fbpx

NEWS: นำร่องฉีดวัคซีนซิโนฟาร์ม ให้เด็ก 43 โรงเรียน เป็นเด็กทั่วไปที่มีอายุ 10-18 ปี

Writer : Lalimay
: 10 กันยายน 2564

โครงการ “VACC 2 School” เป็นโครงการที่ราชวิทยาลัยจุฬาภรณ์นำร่องฉีดวัคซีนบริจาค “ซิโนฟาร์ม” ให้กับเด็กและเยาวชน อายุระหว่าง 10-18 ปี เพื่อติดตามศึกษาผลของวัคซีน และการกลับคืนสู่การศึกษาปกติอย่างเป็นระบบ 

โดยให้สถานศึกษายื่นความประสงค์ขอรับการจัดสรรวัคซีนแก่กลุ่มนักเรียนในสังกัด แบบไม่เสียค่าใช้จ่าย จำนวน 50,000 ราย ทั้งนี้ ที่ตั้งสถานศึกษาอยู่ในพื้นที่กรุงเทพฯ และปริมณฑลเท่านั้น ล่าสุดมีรายชื่อโรงเรียนที่เข้าโครงการออกมาแล้ว ดังนี้

สถานศึกษาได้รับการจัดสรรทั้งสิ้น 43 โรงเรียน มีจำนวนนักเรียน 50,479 ราย

1.โรงเรียนโพธิสารพิทยากร

2.โรงเรียนบดินทรเดชา (สิงห์ สิงหเสนี)

3.โรงเรียนสวนกุหลาบวิทยาลัย รังสิต

4.โรงเรียนรัตนบัณฑิตวิทยา

5.โรงเรียนสันติสุขวิทยา

6.โรงเรียนธัญบุรี

7.โรงเรียนสาธิตพัฒนา

8.โรงเรียนวัฒนาวิทยาลัย

9.โรงเรียนเผดิมศึกษา

10.โรงเรียนนานาชาติคริสเตียนกรุงเทพ

11.โรงเรียนเด็กสากล นิมิตใหม่

12.โรงเรียนเปรมประชาวัฒนา

13.โรงเรียนนานาชาติกลอรี่สิงคโปร์

14.โรงเรียนวัดนวลนรดิศ

15.โรงเรียนวัดบางน้ำผึ้งนอก

16.St.Stephen’s International School

17.โรงเรียนเพลินพัฒนา

18.โรงเรียนมัธยมปัญญารัตน์

19.โรงเรียนกว่างเจ้า

20.โรงเรียนกรุงเทพคริสเตียนวิทยาลัย

21.โรงเรียนวรราชาทินัดดามาตุวิทยา

22.โรงเรียนทอรัก

23.โรงเรียนแช่มเสริม

24.โรงเรียนสุวรรณารามวิทยาคม

25.King’s College International School Bangkok

26.โรงเรียนทวีธาภิเศก

27.โรงเรียนบดินทรเดชา (สิงห์ สิงหเสนี) 2

28.โรงเรียนสามเสนวิทยาลัย

29.โรงเรียนวัดทรงธรรม

30.โรงเรียนสวนอักษร

31.โรงเรียนสาธิตพัฒนา ฝ่ายมัธยม

32.ศูนย์การเรียนรุ่งอรุณ

33.โรงเรียนสตรีวิทยา

34.โรงเรียนศึกษานารีวิทยา

35.โรงเรียนฐานปัญญา

36.โรงเรียนศึกษานารี

37.โรงเรียนสามโคก

38.โรงเรียนรุจิเสรีวิทยา

39.โรงเรียนมัธยมนครรังสิต

40.โรงเรียนกรพิทักษ์ศึกษา

41.โรงเรียนเด็กสากล

42.โรงเรียนจิตรลดาวิชาชีพ

43.โรงเรียนสาธิตจุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย ฝ่ายประถม

โดยสามารถเริ่มนัดฉีดวัคซีนให้กลุ่มนักเรียนได้ตั้งแต่วันที่ 20 กันยายนเป็นต้นไป เพื่อเสริมสร้างภูมิคุ้มกันและเตรียมความพร้อมให้นักเรียนก่อนเปิดภาคเรียนใหม่ ซึ่งต้องเข้ารับวัคซีนได้ที่ศูนย์ฉีดวัคซีนตัวเลือกซิโนฟาร์ม ราชวิทยาลัยจุฬาภรณ์ บมจ.โทรคมนาคม อาคาร 9 ถนนแจ้งวัฒนะเท่านั้น

อ้างอิงจาก

https://www.matichon.co.th/covid19/news_2931875

 

Writer Profile : Lalimay

  • Blog :

