเสริมสร้างภูมิคุ้มกันตั้งต้น โดยเฉพาะระบบภูมิคุ้มกันในระบบทางเดินอาหาร คุณแม่จึงต้องเร่งเสริมสร้างเกราะคุ้มกันให้ลูกน้อยมีพื้นฐานที่ดีตั้งแต่เริ่มต้น เพื่อช่วยให้ลูกน้อยของเรามีมีระบบภูมิคุ้มกันที่ดีขึ้น เสริมสร้างพัฒนาการด้านสมองของเด็กผ่าคลอดด้วย “แอลฟาแล็ค สฟิงโกไมอีลิน” “แอลฟาแล็ค สฟิงโกไมอีลิน” คือสารอาหารที่พบมากในนมแม่ เป็นส่วนสำคัญที่ทำให้การทำงานสมองของลูกน้อยมีประสิทธิภาพ สร้างสมองไวกว่าเดิม เชื่อมต่อเซลล์สมอง 1 แสนล้านเซล์ อัพเกรดเด็กเจนใหม่ โดยสร้างสารสื่อประสาทในสมอง และเพิ่มความเร็วการส่งสัญญาณประสาทแบบก้าวกระโดด “สฟิงโกไมอีลิน” คือ ไขมันกลุ่มฟอสโฟไลปิด พบได้มากในน้ำนมแม่ที่อุดมไปด้วยสารอาหารกว่า 200 ชนิด ซึ่ง “สฟิงโกไมอีลิน”เป็นองค์ประกอบในการสร้างปลอกไมอีลิน ซึ่งมีผลต่อการทำงานของสมองให้ส่งสัญญาณประสาทได้ไวและประมวลผลอย่างมีประสิทธิภาพ ทำให้เกิดการจดจำเร็ว เรียนรู้ไว สมองของเด็กผ่าคลอดและเด็กที่คลอดตามธรรมชาติ มีการสร้างไมอีลินในสมองแตกต่างกัน โดยเฉพาะที่ส่วนของสมอง ที่ทำหน้าที่เชื่อมโยงระหว่างสมองซีกซ้ายและซีกขวา คุณแม่จึงควรคำนึงถึงจุดเริ่มต้นที่แตกต่าง ของเด็กผ่าคลอดเจนใหม่ ด้วยการเตรียมสมองไวและภูมิคุ้มกันที่ดีด้วย “แอลฟาแล็ค สฟิงโกไมอีลิน” และ บิฟิโดแบคทีเรียม แล็กทิส (B. lactis) จากนมแม่ให้ลูกน้อยยิ่งเริ่มเร็วก็ยิ่งดี เพราะพัฒนาการสมองที่ดีในวัยเด็ก ถือเป็นรากฐานสำคัญ ไม่ว่าจะเป็นการมองเห็น การได้ยิน หรือการเรียนรู้ภาษาสิ่งเหล่านี้ล้วนเกิดจากพัฒนาการของสมองเพราะสมองคือจุดเริ่มต้น ของทุกพัฒนาการของลูกน้อย เตรียมพร้อมเด็กผ่าคลอดให้มีสมองไวและภูมิคุ้มกันที่ดีขึ้นได้ คุณแม่สามารถเติมเต็มในสิ่งที่ลูกน้อยผ่าคลอดต้องการได้ด้วยสารอาหารที่สำคัญอย่างเช่น “แอลฟาแล็ค สฟิงโกไมอีลิน” ที่ช่วยเพิ่มความเร็วในการส่งสัญญาณประสาทได้เร็วและมีประสิทธิภาพมากขึ้น และโพรไบโอติก บิฟิโดแบคทีเรียม แล็กทิส (B. lactis) ตัวช่วยที่ทำให้ลูกน้อยมีภูมิคุ้มกันสุขภาพที่ดี ดังนั้นคุณแม่ก็วางใจได้ หากเราเสริมสร้าง…
3 กันยายน 2568

anal porno zdarma culi nudi al mare free sex videos antalya escort

เราใช้คุกกี้เพื่อพัฒนาประสิทธิภาพ และประสบการณ์ที่ดีในการใช้เว็บไซต์ของคุณ คุณสามารถศึกษารายละเอียดได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และสามารถจัดการความเป็นส่วนตัวเองได้ของคุณได้เองโดยคลิกที่ ตั้งค่า

Privacy Preferences

คุณสามารถเลือกการตั้งค่าคุกกี้โดยเปิด/ปิด คุกกี้ในแต่ละประเภทได้ตามความต้องการ ยกเว้น คุกกี้ที่จำเป็น

Allow All
Manage Consent Preferences
  • Always Active

Save