  • Official Sponsors :
  • Samitivej Hospital

Generic placeholder image

บทความที่เกี่ยวข้อง



Update
Banner Banner
เมื่อคุณแม่หลายท่านเป็นกังวลกับเรื่องพัฒนาการสมองและภูมิคุ้มกันที่แตกต่างกันของลูกน้อยที่ผ่าคลอดกับเด็กคลอดธรรมชาติ กลัวว่าลูกน้อยจะมีโอกาสป่วยง่ายหรือมีพัฒนาการสมองช้ากว่าเพื่อนๆ ทำให้คุณแม่ต้องใส่ใจกับการดูแลลูกน้อยมากยิ่งขึ้น เสมือนการเร่งเสริมสร้างเกราะคุ้มกันให้ลูกน้อยเติบโตพร้อมปรับตัวกับโลกยุคใหม่ที่เต็มไปด้วยการเปลี่ยนแปลง วันนี้เราจะพาไปดูเคล็ดไม่ลับ ฉบับการดูแลพัฒนาการสมองของลูกน้อยและภูมิคุ้มกันของเด็กผ่าคลอดที่คุณแม่ไม่ควรมองข้าม ช่วยเติมเต็มในสิ่งที่ลูกผ่าคลอดต้องการได้ ไปดูกันเลย! เกราะคุ้มกันแรกที่หายไปของเด็กผ่าคลอด เด็กผ่าคลอดมักจะป่วยง่ายหรือมีปัญหาสุขภาพมากกว่าเด็กที่คลอดโดยธรรมชาติ เพราะสูญเสียโอกาสในการได้รับเชื้อจุลินทรีย์สุขภาพ ผ่านทางบริเวณช่องคลอดของคุณแม่ ทำให้เกราะคุ้มกันแรกเกิดของลูกน้อยผ่าคลอดหายไปส่งผลให้เด็กมีพัฒนาการทางระบบภูมิคุ้มกันตั้งต้นช้ากว่าเด็กที่คลอดตามธรรมชาติ บิฟิโดแบคทีเรียม แล็กทิส (B. lactis) เป็นจุลินทรีย์ชนิดดีที่ช่วยเสริมสร้างภูมิคุ้มกันตั้งต้น โดยเฉพาะระบบภูมิคุ้มกันในระบบทางเดินอาหาร คุณแม่จึงต้องเร่งเสริมสร้างเกราะคุ้มกันให้ลูกน้อยมีพื้นฐานที่ดีตั้งแต่เริ่มต้น เพื่อช่วยให้ลูกน้อยของเรามีมีระบบภูมิคุ้มกันที่ดีขึ้น เสริมสร้างพัฒนาการด้านสมองของเด็กผ่าคลอดด้วย “แอลฟาแล็ค สฟิงโกไมอีลิน” “แอลฟาแล็ค สฟิงโกไมอีลิน” คือสารอาหารที่พบมากในนมแม่ เป็นส่วนสำคัญที่ทำให้การทำงานสมองของลูกน้อยมีประสิทธิภาพ สร้างสมองไวกว่าเดิม เชื่อมต่อเซลล์สมอง 1 แสนล้านเซล์ อัพเกรดเด็กเจนใหม่ โดยสร้างสารสื่อประสาทในสมอง และเพิ่มความเร็วการส่งสัญญาณประสาทแบบก้าวกระโดด “สฟิงโกไมอีลิน” คือ ไขมันกลุ่มฟอสโฟไลปิด พบได้มากในน้ำนมแม่ที่อุดมไปด้วยสารอาหารกว่า 200 ชนิด ซึ่ง “สฟิงโกไมอีลิน”เป็นองค์ประกอบในการสร้างปลอกไมอีลิน ซึ่งมีผลต่อการทำงานของสมองให้ส่งสัญญาณประสาทได้ไวและประมวลผลอย่างมีประสิทธิภาพ ทำให้เกิดการจดจำเร็ว เรียนรู้ไว สมองของเด็กผ่าคลอดและเด็กที่คลอดตามธรรมชาติ มีการสร้างไมอีลินในสมองแตกต่างกัน โดยเฉพาะที่ส่วนของสมอง ที่ทำหน้าที่เชื่อมโยงระหว่างสมองซีกซ้ายและซีกขวา คุณแม่จึงควรคำนึงถึงจุดเริ่มต้นที่แตกต่าง ของเด็กผ่าคลอดเจนใหม่ ด้วยการเตรียมสมองไวและภูมิคุ้มกันที่ดีด้วย “แอลฟาแล็ค สฟิงโกไมอีลิน” และ บิฟิโดแบคทีเรียม แล็กทิส (B. lactis) จากนมแม่ให้ลูกน้อยยิ่งเริ่มเร็วก็ยิ่งดี เพราะพัฒนาการสมองที่ดีในวัยเด็ก ถือเป็นรากฐานสำคัญ ไม่ว่าจะเป็นการมองเห็น การได้ยิน หรือการเรียนรู้ภาษาสิ่งเหล่านี้ล้วนเกิดจากพัฒนาการของสมองเพราะสมองคือจุดเริ่มต้น ของทุกพัฒนาการของลูกน้อย เตรียมพร้อมเด็กผ่าคลอดให้มีสมองไวและภูมิคุ้มกันที่ดีขึ้นได้ คุณแม่สามารถเติมเต็มในสิ่งที่ลูกน้อยผ่าคลอดต้องการได้ด้วยสารอาหารที่สำคัญอย่างเช่น “แอลฟาแล็ค สฟิงโกไมอีลิน” ที่ช่วยเพิ่มความเร็วในการส่งสัญญาณประสาทได้เร็วและมีประสิทธิภาพมากขึ้น และโพรไบโอติก บิฟิโดแบคทีเรียม แล็กทิส (B. lactis) ตัวช่วยที่ทำให้ลูกน้อยมีภูมิคุ้มกันสุขภาพที่ดี ดังนั้นคุณแม่ก็วางใจได้ หากเราเสริมสร้าง…
3 กันยายน 2568

anal porno zdarma culi nudi al mare free sex videos antalya escort

เราใช้คุกกี้เพื่อพัฒนาประสิทธิภาพ และประสบการณ์ที่ดีในการใช้เว็บไซต์ของคุณ คุณสามารถศึกษารายละเอียดได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และสามารถจัดการความเป็นส่วนตัวเองได้ของคุณได้เองโดยคลิกที่ ตั้งค่า

Privacy Preferences

คุณสามารถเลือกการตั้งค่าคุกกี้โดยเปิด/ปิด คุกกี้ในแต่ละประเภทได้ตามความต้องการ ยกเว้น คุกกี้ที่จำเป็น

Allow All
Manage Consent Preferences
  • Always Active

Save